ตรวจสอบสูตรเจลครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวผสม

ถามโดย: sweetyorange.p เมื่อ: July 17, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนตรวจสอบสูตรก่อนสั่งผลิตค่ะ มีสภาพผิวผสม แพ้ง่ายมาก ขาดการบำรุง หน้าแห้ง และผลิตน้ำมันในเวลาอันรวดเร็ว มี สิวอุดตัน และริ้วรอย อายุ 35++ จึงต้องการเนื้อครีมเป็นแบบครีมเจล ซึมง่าย ไม่หนักหน้า ปราศจาก ซิลิโคน สี กลิ่น แอลกอฮอล์ พาราเบน หรือสารสังเคราะห์ที่ไม่จำเป็น เพราะจะก่อให้เกิดอาการแพ้และอุดตันรูขุมขนค่ะ

ส่วนผสมดังนี้ค่ะ:

CeraTouch (Ceramide Complex) 2%
Cholesterol 4%
Phytosphingosine SA 0.2%
Squalane (Olive) 2%
Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract) 5%
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 5%
GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 4%
Repair Activator™ 10%
WhiteCumin™ (Tetrahydrodiferuloylmethane) 0.3%
Glycosaminoglycans Complex 3%
Pro-Cysteine 2%
Adenosine Liposome 3%
Copper Peptide (GHK-Cu) 2%

เนื่องจากสภาพผิวที่กล่าวข้างต้น อยากใช้ Base เป็น Aloe Vera Gel Heavy ได้มั้ยคะ? (เพื่อให้ซึมเข้าผิวได้เร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ตลอดวัน หรือไม่ทำให้หน้ามัน)

จากส่วนผสมข้างต้น 13 รายการ รวมเป็น 42.5% ที่เหลือเป็น Base: Aloe Vera Gel Heavy 57.5% เข้าใจถูกต้องมั้ยคะ?

หากไม่ใช้ Base เป็น Aloe Vera Gel Heavy แต่ส่วนผสมที่เหลือเป็น น้ำกลั่นบริสุทธิ์ แทน เนื้อครีมจะออกมาเป็นอย่างไรคะ? และสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้มั้ยคะ?

รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ หากมีส่วนผสมใดไม่เข้ากัน หรือไม่เหมาะสม หรือซ้ำซ้อนกันจนเกินไปในการออกฤทธิ์ จนทำให้หนักหน้า หรือหน้ามันค่ะ และ ต้องเติมส่วนผสมใดเพิ่มเติมหรือไม่ค่ะ?

คำตอบ

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ปรึกษาเรื่องสูตรเข้ามานะคะ เข้าใจถึงความต้องการของคุณที่มีผิวผสม แพ้ง่าย มีปัญหาสิวอุดตัน ริ้วรอย และต้องการเนื้อครีมเจลที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะค่ะ

สำหรับคำถามที่คุณสอบถามมา:

การใช้ Aloe Vera Gel Heavy เป็นเบส: เบสเจลว่านหางจระเข้โดยทั่วไปเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวผสมและผิวมัน เนื่องจากมักจะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมซาบเร็ว ซึ่งตรงกับความต้องการของคุณที่อยากได้เนื้อครีมเจลที่ซึมง่าย ไม่หนักหน้า และไม่ทำให้หน้ามัน การใช้คำว่า "Heavy" อาจหมายถึงมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่าเจลทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเบากว่าเบสครีมมากค่ะ
การคำนวณเปอร์เซ็นต์: ใช่ค่ะ การคำนวณของคุณถูกต้อง ส่วนผสมแอคทีฟทั้ง 13 รายการรวมกันได้ 42.5% ส่วนที่เหลือ 57.5% คือส่วนของเบสค่ะ
การใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์เป็นเบสแทน: การใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียวเป็นเบสสำหรับสูตรนี้จะไม่สามารถทำให้ได้เนื้อครีมเจลตามที่ต้องการได้ค่ะ ส่วนผสมที่คุณระบุมาส่วนใหญ่เป็นสารออกฤทธิ์ ไม่ใช่สารก่อเจลหรือสารอิมัลซิไฟเออร์ คุณจะได้เป็นสารละลายที่เป็นน้ำ ซึ่งส่วนผสมบางอย่างอาจละลายหรือกระจายตัวได้ไม่ดี หากต้องการสร้างเนื้อครีมเจลที่เสถียรโดยใช้น้ำเป็นส่วนประกอบหลัก คุณจะต้องเพิ่มสารก่อเจล (gelling agents) สารอิมัลซิไฟเออร์ (emulsifiers) เพื่อช่วยรวมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (เช่น Squalane, WhiteCumin) เข้ากับน้ำ และอาจต้องมีสารเพิ่มความข้น (thickeners) รวมถึงระบบสารกันเสีย (preservative system) ด้วยค่ะ

การพิจารณาสูตร:

สูตรของคุณมีส่วนผสมที่มีประโยชน์หลากหลายครอบคลุมปัญหาผิวที่คุณกังวล:

เสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น: Ceramide Complex, Cholesterol, Phytosphingosine SA, Squalane, Beta Glucan, Glycosaminoglycans Complex ส่วนผสมเหล่านี้ดีเยี่ยมในการดูแลปัญหาผิวแห้ง แพ้ง่าย และช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ซึ่งสำคัญมากสำหรับผิวผสมที่มีทั้งส่วนที่แห้งและมัน
ลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว: Beta Glucan, Phytosphingosine SA, Niacinamide, Bifida Ferment Lysate ดีสำหรับผิวแพ้ง่ายและมีแนวโน้มเป็นสิว
ควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน: Niacinamide
ลดเลือนริ้วรอยและชะลอวัย: Ceramide Complex, Cholesterol, Squalane, Beta Glucan, Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Bifida Ferment Lysate, Tetrahydrodiferuloylmethane, Glycosaminoglycans Complex, Pro-Cysteine, Adenosine Liposome, Copper Peptide นี่คือส่วนผสมที่ทรงพลังมากในการดูแลปัญหาริ้วรอยหลายด้าน
ปรับสีผิวให้กระจ่างใส: Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Tetrahydrodiferuloylmethane

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูง: ความเข้มข้นรวมของสารออกฤทธิ์ (42.5%) ถือว่าสูงมากสำหรับสูตรเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรที่ต้องการเนื้อครีมเจลที่บางเบา แม้ว่าส่วนผสมแต่ละตัวจะมีประโยชน์ แต่ความเข้มข้นที่สูงขนาดนี้จะเพิ่มโอกาสที่ผลิตภัณฑ์สุดท้ายจะมีเนื้อสัมผัสที่หนักขึ้น อาจรู้สึกเหนอะหนะ หรือซึมซาบช้ากว่าเจลครีมทั่วไป แม้จะใช้เบสเจลก็ตาม การทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะจริงๆ อาจเป็นเรื่องท้าทาย
ความเสถียรของสูตร: การผสมสารออกฤทธิ์หลากหลายชนิดในปริมาณ 42.5% รวมถึงส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (Squalane, WhiteCumin) เข้ากับเบสเจลสำเร็จรูป จำเป็นต้องใช้เทคนิคการผสมที่ถูกต้อง ความสามารถในการทำอิมัลชันและก่อเจลของเบสอาจไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้สูตรไม่เสถียร (แยกชั้น เนื้อเปลี่ยน) หรืออาจต้องเพิ่มขั้นตอนและส่วนผสมอื่นๆ (เช่น solubilizers หรือ co-emulsifiers) ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในสูตร
การกันเสีย: การเพิ่มส่วนผสมภายนอกจำนวนมากเข้าไปในเบสอาจทำให้ระบบสารกันเสียของเบสเจือจางลง หรืออาจนำไปสู่การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ การตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีระบบสารกันเสียที่เพียงพอสำหรับสูตรสุดท้ายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและอายุการเก็บรักษา

สรุปและคำแนะนำ:

การเลือกส่วนผสมออกฤทธิ์ของคุณยอดเยี่ยมมากในการดูแลปัญหาผิวที่คุณกังวล อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นรวมของสารออกฤทธิ์ที่สูงมาก (42.5%) เป็นความท้าทายสำคัญในการทำให้ได้เนื้อครีมเจลที่บางเบาและซึมซาบเร็วตามที่คุณต้องการ

การใช้ Aloe Vera Gel Heavy เป็นเบสเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเนื้อครีมเจลเมื่อเทียบกับการใช้น้ำเปล่า แต่โปรดเตรียมใจว่าเนื้อสัมผัสสุดท้ายอาจยังรู้สึกหนักหรือเหนอะหนะกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่สูง
การใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว ไม่เหมาะสม ในการสร้างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ คุณจะต้องสร้างสูตรขึ้นมาใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น

ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ ทดลองทำในปริมาณน้อย ก่อน เพื่อประเมินเนื้อสัมผัส การซึมซาบ ความรู้สึกบนผิว และความเสถียร ก่อนที่จะผลิตในปริมาณมาก คุณอาจพบว่าเนื้อสัมผัสหนักกว่าที่คุณต้องการ หากต้องการผลิตเพื่อจำหน่าย หรือหากเนื้อสัมผัสเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด คุณอาจต้องพิจารณาลดความเข้มข้นรวมของสารออกฤทธิ์ลงเล็กน้อย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตรเครื่องสำอางเพื่อปรับปรุงเบสและกระบวนการผลิตให้ได้ความเสถียรและเนื้อสัมผัสที่ต้องการ

ส่วนผสมทั้งหมดที่คุณเลือกดูเข้ากันได้ดีโดยทั่วไปและเหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณ แต่ความเข้มข้นที่สูงคือปัจจัยหลักที่อาจทำให้ไม่ได้เนื้อสัมผัสตามที่คุณต้องการ ไม่มีส่วนผสมใดที่ดู "ซ้ำซ้อน" ในแง่ของประโยชน์ แต่ความเข้มข้นรวมกันสูง อาจลองพิจารณาว่าจำเป็นต้องใช้ส่วนผสมทั้ง 13 ชนิดในเปอร์เซ็นต์เหล่านี้ทั้งหมดหรือไม่ หรือว่าการลดความเข้มข้นรวมลงเล็กน้อยก็ยังให้ประโยชน์ที่สำคัญได้ในขณะที่ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสให้ดีขึ้น