ตรวจสอบสูตรไนท์ครีมสำหรับผิวผสม

ถามโดย: thitarporn.c เมื่อ: August 18, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนช่วยตรวจสอบสูตร Night Cream ค่ะ โดยตั้งใจให้เป็นตัวเดียวจบแก้ปัญหาทุกเรื่อง

ข้อมูลผิว:

  • ผิวผสมค่ะ แห้ง ขาดน้ำ มันช่วงทีโซนระหว่างวันบ้างค่ะ
  • (ปกติใช้ Rose Hip ทาเพียงๆ แล้วตามด้วยครีมบำรุงค่ะ)

ปัญหาผิว:

  • เริ่มมีริ้วรอยค่ะ
  • รูขุมขนกว้าง
  • มีรอยสิวเล็กน้อย
  • มีกระบางๆ ค่อนข้างเยอะค่ะ

ความคาดหวัง:

  • อยากให้ทาตัวเดียวจบค่ะ
  • อยากให้ผิวอิ่มน้ำ ฟู
  • อยากให้ผิวกระจ่างใส
  • ช่วยเรื่องการป้องกันริ้วรอยค่ะ
  • อยากให้ช่วยป้องกันการเกิดสิวด้วยนิดหน่อยค่ะ

ส่วนผสม:

  • ส่วน A (ส่วนที่เป็นน้ำ - ละลายด้วยน้ำ):

    1. Witch Hazel (Alcohol Free) Plus Allantoin: 30 %
      • ส่วนนี้ใช้ตัว Witch Hazel เป็นส่วนของน้ำครึ่งกึ่งหนึ่งค่ะ ได้ไหมคะ
    2. น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ: 23 %
    3. Satin Cream Maker™: 1 %
      • ใช้ที่ 1 % เหมาะสมหรือไม่คะ หรือควรปรับเป็น 1.5 % ดีคะ
    4. Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): 5 %
    5. GlucoBright™ (Acetyl glucosamine): 4 %
  • ส่วน A (ต่อ - เติมความชุ่มชื่น / ลดการระคายเคือง):

    1. Calcium Pantothenate (B5): 2 %
    2. Double Hyaluron Liquid: 5 %
  • ส่วน A (ต่อ - กระชับรูขุมขน / รอยแดง / สิว):

    1. Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride): 3 %
    2. Licorice Extract (Licochalcone A 1%): 1 %
  • ส่วน A (ต่อ - ลดริ้วรอย):

    1. Repair Activator™: 10 %
  • ส่วน B (ส่วนน้ำมัน):

    1. Rose Hip Oil (Chile, Extra Virgin Organic Fresh): 10 %
    2. Shea Butter (Ultra Soft): 5 %
      • เนื่องจากส่วนผสมนี้ต้องใช้ความร้อน และในหลายๆ ส่วนผสมข้างต้น ต้องหลีกเลี่ยงความร้อน ตัวนี้ทำอย่างไรดีคะ หากว่าใช้เป็น LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate) 5 % แทนจะเหมาะสมกว่าหรือไม่คะ แล้วคุณสมบัติจะทดแทนกันได้หรือไม่คะ
  • กันเสีย:

    1. Mild Preserved Eco™ (Ethylhexylglycerin): 1 %
      • เนื่องจากใช้ Witch Hazel 30 % แล้ว หรือว่าส่วนกันเสียนี้ควรปรับลดเป็น 0.5 % ดีคะ

รบกวนด้วยนะคะ ว่าต้องเพิ่มเติมตัวไหน หรือควรตัดตัวไหนที่มีคุณสมบัติซ้ำซ้อนออกบ้างไหม
และในขั้นตอนการผสมอะไรก่อนหลังคะ

รบกวนด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

คำตอบ

การตรวจสอบสูตรและข้อเสนอแนะ

นี่คือการตรวจสอบสูตรไนท์ครีมที่คุณเสนอ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์แบบ All-in-One สำหรับผิวผสมที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย ผิวแห้ง ผิวมัน รูขุมขนกว้าง รอยสิว และกระบางๆ

สูตรของคุณมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลายซึ่งมุ่งเป้าไปที่ปัญหาเหล่านี้ เรามาดูแต่ละส่วนและคำถามเฉพาะของคุณกันค่ะ

การวิเคราะห์ส่วนผสมและข้อเสนอแนะ

ส่วนที่เป็นน้ำ (Water Phase):

  • Witch Hazel (Alcohol Free) Plus Allantoin (30%) และ น้ำกลั่น (23%): การใช้ Witch Hazel เป็นส่วนหนึ่งของเฟสน้ำเหมาะสมค่ะ รุ่นที่มี Allantoin ช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น พร้อมให้ประโยชน์ในการกระชับรูขุมขนและควบคุมความมัน เฟสน้ำรวม 53% ซึ่งเหมาะสมสำหรับเนื้อครีม

