ตรวจสอบความเข้ากันได้ของสูตรเซรั่ม/เจล

ถามโดย: littleme_nattaya เมื่อ: April 10, 2021 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนช่วยตรวจสอบความเข้ากันได้ของสูตรดังต่อไปนี้ค่ะ: Protec™ UV (Benzotriazolyl Dodecyl p-Cresol) 0.1%, Repair Activator™ Liquid (Bifida Ferment Lysate) 5%, Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 5%, Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera) 5%, Dimethyl Isosorbide (DMI) 3%, Xanthan Gum 0.5%, Mild Preserved Eco™ (Ethylhexylglycerin, Caprylyl Glycol) 1%, Disodium EDTA 0.2%, Sodium Metabisulfite 0.2%, GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 4%, น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ 75.5%, Vitamin E (Tocopheryl Acetate) 0.5%. ขอบคุณค่ะ

คำตอบ

การตรวจสอบความเข้ากันได้ของสูตร

ขอขอบคุณที่ส่งสูตรเข้ามาให้ตรวจสอบค่ะ สูตรนี้มีส่วนประกอบที่ดีหลายชนิดที่มุ่งเน้นการซ่อมแซมผิว การลดริ้วรอย ความกระจ่างใส และการปกป้องผิว

นี่คือการวิเคราะห์ความเข้ากันได้ของส่วนประกอบต่างๆ ในสูตรของคุณ:

สารออกฤทธิ์หลัก: สูตรประกอบด้วย Repair Activator (Bifida Ferment Lysate), Safe-B3 (Niacinamide), Galactomyces Ferment Filtrate และ GlucoBright (Acetyl Glucosamine) ส่วนประกอบเหล่านี้โดยทั่วไปเข้ากันได้ดีและทำงานร่วมกันได้ดีในการปรับปรุงเนื้อผิว สีผิว และเสริมเกราะป้องกันผิว การรวมกันของ Niacinamide และ Acetyl Glucosamine มีการกล่าวถึงเป็นพิเศษว่าช่วยเสริมฤทธิ์กันในการลดจุดด่างดำ
สารช่วยนำพา: Dimethyl Isosorbide (DMI) ถูกใส่เข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มการนำพาสารออกฤทธิ์ต่างๆ เข้าสู่ผิว ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารเหล่านั้นได้
สารช่วยเพิ่มความเสถียรและสารต้านอนุมูลอิสระ: Disodium EDTA ช่วยจับไอออนโลหะในส่วนของน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตร Sodium Metabisulfite ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องส่วนประกอบต่างๆ จากการเสื่อมสภาพเนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน Vitamin E (Tocopheryl Acetate) ก็ให้ประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน Protec UV ช่วยปกป้องส่วนประกอบในสูตรจากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสง UV
สารเพิ่มความหนืด: Xanthan Gum ใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดเพื่อให้ได้เนื้อเจลหรือเซรั่มตามที่ต้องการ
สารกันเสีย: Mild Preserved Eco (ส่วนผสมของ Ethylhexylglycerin และ Caprylyl Glycol) ถูกใส่เข้ามาในอัตราส่วนที่แนะนำสำหรับการกันเสีย

ข้อควรพิจารณาด้านความเข้ากันได้และข้อแนะนำ:

การนำส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมันเข้าสู่สูตร: Protec UV และ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) เป็นส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมัน สูตรของคุณมีเบสหลักเป็นน้ำ/เจลที่มีสารเพิ่มความหนืดประเภทกัม ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นเซรั่มหรือเจล ในการนำส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมันเหล่านี้เข้าสู่สูตรอย่างเหมาะสมและเพื่อให้สูตรมีความเสถียร (ไม่แยกชั้น) คุณอาจจำเป็นต้องใส่สารช่วยละลาย (solubilizer) หรืออิมัลซิไฟเออร์ (emulsifier) ที่เหมาะสมลงในสูตรของคุณ หากไม่มีสารเหล่านี้ ส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมันอาจกระจายตัวได้ไม่สม่ำเสมอและอาจทำให้สูตรไม่เสถียรเมื่อเวลาผ่านไป
ค่า pH: สารออกฤทธิ์หลายชนิด เช่น Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Repair Activator และ Galactomyces Ferment Filtrate มีช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพ Niacinamide และ Acetyl Glucosamine ทำงานร่วมกันได้ดีในช่วง pH 3-7 โดย Niacinamide จะดีที่สุดในช่วง 4.0-7.0 Repair Activator มี pH 4-5.5 และ Galactomyces Ferment Filtrate มี pH 4-7 สิ่งสำคัญคือต้องวัดและปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารเหล่านี้ โดยควรอยู่ระหว่าง pH 4.0 ถึง 5.5 เพื่อให้มั่นใจว่าสูตรมีประสิทธิภาพและความเสถียรสูงสุด
ลำดับการผสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Disodium EDTA ละลายในส่วนของน้ำจนหมดก่อนที่จะเติมส่วนประกอบอื่นๆ Xanthan Gum ควรได้รับการกระจายตัวอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน สารที่ไวต่อความร้อน เช่น Repair Activator และ Galactomyces Ferment Filtrate ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่ออุณหภูมิของสูตรลดลงต่ำกว่า 40°C

สรุป:

ส่วนประกอบที่เลือกมาโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีและมีประโยชน์ต่อการดูแลผิวในหลายด้าน ความท้าทายหลักในการทำสูตรนี้คือการนำ Protec UV และ Vitamin E ซึ่งละลายในน้ำมัน เข้าสู่เบสที่เป็นน้ำ/เจลได้อย่างสำเร็จ การเพิ่มสารช่วยละลายหรืออิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมและการปรับค่า pH อย่างระมัดระวังเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้สูตรของคุณมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ด้วยเทคนิคการทำสูตรที่เหมาะสม การผสมผสานส่วนประกอบเหล่านี้สามารถสร้างเซรั่มหรือเจลที่มีประสิทธิภาพได้