คำแนะนำการพัฒนาสูตรสกินแคร์: ครีมทาหน้า, ครีมกันแดดทาตัว และครีมทาตัวให้ความชุ่มชื้น

ถามโดย: zdirti เมื่อ: September 05, 2012 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีปัญหาผิวคือ ผิวผสม แต่ข้างแก้มเป็นผิวแห้งขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย ผิวหน้าหมองๆ ช่วงแก้มจะแห้ง รูขุมขนกว้างและอุดตันง่ายมาก มักมีจุดผื่นแดงๆ ขึ้น มีริ้วรอยก่อนวัยด้วยค่ะ ต้องการทำผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด:

  1. ครีมสำหรับหน้า เพื่อให้ดูกระจ่างขึ้น (ไม่ต้องขาว) ลด/ชะลอริ้วรอย และให้ความชุ่มชื้น

    • ส่วนที่เป็นน้ำมัน: ส่วนตัวใช้น้ำมันอัลมอนด์ที่หน้าแล้วอุดตัน แต่ใช้โจโจ้บาออยล์ได้ สนใจจะผสม Grapeseed, Rosehip และ Evening Primrose ด้วยค่ะ จะเลือกอย่างไรดีคะ และส่วนผสมกี่เปอร์เซ็นต์ดี?
    • Light Cream Maker™: มีวิธีใช้ ปริมาณการใช้เท่าไหร่ และจำเป็นต้องใช้ Thickener อื่นร่วมด้วยหรือไม่เพื่อให้เป็นเนื้อครีม?
    • สารกันเสีย: ที่ไม่มีพาราเบนและฟอร์มาลดีไฮด์มีแบบไหนบ้างคะ หาไม่เจอเลยค่ะ
    • ส่วนที่เป็นน้ำ: ถ้าต้องการแทนบางส่วนของน้ำกลั่นด้วย Hydrosol หรือ Aloe vera gel จะใช้ได้ไหมคะ สัดส่วนประมาณเท่าไหร่?
    • Additive อื่นๆ: เช่น วิตามินซี, วิตามินอี รบกวนช่วยแนะนำด้วยค่ะ
  2. ครีมกันแดดแบบ Physical สำหรับทาตัวช่วงกลางวัน ควรใส่อะไรดีบ้างคะ?

  3. ครีมทาตัว ช่วงกลางคืน เน้นให้ความชุ่มชื้น ควรใส่อะไรบ้างคะ ตอนนี้ใช้น้ำมันสวีทอัลมอนด์ (ที่ใช้กับหน้าไม่ได้) ทาตัวเพียวๆ เลยค่ะ

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการทำสกินแคร์

จากปัญหาผิวของคุณ (ผิวผสม, แก้มแห้งขาดน้ำ, ผิวแพ้ง่าย, มีรอยแดง/อุดตันง่ายบริเวณแก้ม, ริ้วรอยก่อนวัย, ผิวหมองคล้ำ) และเป้าหมายของคุณ (ผิวสว่างใสขึ้น, ลด/ชะลอริ้วรอย, ให้ความชุ่มชื้น) นี่คือคำแนะนำในการทำครีมของคุณเองค่ะ

ครีมทาหน้าเพื่อผิวสว่างใส ลดริ้วรอย และให้ความชุ่มชื้น

สำหรับการดูแลผิวผสม แพ้ง่าย แห้ง และมีปัญหาริ้วรอย การทำครีมบำรุงเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ นี่คือส่วนประกอบต่างๆ ที่แนะนำ:

1. ส่วนของน้ำมัน (Oil Phase)

คุณแจ้งว่าใช้น้ำมันอัลมอนด์แล้วอุดตัน แต่ใช้โจโจ้บาออยล์ได้ดี น้ำมันโจโจ้บา (สีทอง หรือ สีใส) เป็นตัวเลือกที่ดีมากค่ะ เพราะมีโครงสร้างคล้ายน้ำมันตามธรรมชาติของผิว (Sebum) ไม่อุดตันรูขุมขน และเหมาะกับผิวแพ้ง่าย มีวิตามินอีสูงด้วยค่ะ

