คำแนะนำการพัฒนาสูตรคลีนซิ่ง วอเตอร์สำหรับผิวแห้ง
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรคลีนซิ่ง วอเตอร์สำหรับผิวแห้ง และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกส่วนผสม สารทางเลือก และแนวทางการพัฒนาสูตรโดยทั่วไป
สูตรร่างปัจจุบันของฉันประกอบด้วย:
- Coco Wash 3%
- MakeUp-Wash 3%
- Propylene Glycol 10%
- สารสกัดแตงกวา (Cucumber Extract) 5%
- Phenoxyethanol 0.6%
- Disodium EDTA 0.2%
- น้ำ (ยังไม่แน่ใจประเภท)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับ:
- ความสามารถในการทำความสะอาด: ปริมาณและสัดส่วนของ Coco Wash และ MakeUp-Wash เพียงพอสำหรับการเช็ดเครื่องสำอาง เช่น รองพื้นและอายไลเนอร์หรือไม่? ปริมาณที่แนะนำอยู่ในช่วงเท่าใด?
- ไกลคอล: Propylene Glycol ที่ความเข้มข้น 10% เหมาะสมสำหรับผิวแห้ง/ผิวแพ้ง่ายหรือไม่ หรือควรพิจารณาสารทางเลือกอย่าง Butylene Glycol? ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร?
- สารสกัดแตงกวา: 5% เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสารสกัดแตงกวาในสูตรประเภทนี้หรือไม่ และให้ประโยชน์อะไรบ้าง?
- สารกันเสีย: Phenoxyethanol 0.6% เพียงพอหรือไม่ หรือควรพิจารณาสารทางเลือกอย่าง Mild Preserved Eco™? ประสิทธิภาพ กลิ่น และคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร?
- Disodium EDTA: Disodium EDTA มีหน้าที่อะไร และ 0.2% เป็นปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่?
- ชนิดของน้ำ: ควรใช้น้ำประเภทใด (เช่น น้ำกลั่นสำหรับรถยนต์, น้ำกลั่นเกรดเครื่องสำอาง, น้ำ RO, น้ำต้มสุก) ในการทำสูตร?
- การเก็บรักษาส่วนประกอบ: มีแนวทางการเก็บรักษาส่วนประกอบเครื่องสำอางที่เหลือใช้โดยทั่วไปอย่างไร โดยเฉพาะสารสกัด?
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับสูตร Cleansing Water สำหรับผิวแห้ง
จากสูตร Cleansing Water ที่คุณต้องการทดลองทำและข้อสงสัยต่างๆ รวมถึงคำแนะนำจากผู้ใช้งานท่านอื่น ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
ความสามารถในการทำความสะอาด
สูตรเริ่มต้นใช้ Coco Wash และ MakeUp-Wash อย่างละ 3% ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดชนิดอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแห้งและใช้ในผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ Coco Wash และ MakeUp-Wash แนะนำให้ใช้ที่ 3-5% สำหรับการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง หรือสูงสุดถึง 10% หากคุณทดลองใช้แล้วพบว่ายังทำความสะอาดรองพื้นหรืออายไลเนอร์ได้ไม่หมดจดเท่าที่ต้องการ สามารถพิจารณาเพิ่มสัดส่วนของ Coco Wash และ MakeUp-Wash ขึ้นได้ เช่น เพิ่มเป็น 5-6% ตามคำแนะนำของผู้ใช้งานท่านอื่น การเพิ่มสารทำความสะอาดกลุ่มนี้ในปริมาณที่เหมาะสมจะไม่ทำให้ผิวแห้งเสีย แต่จะเพิ่มต้นทุนของสูตรค่ะ
Propylene Glycol vs Butylene Glycol
ในสูตรของคุณใช้ Propylene Glycol 10% ซึ่งเป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้นที่ดี อย่างไรก็ตาม จากคำแนะนำและข้อมูลผลิตภัณฑ์ Butylene Glycol เป็นทางเลือกที่อ่อนโยนกว่า Propylene Glycol และมีโอกาสระคายเคืองผิวน้อยกว่า หากคุณใช้ Propylene Glycol แล้วรู้สึกแสบร้อนหรือไม่สบายผิว โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูงถึง 10% การเปลี่ยนมาใช้ Butylene Glycol ในปริมาณใกล้เคียงกัน (เช่น 8%) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายค่ะ