  • Satin Cream Maker™ (1%): คุณถามว่า 1% เหมาะสมหรือไม่ หรือควรปรับเป็น 1.5% ดี 1% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับอิมัลซิไฟเออร์ตัวนี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาปริมาณเฟสน้ำมันของคุณ หากคุณต้องการเนื้อครีมที่ข้นขึ้น สามารถเพิ่มความเข้มข้นเป็น 1.5% หรือ 2% ได้ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์

  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) (5%): เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่ 5% เพื่อจัดการกับปัญหาหลายอย่าง ทั้งลดริ้วรอย ปรับสีผิวและรอยดำ (กระ) เสริมเกราะป้องกันผิวเพื่อช่วยเรื่องความแห้ง/ขาดน้ำ ลดความมัน และช่วยเรื่องสิว Safe-B3 เป็นชนิดที่ระคายเคืองน้อย (Flushing) ที่ความเข้มข้นนี้

  • GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) (4%): ส่วนผสมนี้ทำงานร่วมกับ Niacinamide (Safe-B3) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใสและลดจุดด่างดำ/กระ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติของผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอย และช่วยลดการเกิดสิวได้ 4% เป็นความเข้มข้นที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide

  • Calcium Pantothenate (B5) (2%): ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปลอบประโลมผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวดู 'อิ่มน้ำ ฟู'

  • Double Hyaluron Liquid (5%): เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมสำหรับความชุ่มชื้น ให้ความชุ่มชื้นทั้งผิวชั้นนอกและชั้นใน ซึ่งสำคัญสำหรับผิวผสมและผิวขาดน้ำของคุณ

  • Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) (3%): ส่วนผสมนี้มีประสิทธิภาพในการควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับบริเวณทีโซนของคุณ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ช่วยเรื่องรอยสิวได้ โปรดทราบว่า Vitamin B6 มีค่า pH ต่ำ และไวต่อความร้อนและแสง ซึ่งส่งผลต่อขั้นตอนการผสมและค่า pH สุดท้ายของสูตร ที่ 3% เป็นความเข้มข้นค่อนข้างสูงในขอบเขตที่แนะนำ ดังนั้นควรสังเกตผิวของคุณว่ามีอาการแห้งหรือระคายเคืองหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่แห้งน้อยกว่า

  • Licorice Extract (Licochalcone A 1%) (1%): ช่วยลดการอักเสบ รอยแดง (จากรอยสิว) และความมัน เสริมการทำงานของส่วนผสมอื่นๆ ที่มุ่งเป้าไปที่สิวและการระคายเคือง 1% อยู่ในอัตราส่วนที่แนะนำ

  • Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate) (10%): สารออกฤทธิ์นี้ดีเยี่ยมสำหรับการต่อต้านริ้วรอยและช่วยให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง จัดการกับปัญหาริ้วรอยของคุณโดยตรง

ส่วนที่เป็นน้ำมัน (Oil Phase):

  • Rose Hip Oil (Extra Virgin Organic Fresh) (10%): น้ำมันบำรุงผิวที่ช่วยซ่อมแซมผิว ให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และช่วยให้รอยแผลเป็น/รอยแดงจากสิวจางลง 10% เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ดีสำหรับไนท์ครีม

  • Shea Butter (Ultra Soft) (5%): คุณระบุถูกต้องว่า Shea Butter ต้องใช้ความร้อนในการละลาย และส่วนผสมในเฟสน้ำหลายตัว (Vitamin B6, Repair Activator ฯลฯ) ไวต่อความร้อน การแทนที่ Shea Butter ด้วย LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate) ที่ 5% เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนกับเฟสน้ำมากเกินไป LipidSoft™ Film ให้ความรู้สึกที่ดีและช่วยเรื่องเนื้อสัมผัสโดยรวมและการสร้างฟิล์มเคลือบผิว โดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง แม้ว่าความรู้สึกจะแตกต่างจาก Shea Butter แต่เข้ากันได้ดีกับสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนของคุณ และมีส่วนช่วยให้ได้เนื้อครีมที่ต้องการ

สารกันเสีย (Preservative):

  • Mild Preserved Eco™ (Ethylhexylglycerin) (1%): คุณถามว่า 1% เหมาะสมหรือไม่ หรือ 0.5% เพียงพอหรือไม่เมื่อพิจารณาถึง Witch Hazel แม้ว่า Witch Hazel จะมีคุณสมบัติบางอย่าง แต่ก็ไม่ใช่สารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เชื่อถือได้ การใช้ Mild Preserved Eco ที่ 1% แนะนำเพื่อการกันเสียที่เพียงพอสำหรับสูตรของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปริมาณน้ำสูงและส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด การลดเหลือ 0.5% อาจทำให้ความเสถียรต่อจุลินทรีย์ลดลง 1% อยู่ในขอบเขตที่แนะนำ (1.0-1.5%) สำหรับสูตรเครื่องสำอางทั่วไป

