คำแนะนำสำหรับสูตรบำรุงผิว
ถามโดย: art114411
เมื่อ: March 25, 2015
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
ฉันกำลังพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายรายการ และต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับสูตรที่ฉันเสนอมา:
สูตรทากลางวัน (สำหรับคุณผู้ชาย):
- ส่วนผสม:
GlucoBright 4%
,Azelaic Acid 10%
,Vitamin B3 2%
,Water Lock 2%
,Bisabolol 1%
,Beta Glucan 10%
,AminoSilk 3%
ในPure Aloe Vera Gel
- คำถาม: สูตรนี้เหมาะกับการใช้ตอนกลางวันหรือไม่เมื่อมี
Azelaic Acid 10%
? สามารถเพิ่มความเข้มข้นของVitamin B3
ได้หรือไม่?Water Lock
จำเป็นสำหรับผิวที่ค่อนข้างมันหรือไม่?Beta Glucan
และAminoSilk
มีประโยชน์อย่างไร?
- ส่วนผสม:
สูตรทากลางคืน A, B, และ C:
- สูตร A:
Alpha Arbutin 2%
,DMAE 4%
,PhytoHormone™ 5%
,L-Tyrosine 2%
,Vitamin B5 5%
,Bisabolol 1%
,LipidSoft 5%
ในPure Aloe Vera Gel
- สูตร B:
Argireline 10%
,Matrixyl 3000 8%
ในPure Aloe Vera Gel
- สูตร C (สำหรับคุณแม่):
Repair Activator 10%
,Alpha Arbutin 2%
,Apple Stem Cell 5%
ในPure Aloe Vera Gel
- คำถาม:
- ควรรวมสูตร A และ B เข้าด้วยกันหรือไม่?
- ในสูตร A ควรเปลี่ยน
LipidSoft 5%
เป็นAminoSilk 3%
เพื่อให้เนื้อเบาลงหรือไม่?LipidSoft
และAminoSilk
แตกต่างกันในเรื่องเนื้อสัมผัสอย่างไร? PhytoHormone™
ช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิวสำหรับคนอายุ 40+ หรือไม่?- ฉันกังวลว่า
DMAE
อาจทำให้เกิดการแพ้และได้เติมBisabolol
เข้าไป การทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ และBisabolol
มีประสิทธิภาพในการลดอาการนี้หรือไม่? - ในสูตร B ควรเพิ่ม Emollient เช่น
LipidSoft
หรือAminoSilk
เข้าไปหรือไม่? - ในสูตร C ควรเพิ่มส่วนผสมพื้นฐานที่ดี เช่น
Vitamin B3
และGlucoBright
เข้าไปด้วยหรือไม่? ควรเพิ่ม Moisturizer เช่นVitamin B5
,MOIST72
หรือCeramide Complex
(อย่างน้อย 1 ตัว) หากผิวคุณแม่มีลักษณะแห้ง-ขาดน้ำหรือไม่? สามารถลดRepair Activator
หรือApple Stem Cell
ลงบ้างเพื่อให้สามารถเพิ่มส่วนผสมพื้นฐานได้หรือไม่?
- สูตร A:
สูตร Toner รักษาสิว:
- ส่วนผสม:
GlucoBright 4%
,Vitamin B3 2%
,MOIST72 2%
ในTime-Released BHA Toner
- คำถาม: ฉันเติม
MOIST72
เข้าไปเพื่อช่วยเรื่องหน้าลอกจากการใช้ BHA การทำเช่นนี้มีประโยชน์หรือไม่?
- ส่วนผสม:
น้ำหอม:
- คำถาม: มีคำแนะนำเกี่ยวกับน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยที่เหมาะสำหรับสูตรเหล่านี้หรือไม่?
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับสูตรบำรุงผิว
สวัสดีค่ะ เข้าใจเลยค่ะว่าการลองผสมสูตรเองครั้งแรกอาจมีคำถามเยอะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ยินดีให้คำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ เพื่อให้ได้สูตรที่เหมาะสมและถูกใจที่สุดค่ะ
จากการสอบถามและข้อมูลที่คุณให้มา รวมถึงความเห็นจากคุณ C7 และทีมงาน MySkinRecipes ขอสรุปและให้คำแนะนำสำหรับแต่ละสูตรดังนี้ค่ะ