สารสกัดแตงกวา (Cucumber Extract)
สารสกัดแตงกวามีคุณสมบัติช่วยให้ผิวนุ่มและลดการระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวหน้าและรอบดวงตา การใส่ที่ 5% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (3-5%) และจะช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายผิวและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวแห้งค่ะ
สารกันเสีย (Phenoxyethanol vs Mild Preserved Eco)
สูตรของคุณใช้ Phenoxyethanol 0.6% ซึ่งเป็นสารกันเสียที่นิยมใช้และค่อนข้างปลอดภัย มีประสิทธิภาพต่อแบคทีเรีย แต่ไม่ครอบคลุมเชื้อราเท่าที่ควร และบางครั้งอาจมีกลิ่นเฉพาะตัว Phenoxyethanol (Extra Pure) เป็นเกรดที่มีความบริสุทธิ์สูง ลดความเสี่ยงการระคายเคือง และแนะนำให้ใช้ร่วมกับสารกันเสียอื่นหรือเลือกใช้เกรดที่ครอบคลุมกว่าหากต้องการ การใช้ Mild Preserved Eco™ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งตามที่ผู้ใช้งานท่านอื่นแนะนำ เนื่องจากไม่มีกลิ่นและช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ด้วย Mild Preserved Eco™ ไม่ได้จัดเป็นสารกันเสียตามข้อกำหนดของ อย. แต่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อได้ดี และใช้ในอัตรา 0.5-2.0% หากกังวลเรื่องกลิ่นของ Phenoxyethanol หรือต้องการสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นไปในตัว Mild Preserved Eco™ อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
Disodium EDTA
Disodium EDTA เป็นสารที่ช่วยจับไอออนในน้ำ ป้องกันไม่ให้ไอออนเหล่านี้รบกวนส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตร และช่วยเพิ่มความคงตัวของผลิตภัณฑ์ได้ดี เหมาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ได้ใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์ การใส่ Disodium EDTA 0.2% ตามที่แนะนำ จะช่วยเพิ่มความเสถียรของ Cleansing Water ของคุณได้ค่ะ
ชนิดของน้ำที่ใช้
ไม่แนะนำ ให้ใช้น้ำกลั่นสำหรับเติมหม้อน้ำรถยนต์ในการทำเครื่องสำอางค่ะ น้ำกลั่นสำหรับรถยนต์อาจมีสิ่งเจือปนที่ไม่เหมาะกับการใช้กับผิวหน้า ควรใช้น้ำกลั่นเกรดที่ใช้สำหรับเครื่องสำอางหรือห้องปฏิบัติการ (Distilled Water / Deionized Water) หรือน้ำดื่มระบบ Reverse Osmosis (RO) หรือน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มแล้ว หากใช้น้ำ RO หรือน้ำสะอาด การใส่ Disodium EDTA จะช่วยได้มากค่ะ แต่น้ำกลั่นเกรดเครื่องสำอางจะดีที่สุด
การเก็บรักษาส่วนประกอบที่เหลือ
โดยทั่วไป ส่วนประกอบส่วนใหญ่ควรเก็บในที่แห้ง เย็น พ้นจากแสงแดดและความร้อน ปิดภาชนะให้สนิท สารสกัดบางชนิด เช่น สารสกัดแตงกวา แนะนำให้เก็บในตู้เย็น ควรตรวจสอบคำแนะนำการเก็บรักษาเฉพาะของส่วนประกอบแต่ละชนิดที่คุณซื้อมาค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทดลองทำ Cleansing Water ของคุณนะคะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Propylene Glycol

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Disodium EDTA

Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)

Cucumber Extract (France)

Butylene Glycol

MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)