ข้อควรพิจารณาและส่วนผสมที่อาจซ้ำซ้อน

สูตรของคุณมีความครอบคลุม โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาหลายอย่างในผลิตภัณฑ์เดียว มีการทำงานที่ทับซ้อนกันบ้าง (เช่น ส่วนผสมหลายตัวช่วยควบคุมความมัน/สิว/การอักเสบ และหลายตัวให้ความชุ่มชื้น/ลดริ้วรอย) ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำงานได้หลากหลาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตผิวของคุณสำหรับสัญญาณของการใช้ผลิตภัณฑ์มากเกินไปหรือการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีผิวผสมที่มีทั้งบริเวณที่แห้งและมัน ความเข้มข้นที่คุณเลือกโดยทั่วไปอยู่ในขอบเขตที่แนะนำสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด แต่ควรสังเกตผลกระทบโดยรวม

ค่า pH สุดท้ายของสูตรมีความสำคัญต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสม เช่น Vitamin B6, Safe-B3, GlucoBright, Licorice Extract และ Repair Activator การตั้งเป้าให้ค่า pH สุดท้ายอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 จะเป็นประโยชน์ต่อสารออกฤทธิ์ส่วนใหญ่ คุณอาจต้องปรับค่า pH หลังจากการผสม

ขั้นตอนการผสมที่แนะนำ

นี่คือขั้นตอนการผสมที่แนะนำ โดยคำนึงถึงคุณสมบัติของส่วนผสม:

  1. เตรียมส่วนที่เป็นน้ำ (A): ในบีกเกอร์ ผสมน้ำกลั่น, Witch Hazel (Alcohol Free) Plus Allantoin, Safe-B3, GlucoBright, Calcium Pantothenate และ Vitamin B6 คนเบาๆ จนผงทั้งหมดละลาย หมายเหตุ: Vitamin B6 มีค่า pH ต่ำและไวต่อแสง ดังนั้นควรทำงานอย่างรวดเร็วและลดการสัมผัสกับแสงในขั้นตอนนี้
  2. เตรียมส่วนที่เป็นน้ำมัน (B): ในบีกเกอร์อีกใบ ผสม Rose Hip Oil และ LipidSoft™ Film (หรือ Shea Butter หากคุณเลือกใช้) หากใช้ Shea Butter ให้ค่อยๆ อุ่นส่วนนี้ที่อุณหภูมิประมาณ 50°C เพื่อละลายเนย จากนั้นปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อยก่อนนำไปผสมกับส่วนที่เป็นน้ำ หากใช้ LipidSoft™ Film ให้ผสมที่อุณหภูมิห้องได้เลย
  3. การทำอิมัลชัน: เติม Satin Cream Maker™ ลงในส่วนที่เป็นน้ำ (A) และคนเบาๆ เพื่อกระจายผง จากนั้นค่อยๆ เทส่วนที่เป็นน้ำมัน (B) ลงในส่วนที่เป็นน้ำ (A) พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องคน ผสมต่อไปจนได้เนื้อครีมที่เป็นเนื้อเดียวกัน หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูง (เกิน 2500 รอบต่อนาที) เพื่อรักษาความเสถียรของอิมัลซิไฟเออร์
  4. การทำให้เย็นและการเติมส่วนผสมสุดท้าย: ปล่อยให้ครีมเย็นลงจนต่ำกว่า 40°C เมื่อเย็นลงแล้ว เติม Repair Activator™ และ Mild Preserved Eco™ ผสมให้เข้ากันดีจนกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
  5. การปรับค่า pH (ทางเลือก แต่แนะนำ): ตรวจสอบค่า pH สุดท้ายของครีมด้วยเครื่องวัด pH หรือกระดาษวัดค่า pH หากจำเป็น ให้ปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (โดยทั่วไปคือ 4.0-6.0) โดยใช้สารปรับค่า pH ที่เหมาะสม

อย่าลืมทำการทดสอบความเสถียรของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่ามีความเสถียรเมื่อเวลาผ่านไป

โดยรวมแล้ว สูตรของคุณได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อจัดการกับปัญหาหลายอย่าง การแทนที่ Shea Butter ด้วย LipidSoft Film และการจัดการขั้นตอนการผสมและค่า pH สุดท้ายอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณสร้างไนท์ครีมที่ครอบคลุมได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Ultra Soft)
Shea Butter (Ultra Soft)
เครื่องสำอาง
Witch Hazel (Alcohol Free, Paraben Free) Plus Allantoin
Witch Hazel (Alcohol Free, Paraben Free) Plus Allantoin
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride)
Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride)
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate)
LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate)
เครื่องสำอาง
Calcium Pantothenate
Calcium Pantothenate
เครื่องสำอาง
Rose Hip Oil (Extra Virgin)
Rose Hip Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง