คำแนะนำการผสม: การรวม Lemon Peel Bioferment และ Ascorbyl Palmitate

ถามโดย: gunn_hermes เมื่อ: February 19, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการพัฒนาสูตรที่ใช้ Lactobacillus/Citrus Medica Limonum (Lemon) Peel Ferment Extract และ Ascorbyl Palmitate มีคำถามดังนี้ครับ:

  • สามารถใช้สารทั้งสองตัวนี้ร่วมกันได้หรือไม่ครับ?
  • Ascorbyl Palmitate การเตรียมไม่ต้องควบคุมค่า pH จริงหรือไม่ครับ?
  • ในลำดับการบำรุงผิว ทาตัวนี้แล้ว ใช้ตัวอื่นต่อได้เลยหรือไม่ครับ?

และมีขั้นตอนการผสมที่ลองร่างไว้ รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ:

  1. อุ่น Ethoxydiglycol กับ Laureth-23 รอให้เย็นแล้วเติม Vitamin E
  2. เติมน้ำกลั่น ในส่วนผสมข้อ 1 (จำเป็นต้องเติม Ferulic acid หรือไม่?)
  3. เติม Ascorbyl Palmitate แล้วคนให้ละลาย
  4. เติม Lemon Peel Ferment Extract ในส่วนผสมข้อ 3
  5. เติม Phenoxyethanol เป็นสารกันเสีย

ขอคำแนะนำเกี่ยวกับความเป็นไปได้และความถูกต้องของขั้นตอนเหล่านี้ด้วยครับ

คำตอบ

คำแนะนำการผสมสำหรับ Lemon Peel Bioferment และ Ascorbyl Palmitate

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสม Lactobacillus/Citrus Medica Limonum (Lemon) Peel Ferment Extract และ Ascorbyl Palmitate ในสูตรของคุณครับ

นี่คือคำแนะนำตามคำถามและขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอ:

ความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ใช่ครับ คุณสามารถใช้ Lemon Peel Bioferment และ Ascorbyl Palmitate ร่วมกันในสูตรได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งไว้ ตัวหนึ่งละลายในน้ำ (Lemon Peel Bioferment) และอีกตัวหนึ่งละลายในน้ำมัน (Ascorbyl Palmitate) ในการรวมส่วนผสมทั้งสองเข้าด้วยกันให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่คงตัว เช่น ครีมหรือโลชั่น คุณจะต้องใช้สารประสานเนื้อ (emulsifier) เพื่อสร้างอิมัลชัน (เช่น ระบบน้ำในน้ำมัน หรือน้ำมันในน้ำ) ที่ช่วยให้เฟสน้ำมันและเฟสน้ำเข้ากันได้ดีครับ

ความไวต่อค่า pH ของ Ascorbyl Palmitate

Ascorbyl Palmitate เป็นวิตามินซีรูปแบบที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งโดยทั่วไปมีความคงตัวมากกว่า L-Ascorbic Acid โดยเฉพาะในเรื่องความไวต่อค่า pH ไม่มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงค่า pH เท่า L-Ascorbic Acid แม้ว่าจะคงตัวในช่วง pH ที่กว้างกว่า แต่ก็ยังควรหลีกเลี่ยงสภาวะที่เป็นกรดหรือด่างรุนแรงมากเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของสารเมื่อเวลาผ่านไป ช่วง pH ทั่วไปสำหรับสูตรเครื่องสำอางมักจะเหมาะสมครับ

การใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น

ใช่ครับ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้โดยทั่วไปสามารถใช้ในขั้นตอนการดูแลผิวและทาร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ตามปกติ เช่นเดียวกับการทาเซรั่ม ครีม หรืออื่น ๆ ครับ

ความจำเป็นของ Ferulic Acid

การเพิ่ม Ferulic acid ไม่ได้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการผสม Lemon Peel Bioferment และ Ascorbyl Palmitate อย่างไรก็ตาม Ferulic acid เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าทำงานเสริมฤทธิ์กับวิตามินซี (เช่น Ascorbyl Palmitate) และวิตามินอี ช่วยเพิ่มความคงตัวและประโยชน์ในการป้องกันแสงแดด หากคุณต้องการเซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง การรวม Ferulic acid เข้าไปด้วยจะเป็นประโยชน์อย่างมากครับ มี Ferulic acid หลายรูปแบบให้เลือกใช้ เช่น Pure-Ferulic Acid™ ซึ่งต้องละลายในตัวทำละลายอย่าง Ethoxydiglycol หรือ Micromul™ Ferulic Acid ซึ่งเป็นรูปแบบไมโครอิมัลชันที่ละลายน้ำได้ ทำให้ผสมเข้ากับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักได้ง่ายกว่าครับ