1. สูตรทากลางวัน (สำหรับคุณผู้ชาย)
- สูตรที่คุณปรับมา: GlucoBright 4%, Azelaic Acid 10%, Vitamin B3 2%, Water Lock 2%, Bisabolol 1%, Beta Glucan 10%, AminoSilk 3% ใน Pure Aloe Vera Gel
- คำแนะนำ:
- สูตรนี้มีส่วนผสมที่ดีหลายตัวที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและลดการระคายเคืองค่ะ
- Azelaic Acid 10% มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างสูง ตามคำแนะนำของ Staff ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทา ดังนั้นสูตรนี้อาจไม่เหมาะกับการทาตอนกลางวันหากต้องออกแดดจัดเป็นประจำค่ะ หากต้องการใช้ตอนกลางวันจริงๆ ต้อง ทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงและทาซ้ำอย่างเคร่งครัดค่ะ หรืออาจพิจารณาลดความเข้มข้นลง หรือย้ายไปใช้เฉพาะกลางคืนแทน
- Vitamin B3 (Niacinamide) สามารถเพิ่มความเข้มข้นได้ถึง 4-5% เพื่อเสริมประสิทธิภาพเรื่องความกระจ่างใสและลดรอยดำ ตามคำแนะนำของ Staff ค่ะ
- Water Lock ช่วยเคลือบผิวลดการสูญเสียน้ำ Staff แนะนำให้พิจารณาตามสภาพผิวของผู้ใช้ หากผิวค่อนข้างมัน อาจไม่จำเป็นต้องใส่ หรือลดปริมาณลงได้ค่ะ
- Beta Glucan 10% เป็นความเข้มข้นที่สูง ซึ่งดีมากในการช่วยลดการระคายเคืองและเสริมเกราะป้องกันผิว เหมาะกับผิวที่อาจไวต่อ Azelaic Acid หรือผิวที่โดนแดดทำร้ายค่ะ
- AminoSilk ช่วยปรับเนื้อสัมผัสให้ลื่น ทาง่ายขึ้นค่ะ
- ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากคุณ C7: การเพิ่ม Tranexamic Acid 3% จะช่วยเสริมประสิทธิภาพเรื่องฝ้าโดยตรง และการเพิ่ม Allantoin และ Natural Betaine จะช่วยลดการระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้นพื้นฐานที่ดีค่ะ
- สรุป: สูตรนี้ใช้ได้ค่ะ แต่ควรระวังเรื่องการออกแดดเนื่องจาก Azelaic Acid และพิจารณาปรับความเข้มข้นของ Vitamin B3 และ Water Lock ตามสภาพผิวค่ะ หากต้องการเสริมประสิทธิภาพเรื่องฝ้าและลดการระคายเคือง อาจพิจารณาเพิ่ม Tranexamic Acid, Allantoin และ Natural Betaine ตามคำแนะนำของคุณ C7 ค่ะ
2. สูตรทากลางคืน A, B, และ C
- คำแนะนำจาก Staff: Staff แนะนำให้รวมสูตรกลางคืน A และ B เข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกและประหยัดค่ะ ส่วนผสมในสูตร A และ B ทำงานเสริมกันได้ดีค่ะ
- สูตรกลางคืน A (ปรับปรุงตามคำแนะนำ Staff):
- ส่วนผสมเดิม: Alpha Arbutin 2%, DMAE 4%, PhytoHormone™ 5%, L-Tyrosine 2%, Vitamin B5 5%, Bisabolol 1%, LipidSoft 5% ใน Pure Aloe Vera Gel
- คำถามเรื่อง LipidSoft vs AminoSilk: คุณต้องการเปลี่ยน LipidSoft 5% เป็น AminoSilk 3% เพื่อให้เนื้อเบาลงใช่ไหมคะ Staff อธิบายว่า LipidSoft เป็น Emollient ที่คล้ายน้ำมัน ช่วยเคลือบผิวและให้ความเบาบาง แต่ AminoSilk เป็นผงที่ช่วยให้เนื้อสูตรลื่นค่ะ หากต้องการให้เนื้อเบาลงและลื่นขึ้น การใช้ AminoSilk จะช่วยเรื่องความลื่น แต่ถ้าต้องการความรู้สึกเคลือบผิวบางๆ และความเบาแบบน้ำมัน LipidSoft ก็เหมาะสมค่ะ การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบเนื้อสัมผัสส่วนตัวค่ะ Staff ยังแนะนำให้เพิ่ม MatteSilica และ AminoSilk เพื่อปรับเนื้อสูตรให้เบาและลื่นขึ้น หากไม่ชอบความเหนอะหนะจาก DMAE ค่ะ
