คำแนะนำการผสมและการใช้วัตถุดิบ

ถามโดย: dharmaamm เมื่อ: November 22, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

คำถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตร

มีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรและการใช้วัตถุดิบดังนี้ค่ะ:

  1. สบู่กลีเซอรีนก้อน: ทำสบู่กลีเซอรีนก้อนแล้วมีฟองน้อย อยากเพิ่มฟอง สามารถเติมสารซักฟอกที่สร้างฟองตัวไหนได้บ้างคะ และเติมในเปอร์เซ็นต์เท่ากับที่แนะนำไว้เลยไหมคะ
  2. ความแข็งของสบู่กลีเซอรีนก้อน: ถ้าเติม AminoWash จะทำให้เนื้อสบู่แข็งขึ้นได้รึเปล่าคะ เพราะเบสกลีเซอรีนจะนิ่มลงเมื่อเติมส่วนผสมมากขึ้น ก่อนหน้านี้จำได้ว่าเคยอ่านเห็นตัวเพิ่มฟองที่ทำให้เนื้อสบู่แข็งขึ้นได้นอกจาก AminoWash แต่ตอนนี้เห็นแค่ตัวเดียวค่ะ
  3. PEG-40 Hydrogenated Castor Oil: PEG-40 Hydrogenated Castor Oil คือใช้ละลายน้ำมันที่จะเติมในสูตรเพื่อเพิ่มสรรพคุณรึเปล่าคะ เห็นวิธีผสมบอกว่าละลายในน้ำโดยผสมกับส่วนน้ำมันก่อน และใส่ในสูตรได้กี่เปอร์เซ็นต์คะ
  4. สารต้านไกลเคชั่น: สารสกัดเปลือกส้ม (Orange Peel Extract) สามารถใช้แทนสารสกัดบ๊วยญี่ปุ่น (Ume Extract) เพื่อต้านไกลเคชั่นและลดโทนผิวเหลืองบนใบหน้าได้หรือไม่คะ
  5. Emollients ในครีมกันแดด: ระหว่าง LipidSoft Lite กับ LipidSoft Dry ตัวไหนเหมาะสมกว่าสำหรับการช่วยเกลี่ยเนื้อและลดความมันวาว/เหนอะหนะของครีมกันแดดคะ

คำตอบ

คำแนะนำการผสม

สารสกัดเปลือกส้ม (Orange Peel Extract) กับ สารสกัดบ๊วยญี่ปุ่น (Ume Extract) สำหรับการต้านไกลเคชั่นและลดโทนผิวเหลือง

เกี่ยวกับคำถามที่ว่าสารสกัดเปลือกส้มสามารถใช้แทนสารสกัดบ๊วยญี่ปุ่นเพื่อต้านไกลเคชั่นและลดโทนผิวเหลืองบนใบหน้าได้หรือไม่ ส่วนผสมแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและกลไกการทำงานเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน

  • สารสกัดบ๊วยญี่ปุ่น (Ume Extract) เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะสำหรับคุณสมบัติในการต้านไกลเคชั่น ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาผิวเหลืองที่อาจเกิดขึ้นตามอายุอันเนื่องมาจากกระบวนการนี้ คำอธิบายระบุว่าสารสกัดนี้ช่วยยับยั้งกระบวนการไกลเคชั่นผ่านหลายกลไกและลด AGEs (advanced glycation end products) ได้ แนะนำให้ใช้ในสูตรผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยทุกชนิด ในอัตรา 1-4% (แนะนำ 2-3%) ผสมในส่วนของน้ำที่อุณหภูมิไม่เกิน 40°C
  • สารสกัดเปลือกส้ม (Orange Peel Extract) (โดยเฉพาะ Hesperidin Methyl Chalcone) ก็มีฤทธิ์ต้านไกลเคชั่นเช่นกัน แต่คำอธิบายเน้นไปที่การกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต โดยเฉพาะเพื่อลดรอยคล้ำใต้ตา แม้ว่าจะสามารถใช้ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำหรับผิวหน้าได้ แต่ประโยชน์หลักที่ระบุไว้เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนโลหิต ใช้ในอัตรา 1-5% ผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C

แม้ว่าทั้งสองชนิดจะมีคุณสมบัติต้านไกลเคชั่น แต่การทำงานของสารสกัดบ๊วยญี่ปุ่นจะเน้นไปที่การป้องกันผิวเหลืองที่เกิดจากไกลเคชั่นโดยตรง ตามคำแนะนำเดิม การทดลองใช้ส่วนผสมทั้งสองชนิดในสูตรของคุณเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพิจารณาว่าชนิดใดให้ผลลัพธ์ที่ต้องการในการลดโทนผิวเหลืองเข้มบนใบหน้าของคุณ

LipidSoft Lite กับ LipidSoft Dry สำหรับครีมกันแดด

สำหรับการปรับปรุงการเกลี่ยและการลดความมันวาว/เหนอะหนะของครีมกันแดด ทั้ง LipidSoft Lite และ LipidSoft Dry เป็น Emollient ที่มีเนื้อบางเบาซึ่งสามารถช่วยได้

  • LipidSoft Lite มีลักษณะเนื้อบางเบามาก ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน ให้ความรู้สึกเบา นุ่ม และเรียบเนียนบนผิว ให้ความเงาต่ำ เหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการความแมทท์หรือลดความเงา มีความคล้ายคลึงกับ LipidSoft Dry แต่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าและเกลี่ยง่ายกว่า เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน ไม่ทำให้อุดตัน
  • LipidSoft Dry II เน้นที่ความบางเบาและให้ความรู้สึกแห้ง เพื่อลดความเหนอะหนะและเพิ่มความเรียบเนียนให้กับสูตร เหมาะสำหรับใช้ในสูตรครีมกันแดด หรือสูตรครีมที่มีความเหนอะหนะสูง เพื่อปรับเนื้อสูตรให้บางเบา เรียบเนียน และแห้ง มีความนุ่ม/เรียบเนียนน้อยกว่าชนิดอื่น แต่ให้ความแห้งที่มาพร้อมความนุ่มที่โดดเด่น ทำให้เหมาะสำหรับผิวมันและสูตรเมคอัพที่ต้องการการเกลี่ยสีที่สม่ำเสมอและเรียบเนียนโดยไม่ต้องการความชุ่มชื้นให้กับผิว ไม่ทำให้อุดตัน

จากคำอธิบาย LipidSoft Dry II ถูกเน้นย้ำโดยเฉพาะสำหรับความรู้สึก "แห้ง" และความเหมาะสมในการลดความเหนอะหนะและความเงาในสูตรต่างๆ เช่น ครีมกันแดด LipidSoft Lite ก็ช่วยลดความเงาและบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่า หากเป้าหมายหลักคือการลดความมันและความเงา LipidSoft Dry II อาจเหมาะสมกว่า

หากพบว่าการใช้ Emollient เหล่านี้ยังไม่ช่วยให้เกลี่ยเนื้อได้ดีพอ อาจพิจารณาเพิ่ม Isododecane ซึ่งมีจุดเด่นในการช่วยเกลี่ยเนื้อได้ดีกว่าและให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ และระเหยเร็ว ตามที่เคยแนะนำไป

การเพิ่มสารซักฟอกเพื่อสร้างฟองในสบู่กลีเซอรีนก้อน

ในการเพิ่มฟองในสบู่กลีเซอรีนก้อน แนะนำให้ใช้ Creamy Foamer (Sodium Methyl Cocoyl Taurate) ซึ่งเป็นสารช่วยเพิ่มฟอง

  • Creamy Foamer สร้างฟองที่นุ่มและเรียบเนียน เหมาะสำหรับใช้ในสบู่ ใช้ในอัตรา 3-30% (แนะนำ 10-15%) ซึ่งสามารถปรับเพิ่มลดได้ตามปริมาณฟองที่ต้องการ ควรผสมในส่วนของน้ำ คนเบาๆ ให้เข้ากัน หากละลายยาก สามารถอุ่นเล็กน้อย (ไม่เกิน 50°C) เพื่อช่วยให้ละลายง่ายขึ้น
  • สำหรับการทำให้เนื้อสบู่แข็งขึ้น ไม่แนะนำให้ใช้ AminoWash (Sodium Lauroyl Glutamate) เพื่อจุดประสงค์นี้เนื่องจากมีราคาสูง Sodium Lactate เป็นส่วนผสมที่สามารถช่วยให้สบู่กลีเซอรีนก้อนแข็งตัวขึ้นได้ Sodium Lactate (60% Liquid) ใช้ในอัตรา 2-10% (แนะนำ 3-5%) และผสมในส่วนของน้ำ

ดังนั้น ใช้ Creamy Foamer เพื่อเพิ่มฟอง และใช้ Sodium Lactate หากต้องการช่วยให้เนื้อสบู่แข็งขึ้น

PEG-40 Hydrogenated Castor Oil

PEG-40 Hydrogenated Castor Oil เป็นสารประสานน้ำ-น้ำมัน (solubilizer) ที่ใช้เพื่อช่วยนำพาส่วนผสมที่เป็นน้ำมันในปริมาณเล็กน้อย เช่น น้ำหอม หรือน้ำมันหอมระเหย ให้เข้ากับสูตรที่เป็นน้ำได้

โดยทั่วไปไม่ได้ใช้เพื่อละลายน้ำมันที่เป็นประโยชน์ในปริมาณมากในสูตรที่เป็นน้ำ ปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของน้ำมันที่ต้องการนำพาเข้าสู่สูตร รวมถึงความเข้มข้นที่ต้องการในผลิตภัณฑ์สุดท้าย หากคุณสามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับน้ำมันที่ต้องการเพิ่มและส่วนประกอบในสูตรของคุณได้ จะสามารถให้คำแนะนำอัตราการใช้ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นได้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
เครื่องสำอาง
Isododecane (Germany)
Isododecane (Germany)
เครื่องสำอาง
AminoWash™ (Sodium Lauroyl Glutamate, Fine)
AminoWash™ (Sodium Lauroyl Glutamate, Fine)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
เครื่องสำอาง
Orange Peel Extract (Hesperidin Methyl Chalcone 98%)
Orange Peel Extract (Hesperidin Methyl Chalcone 98%)
เครื่องสำอาง
Ume Extract (Anti-Glycation)
Ume Extract (Anti-Glycation)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Dry II (Dicaprylyl Carbonate)
LipidSoft™ Dry II (Dicaprylyl Carbonate)
เครื่องสำอาง