วิจารณ์ขั้นตอนการผสมที่เสนอ

ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอมีปัญหาบางประการ เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติการละลายและอุณหภูมิที่เหมาะสมของส่วนผสม:

  1. ขั้นตอนที่ 1 และ 2: การอุ่น Ethoxydiglycol กับ Laureth-23 รอให้เย็น เติมวิตามินอี แล้วเติมน้ำกลั่น ขั้นตอนนี้เป็นการเริ่มต้นสร้างเบสอิมัลชัน วิตามินอีละลายในน้ำมันและสามารถเติมในขั้นตอนนี้ได้ครับ
  2. ขั้นตอนที่ 3: เติม Ascorbyl Palmitate: Ascorbyl Palmitate ละลายในน้ำมันและโดยทั่วไปต้องใช้ความร้อน (ประมาณ 70°C ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์) เพื่อช่วยให้ละลายได้ดีในเฟสน้ำมันหรือตัวทำละลาย ก่อน ที่จะนำไปรวมกับเฟสน้ำและทำอิมัลชัน การเติมหลังจากที่ใส่น้ำเข้าไปแล้วและส่วนผสมเย็นลง อาจทำให้ละลายหรือกระจายตัวได้ไม่ถูกต้องครับ
  3. ขั้นตอนที่ 4: เติม Lemon Peel Ferment Extract: Lemon Peel Bioferment ละลายในน้ำและไวต่อความร้อน ควรเติมในเฟสน้ำ หรือที่พบบ่อยกว่าคือเติมในอิมัลชันสุดท้ายในขั้นตอนการทำให้เย็นลง (อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C) เพื่อรักษาสภาพ การเติมในขั้นตอนนี้หลังจากพยายามละลาย Ascorbyl Palmitate ที่ละลายในน้ำมัน ไม่ใช่ขั้นตอนที่ถูกต้องครับ
  4. ขั้นตอนที่ 2 (Ferulic Acid): หากคุณใช้ Pure-Ferulic Acid™ จะไม่ละลายในน้ำ และไม่สามารถละลายได้เพียงแค่เติมลงในน้ำหรือส่วนผสมน้ำ/ตัวทำละลายในขั้นตอนนี้ ต้องละลายในตัวทำละลายที่เหมาะสม (เช่น Ethoxydiglycol) หรือในเฟสน้ำมันโดยใช้ความร้อน ก่อน การทำอิมัลชัน หากใช้ Micromul™ Ferulic Acid ซึ่งละลายน้ำได้ ควรเติมในเฟสน้ำหรือในขั้นตอนการทำให้เย็นลงครับ

แนวทางการผสมที่ถูกต้อง (แนวคิดทั่วไป):
แนวทางทั่วไปสำหรับการทำอิมัลชันที่มีส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและละลายในน้ำ จะประกอบด้วย:

  • เฟส A (เฟสน้ำมัน): รวมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (เช่น Ascorbyl Palmitate, วิตามินอี) และตัวทำละลาย/สารประสานเนื้อที่ละลายในน้ำมัน (เช่น Ethoxydiglycol, Laureth-23 หากใช้ในเฟสน้ำมัน) ให้ความร้อนเฟสนี้ตามอุณหภูมิที่ต้องการ (เช่น 70°C สำหรับ Ascorbyl Palmitate) เพื่อให้แน่ใจว่าละลายหมด
  • เฟส B (เฟสน้ำ): รวมส่วนผสมที่ละลายในน้ำ (เช่น น้ำ, อาจรวมถึง Micromul™ Ferulic Acid) ให้ความร้อนเฟสนี้ในอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับเฟสน้ำมัน หากจำเป็นสำหรับส่วนผสมอื่น ๆ หรือกระบวนการทำอิมัลชัน
  • การทำอิมัลชัน: ค่อย ๆ เติมเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน (หรือกลับกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารประสานเนื้อ) พร้อมกับคนหรือปั่นอย่างแรงเพื่อสร้างอิมัลชัน
  • ขั้นตอนการทำให้เย็นลง: คนต่อไปในขณะที่อิมัลชันเย็นลง เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน (เช่น Lemon Peel Bioferment) และสารกันเสีย (เช่น Phenoxyethanol) เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าขีดจำกัดความคงตัวของสารเหล่านั้น (เช่น ต่ำกว่า 40°C สำหรับ Lemon Peel Bioferment)

วิธีนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดละลายหรือกระจายตัวอย่างเหมาะสมในเฟสที่ถูกต้อง ก่อนที่จะนำมารวมกันเป็นอิมัลชันที่คงตัวครับ

หวังว่าคำอธิบายโดยละเอียดนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรของคุณนะครับ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate, Enzymatic)
Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate, Enzymatic)
เครื่องสำอาง
Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™)
Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™)
เครื่องสำอาง
Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid)
Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid)
เครื่องสำอาง