- คำถามเรื่อง PhytoHormone™: คุณเชื่อว่าฮอร์โมนช่วยเรื่องฟื้นฟูผิวสำหรับคนอายุ 40+ Staff ไม่ได้ให้ความเห็นเฉพาะเจาะจงเรื่อง PhytoHormone™ แต่เน้นย้ำว่าส่วนผสมพื้นฐานที่ดีและราคาไม่แพง เช่น Vitamin B3 และ GlucoBright ก็ให้ผลดีและควรพิจารณาเพิ่มเข้าไปในสูตร Anti-Aging เพื่อให้สูตรสมบูรณ์และทำงานได้ครบด้านมากขึ้นค่ะ
- คำถามเรื่อง DMAE และ Bisabolol: คุณกังวลเรื่อง DMAE อาจทำให้เกิดการแพ้และเติม Bisabolol เข้าไป คุณ korea-kon และ Staff ได้อธิบายชัดเจนว่า DMAE อาจทำให้เกิด "การระคายเคือง" ไม่ใช่ "การแพ้" ซึ่ง Bisabolol ช่วยลดการระคายเคืองได้ถูกต้องแล้วค่ะ แต่หากเกิดอาการแพ้จริงๆ ต้องหยุดใช้สารตัวนั้นไปเลยค่ะ การเติม Bisabolol เป็นการป้องกันที่ดีสำหรับลดโอกาสการระคายเคืองค่ะ
- สูตรกลางคืน B:
- ส่วนผสมเดิม: Argireline 10%, Matrixyl 3000 8% ใน Pure Aloe Vera Gel
- คำถามเรื่อง Emollient: คุณอยากเพิ่ม Emollient เช่น LipidSoft หรือ AminoSilk เข้าไปในสูตร B ใช่ไหมคะ Staff บอกว่าการเพิ่ม Emollient ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในเนื้อสัมผัสค่ะ Emollient ช่วยให้เนื้อสูตรลื่น เกลี่ยง่ายขึ้น หากคุณคุ้นเคยกับเนื้อหนักๆ เหนอะๆ แบบ LA MER และชอบความรู้สึกนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่ม Emollient ค่ะ แต่ถ้าอยากให้เกลี่ยง่ายขึ้น ก็สามารถเพิ่มได้ค่ะ
- สูตรกลางคืน C (สำหรับคุณแม่):
- ส่วนผสมเดิม: Repair Activator 10%, Alpha Arbutin 2%, Apple Stem Cell 5% ใน Pure Aloe Vera Gel
- คำแนะนำจาก Staff: Staff แนะนำให้เพิ่มส่วนผสมพื้นฐานที่ดีและให้ผลครบด้านเข้าไปด้วยค่ะ เช่น Vitamin B3 และ GlucoBright เพื่อเสริมประสิทธิภาพเรื่องความกระจ่างใส หากงบประมาณจำกัด อาจลด Repair Activator หรือ Apple Stem Cell ลงบ้างเพื่อให้สามารถเพิ่มส่วนผสมพื้นฐานได้ค่ะ นอกจากนี้ Staff ยังเน้นเรื่องความชุ่มชื้นสำหรับผิวมีอายุ โดยแนะนำให้เพิ่ม Moisturizer เช่น Vitamin B5, MOIST72 หรือ Ceramide Complex (อย่างน้อย 1 ตัว) หากผิวคุณแม่มีลักษณะแห้ง-ขาดน้ำค่ะ แต่ถ้าผิวมัน ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งหมดค่ะ
3. สูตร Toner รักษาสิว
- สูตรที่คุณปรับมา: GlucoBright 4%, Vitamin B3 2%, MOIST72 2% ใน Time-Released BHA Toner
- คำถามเรื่อง MOIST72 และหน้าลอก: คุณเติม MOIST72 เข้าไปเพื่อช่วยเรื่องหน้าลอกจากการใช้ BHA ใช่ไหมคะ Staff ยืนยันว่า MOIST72 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และสามารถช่วยลดอาการหน้าลอกจากการใช้ BHA ได้ค่ะ ดังนั้นการเติม MOIST72 เข้าไปมีประโยชน์ค่ะ