สำหรับเป้าหมายของคุณ ลองผสมน้ำมันโจโจ้บากับน้ำมันอื่นๆ ที่มีประโยชน์:

  • น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba Oil): เป็นเบสที่ดี ไม่อุดตัน ให้ความชุ่มชื้น ใช้ประมาณ 5-10% ของสูตรทั้งหมด
  • น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grapeseed Oil): เนื้อบางเบา เหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน/เป็นสิวง่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ใช้ได้ที่ 1-5%
  • น้ำมันโรสฮิป (Rose Hip Oil Extra Virgin): ช่วยฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย และให้ความชุ่มชื้นผิวแห้ง/แพ้ง่าย ชนิด Extra Virgin จะมีสีแดงและอุดมด้วย Fatty Acid ใช้ที่ 1-5%
  • น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil): อุดมด้วย GLA ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น ใช้ที่ 1-3%

สัดส่วนน้ำมันรวมทั้งหมดประมาณ 10-20% อาจจะเหมาะสมสำหรับผิวผสม สามารถปรับเพิ่มลดได้ตามความต้องการความชุ่มชื้น สำหรับบริเวณแก้มที่แห้งมาก อาจจะใช้สัดส่วนน้ำมันรวมสูงขึ้น หรือทาครีมซ้ำบริเวณนั้นค่ะ

2. Light Cream Maker™

Light Cream Maker™ เป็นสารประสานเนื้อครีม (Emulsifier) และสารเพิ่มความข้น (Thickener) ชนิด Oil-in-Water ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ความร้อน และสามารถประสานน้ำมันได้ถึง 20% ใช้ได้ในช่วง pH กว้าง 2.5-11 อัตราการใช้ทั่วไปอยู่ที่ 0.5-3% สำหรับครีมเนื้อบางเบา เริ่มต้นที่ 1-1.5% โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้ Thickener อื่นร่วมด้วย หากสัดส่วนน้ำมันไม่เกิน 20% และใช้ Cream Maker ในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากสูตรมีส่วนผสมของ Electrolyte (เช่น สารสกัดบางชนิด หรือเกลือ) อาจทำให้เนื้อครีมอ่อนตัวลงได้ ซึ่งอาจต้องเพิ่มปริมาณ Light Cream Maker™ หรือผสมอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำในรายละเอียดสินค้าค่ะ

วิธีใช้คือ ผสม Light Cream Maker™ ในส่วนของน้ำมัน หรือส่วนของน้ำก็ได้ (ละลายได้ทั้งสองส่วน) หากผสมในส่วนน้ำมัน อาจมีการอุ่นส่วนน้ำมันเล็กน้อยหากมีส่วนของเนยแข็งที่ต้องละลาย จากนั้นนำส่วนน้ำมันและส่วนน้ำมาผสมกัน แล้วคนหรือปั่นให้เข้ากันจนเกิดเนื้อครีม (ปกติใช้เวลา 1-5 นาที) ควรปั่นให้เข้ากันดีเพื่อป้องกันการแยกชั้นหรือเป็นขุยเมื่อทาค่ะ

3. สารกันเสีย (Preservatives)

สำหรับสารกันเสียที่ไม่มีพาราเบนและไม่มีฟอร์มาลดีไฮด์ แนะนำดังนี้ค่ะ:

  • Mild Preserved Eco™: เป็นส่วนผสมของ Ethylhexylglycerin และ Propanediol ไม่จัดเป็นสารกันเสียตามข้อกำหนด อย. แต่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อจุลินทรีย์ และช่วยให้ความชุ่มชื้นในตัว ใช้ที่อัตรา 0.5-2.0%
  • Preserve-Free CE85™: เป็นส่วนผสมของ Caprylyl Glycol และ Ethylhexylglycerin มีฤทธิ์ต้านจุลชีพในวงกว้าง และช่วยให้ความชุ่มชื้น ใช้ที่อัตรา 0.6-1.0%

