การตรวจสอบสูตร: เซรั่มควบคุมความมัน ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และผิวกระจ่างใส

ขอบคุณที่ส่งสูตรมาให้ตรวจสอบค่ะ สูตรนี้ออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาผิวหลายประการ ทั้งความมัน ริ้วรอย รูขุมขน และความกระจ่างใส โดยใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลาย

จากเปอร์เซ็นต์ที่ให้มาสำหรับปริมาณรวม 1000 มล. สูตรจะเป็นดังนี้:

• น้ำกลั่น: 39%
• เบสเซรั่ม: 10%
• วิชฮาเซล: 20%
• กาบาแคร์: 1%
• Wrinkle-Lax™: 0.5%
• Dipotassium Glycyrrhizate: 1%
• Wrinkle-Fill™ (Acetyl-Tyrosine): 1%
• Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite: 2%
• Dimethyl Isosorbide (DMI): 3%
• Copper Peptide (GHK-Cu) (1000ppm Solution): 2%
• MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine): 2%
• Sebum-Reg™ (Capryloyl Glycine): 2%
• Pep®-Coll (Palmitoyl Tripeptide-5): 3%
• Acetyl Hexapeptide-8 (eq. Argireline): 3%
• Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride): 3%
• Ethyl Ascorbic acid (Vitamin C Ethyl Ether): 3%
• Allantoin: 0.5 %
• สารกันเสีย: 1%

สูตรนี้ประกอบด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดที่เป็นที่รู้จักซึ่งมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายที่คุณระบุ:

• ควบคุมความมันและรูขุมขน: วิชฮาเซล, Sebum-Reg™ และวิตามินบี 6 ถูกรวมไว้ในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการความมันและลักษณะของรูขุมขน
• ลดริ้วรอย: มีการผสมผสานเปปไทด์ (Pep®-Coll, Acetyl Hexapeptide-8, Copper Peptide), กาบาแคร์ และ Wrinkle-Lax™ ในปริมาณมาก ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ริ้วรอยผ่านกลไกต่างๆ เช่น การคลายกล้ามเนื้อและการกระตุ้นคอลลาเจน Wrinkle-Fill™ ยังช่วยสนับสนุนการลดริ้วรอย
• ความกระจ่างใส: MSH White™ และ Ethyl Ascorbic acid ถูกรวมไว้เพื่อช่วยปรับสีผิวและลดจุดด่างดำ
• ส่วนผสมสนับสนุน: Panthenol และ Allantoin ให้ประโยชน์ในการปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น ในขณะที่ DMI ทำหน้าที่เป็นสารช่วยนำพาเพื่อให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ซึมซาบได้ดีขึ้น

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญสำหรับสูตรนี้:

1. ความเข้ากันได้ของส่วนผสมและค่า pH: นี่คือความท้าทายที่สำคัญที่สุด ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดมีข้อกำหนดค่า pH เฉพาะ ซึ่งบางครั้งอาจขัดแย้งกัน เพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น Ethyl Ascorbic acid และ Vitamin B6 ชอบสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดมากกว่า ในขณะที่ Copper Peptide และ GABA มีความคงตัวมากกว่าที่ค่า pH สูงขึ้นเล็กน้อย Sebum-Reg™ ยังต้องมีการปรับค่า pH เฉพาะระหว่างการผสม (ละลายที่ค่า pH สูง จากนั้นปรับลดลง) การบรรลุค่า pH เดียวที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสม ทั้งหมด เพื่อความคงตัวในระยะยาวและประสิทธิภาพสูงสุดจะเป็นเรื่องยาก
2. ความขัดแย้งระหว่าง EDTA และ Copper Peptide: Ethyl Ascorbic acid มักได้รับประโยชน์จากการมี Disodium EDTA เพื่อความคงตัว แต่กิจกรรมของ Copper Peptide อาจได้รับผลกระทบในทางลบจาก EDTA การรวมทั้งสองอย่างไว้ในสูตรเดียวกันทำให้เกิดความขัดแย้งด้านความเข้ากันได้โดยตรง
3. ความสามารถในการละลายของ MSH White™: MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine) ละลายได้ในน้ำมันหรือแอลกอฮอล์และต้องใช้ความร้อนในการละลาย Silky Serum Base เป็นเบสแบบน้ำและไม่สามารถรวมน้ำมันได้ดี คุณจะต้องละลาย MSH White™ ล่วงหน้าในตัวทำละลายที่เข้ากันได้ (เช่น DMI หรือแอลกอฮอล์/ไกลคอลที่เหมาะสม โดยตรวจสอบความเข้ากันได้กับเบส) ก่อนเติมลงในเฟสน้ำหลัก
4. ขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน: สูตรนี้ต้องให้ความสนใจอย่างรอบคอบกับลำดับการผสม ขีดจำกัดอุณหภูมิ (ส่วนผสมบางชนิดไวต่อความร้อน ในขณะที่ MSH White™ และ Sebum-Reg™ ต้องใช้ความร้อนในการละลาย) และการปรับค่า pH (โดยเฉพาะสำหรับ Sebum-Reg™) ขั้นตอนการผลิตที่มีรายละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ
5. ปริมาณส่วนผสมออกฤทธิ์ที่สูง: แม้ว่าเปอร์เซ็นต์ของแต่ละส่วนผสมจะอยู่ในช่วงการใช้งานทั่วไป แต่การรวมส่วนผสมออกฤทธิ์ที่มีศักยภาพจำนวนมากในความเข้มข้นเหล่านี้อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดความไวต่อผิวหรือการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผิวแพ้ง่าย

คำแนะนำ:

สูตรนี้มีความครอบคลุม แต่มีความท้าทายในการกำหนดสูตรที่สำคัญเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม โดยเฉพาะค่า pH และความขัดแย้งระหว่าง EDTA/Copper Peptide รวมถึงความสามารถในการละลายของ MSH White™ คุณอาจต้องประเมินการผสมผสานส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างรอบคอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจถึงความคงตัวและประสิทธิภาพ หากดำเนินการต่อด้วยการผสมผสานนี้ ขั้นตอนการผสมที่พิถีพิถันซึ่งคำนึงถึงความสามารถในการละลาย อุณหภูมิ และข้อกำหนดค่า pH ในแต่ละขั้นตอนเป็นสิ่งสำคัญ การทดสอบความคงตัวอย่างละเอียดของผลิตภัณฑ์สุดท้ายเป็นสิ่งที่แนะนำอย่างยิ่ง