- ข้อควรระวังจาก Staff: Staff ย้ำว่าสูตร BHA Toner นี้เหมาะสำหรับ สิวอุดตันเท่านั้น หากเป็นสิวประเภทอื่น เช่น สิวแพ้ สิวผด BHA จะไม่ช่วยและอาจทำให้ผิวระคายเคืองโดยไม่จำเป็นค่ะ GlucoBright และ MOIST72 ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวโดยตรงค่ะ Vitamin B3 อาจช่วยเรื่องสิวที่ไม่รุนแรงได้บ้างค่ะ
4. คำแนะนำเรื่องน้ำมันหอมระเหย
- คำแนะนำจาก Staff: Staff แนะนำว่าโดยทั่วไปแล้ว การไม่ใช้น้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะไม่ได้ช่วยบำรุงผิวโดยตรง และอาจเพิ่มโอกาสการแพ้ได้ โดยเฉพาะน้ำหอมเคมี
- หากต้องการเพิ่มกลิ่น: หากคุณต้องการเพิ่มกลิ่นเพื่อความพึงพอใจในการใช้ Staff ไม่ได้แนะนำกลิ่นเฉพาะเจาะจง แต่จากรายการสินค้าที่มี คุณสามารถพิจารณา Essential Oils ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ หรือ Fragrance Oils ซึ่งเป็นกลิ่นสังเคราะห์ค่ะ Essential Oil มักมีคุณสมบัติทางบำบัด (Aromatherapy) เพิ่มเติม แต่ก็อาจมีข้อจำกัดในการใช้และราคาที่สูงกว่า Fragrance Oil
- ตัวอย่างกลิ่นที่น่าสนใจ (สำหรับการทดลองดม):
- Bergamot Essential Oil: กลิ่นซิตรัสสดชื่นอมหวาน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น
- Lavender Fragrance Oil: กลิ่นลาเวนเดอร์ยอดนิยม ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย
- Jasmine Fragrance Oil: กลิ่นมะลิหอมหวาน ให้ความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลาย
- Rose Water (Fragrance Oil): กลิ่นน้ำกุหลาบ ให้ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนโยน
- คุณสามารถสั่งขนาดเล็กมาทดลองดมก่อนตัดสินใจใช้ในสูตรจริงได้ค่ะ
หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับสูตรของคุณนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
เครื่องสำอาง

Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง

Allantoin
เครื่องสำอาง

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
เครื่องสำอาง

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง

Natural Betaine (Crystal)
เครื่องสำอาง

Aloe Vera Gel (Heavy)
เครื่องสำอาง

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)
เครื่องสำอาง

Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)
เครื่องสำอาง

MOIST72™
เครื่องสำอาง

WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง

AminoSilk™ (Lauroyl lysine)
เครื่องสำอาง

Wrinkle-Fill™ (Acetyl-Tyrosine)
เครื่องสำอาง

MatteSilica 5™ (5 Micron)
เครื่องสำอาง

LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
เครื่องสำอาง

DMAE (SkinTight MD™) Liquid
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง
Jasmine Fragrance Oil
เครื่องสำอาง
Rose Water (Fragrance Oil)
เครื่องสำอาง
Lavender Fragrance Oil
เครื่องสำอาง
Bergamot Essential Oil (Fruit, India)
เครื่องสำอาง
Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Powder)
เครื่องสำอาง
Ceramide Complex (Water/Oil Dispersible Powder)
เครื่องสำอาง