ทั้งสองชนิดนี้จะผสมในขั้นตอนสุดท้ายของสูตร หลังจากที่ได้เนื้อครีมแล้วและอุณหภูมิลดลงค่ะ

4. ส่วนของน้ำ (Hydrosol / Aloe Vera Gel)

สามารถใช้น้ำ Hydrosol (เช่น Rose Water หรือ Lavender Water) หรือ สารสกัดว่านหางจระเข้ (อัตราส่วน 10:1) แทนน้ำกลั่นบางส่วนได้ค่ะ Hydrosol จะให้กลิ่นหอมอ่อนๆ และมีคุณสมบัติจากพืชนั้นๆ ส่วนสารสกัดว่านหางจระเข้ (FullAssay™) มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลม ลดการระคายเคือง และให้ความชุ่มชื้น สามารถใช้น้ำ Hydrosol แทนน้ำกลั่นได้ 5-20% หรือเติมสารสกัดว่านหางจระเข้ 1-10% ในส่วนของน้ำค่ะ การใช้เบสเจลว่านหางจระเข้สำเร็จรูป (Lite หรือ Heavy) แทนน้ำกลั่น ทั้งหมด ในสูตรที่ใช้ Light Cream Maker™ อาจมีความซับซ้อนในการเข้ากันได้กับ Emulsifier แนะนำให้ใช้เป็นเบสสำเร็จรูปหากไม่ต้องการเริ่มผสมจากศูนย์ค่ะ

5. Additive อื่นๆ (วิตามินซี, วิตามินอี)

เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมสำหรับการเพิ่มความกระจ่างใสและลดริ้วรอยค่ะ:

  • วิตามินซี (Vitamin C): สำหรับผิวสว่างใสและกระตุ้นคอลลาเจน แนะนำ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) ซึ่งเป็นวิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรสูง และซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ใช้ที่ 1-10% (แนะนำ 5% เพื่อประสิทธิภาพที่ดี) ผสมในส่วนของน้ำมัน อีกทางเลือกคือ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) เป็นวิตามินซีที่ละลายในน้ำ เสถียรดี เหมาะสำหรับเน้นเรื่องความขาวกระจ่างใส ใช้ที่ 0.5-10% (นิยมใช้ 3%) ผสมในส่วนของน้ำค่ะ
  • วิตามินอี (Vitamin E): Vitamin E (Tocopheryl Acetate) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เสถียร ช่วยปกป้องผิวและส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร ใช้ที่ 0.1-1% ผสมในส่วนของน้ำมันค่ะ

การใช้วิตามินซีและอีร่วมกันจะช่วยเสริมฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

ครีมกันแดด Physical สำหรับทาตัว (กลางวัน)

ครีมกันแดด Physical ใช้แร่ธาตุอย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ในการสะท้อนและกระจายรังสี UV สำหรับครีมกันแดดทาตัว:

  • ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide): ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA/UVB มองหาชนิดที่ไม่ใช่ Nano หรือชนิด Dispersion เพื่อลดความขาววอกบนผิว Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base) หรือ Zinc Oxide Transparent Dispersion (Isopropyl Palmitate Base) จะใช้งานง่ายกว่าชนิดผง ความเข้มข้นสูงสุดของ Zinc Oxide ที่อนุญาตคือ 25% อัตราการใช้ชนิด Dispersion จะขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ของสารสำคัญใน Dispersion นั้นๆ (เช่น Dispersion 50% ต้องใช้ในสูตรถึง 50% เพื่อให้ได้ Zinc Oxide 25%)
  • ไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide): ป้องกันรังสี UVB เป็นหลัก และ UVA บางส่วน เช่นเดียวกับ Zinc Oxide ควรใช้ชนิด Dispersion หรือผงที่ผ่านการเคลือบ เช่น Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion) หรือ Titanium Dioxide Nanosil เพื่อให้เนื้อสัมผัสดีขึ้น อัตราการใช้ขึ้นอยู่กับค่า SPF ที่ต้องการและเกรดของสาร

การทำครีมกันแดดให้มีค่า SPF ที่ถูกต้องและเสถียรต้องอาศัยการเลือกเกรดของสาร การกระจายตัวที่ดี และการทดสอบ (เช่น การวัดค่า SPF) ซึ่งมีความซับซ้อน การใช้เบสครีมกันแดดสำเร็จรูปอาจเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าค่ะ

ครีมทาตัวให้ความชุ่มชื้น (กลางคืน)

เนื่องจากน้ำมันสวีทอัลมอนด์ทำให้อุดตันที่หน้า คุณอาจจะยังใช้น้ำมันนี้ทาตัวได้หากไม่เกิดปัญหา แต่การทำเป็นครีมจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าการใช้น้ำมันเพียวๆ เพราะครีมมีทั้งส่วนของน้ำมันและส่วนของน้ำที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น

สำหรับครีมทาตัวกลางคืนที่เน้นความชุ่มชื้น พิจารณาส่วนผสมดังนี้:

  • ส่วนของน้ำมัน: ใช้ส่วนผสมของน้ำมันและเนย (Butter) ที่ให้ความชุ่มชื้น เชียบัตเตอร์ (Shea Butter Refined หรือ Ultra Soft) เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผิวแห้ง ช่วยให้ความชุ่มชื้นสูงและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ใช้ได้ที่ 5-20% หรือมากกว่าในครีมทาตัว น้ำมันอื่นๆ เช่น น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันเมล็ดองุ่น หรือแม้แต่น้ำมันสวีทอัลมอนด์ (ถ้าใช้กับตัวได้) ก็สามารถนำมาผสมได้ NanoShea™ (Liquid Shea Butter) เป็นเชียบัตเตอร์ชนิดที่กระจายตัวในน้ำได้ เหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการเนื้อบางเบา หรือสูตรน้ำ
  • ส่วนของน้ำ: เติมสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) เช่น Glycerin หรือ Hyaluronic Acid (อาจใช้ Hyaluronic Acid Gel Base เป็นส่วนหนึ่งของส่วนน้ำ หรือใช้ Hyaluronic Acid ชนิดผง) สารเหล่านี้ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว
  • สารประสานเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้น: ใช้ Cream Maker ที่เหมาะสมกับเนื้อครีมที่ต้องการ (เช่น Light Cream Maker™ สำหรับเนื้อบางเบา หรือ Cream Maker ชนิดอื่นสำหรับเนื้อที่เข้มข้นขึ้น)
  • สารกันเสีย: ใช้สารกันเสียที่เหมาะสม (เช่น Mild Preserved Eco™ หรือ Preserve-Free CE85™) เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์

ครีมลักษณะนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นเพื่อแก้ปัญหาผิวแห้งค่ะ

ข้อควรจำคือ ควรเริ่มทดลองทำในปริมาณน้อยๆ เสมอ ทดสอบบนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริง และปรับสัดส่วนตามการตอบสนองของผิวและเนื้อครีมที่ต้องการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นสะอาดและฆ่าเชื้อแล้วเพื่อป้องกันการปนเปื้อนค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Refined , Deodorised)
Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง
NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
เครื่องสำอาง
Evening Primrose Oil (Refined, 9% GLA)
Evening Primrose Oil (Refined, 9% GLA)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Clear - Deodorized)
Jojoba Oil (Clear - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Ultra Soft)
Shea Butter (Ultra Soft)
เครื่องสำอาง
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide Nanosil
Titanium Dioxide Nanosil
เครื่องสำอาง
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
เครื่องสำอาง
Rose Hip Oil (Extra Virgin)
Rose Hip Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion)
Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion)
เครื่องสำอาง
NanoShea™ (Liquid Shea Butter, 30%)
NanoShea™ (Liquid Shea Butter, 30%)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)
Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)
เครื่องสำอาง
Preserve-Free CE85™
Preserve-Free CE85™
เครื่องสำอาง