ตรวจสอบและปรับปรุงสูตรเซรั่ม ครีมทาหน้า และครีมทาผิวกายทำเอง

ถามโดย: ben.chaicherdchoo06 เมื่อ: March 21, 2022 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังสนใจทำครีมผสมใช้เองค่ะ รบกวนแนะนำด้วยนะคะว่าสูตรที่คิดไว้ใช้ได้รึเปล่า ควรแก้ไขอะไรยังไงให้สูตรดีขึ้นกว่าเดิม พอดีว่าเพิ่งหัดทำค่ะ ขอบคุณค่ะ

นี่คือสูตรที่ต้องการให้ช่วยตรวจสอบค่ะ:

เซรั่มทาผิวหน้าเช้า-เย็น

  • Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) 5%
  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate 20%)(Water-Soluble) (Alpha) 3%
  • Hyaluronic Acid (Japan) 1%
  • ActiveProtec™ UV (Water-Soluble) 2%
  • Sterile/Distilled water 89%

ครีมทาผิวหน้าเช้า-เย็น

  • Natural White Beeswax (USA, Melting 62C) 5%
  • Fractionated Coconut Oil 27%
  • Polysorbate 20 (Tween 20) 10%
  • VersaMoist™ (Peg/ppg-14/7 dimethyl ether) 3%
  • Sterile/Distilled Water 52%
  • Alpha Arbutin (China, Crystal Form) 2%
  • Z-White™ 1%

ครีมทาผิวกายเช้า-เย็น

  • Natural White Beeswax (USA, netting 62C) 5%
  • Fractionated Coconut Oil 30%
  • Polysorbate 20 (Tween 20) 10%
  • Double Glycerin 15%
  • Sterile/Distilled Water 100%
  • Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) 15%
  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate 20%)(Water-Soluble) (Alpha) 3%
  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland) 8%
  • VersaMoist™ (Peg/ppg-14/7 dimethyl ether) 3%
  • Z-White™ 1%
  • Activated Resorcinol™ 1%
  • Kojic Acid Dipalmitate 3%
  • MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine) 2%
  • GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 4%

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับสูตรเครื่องสำอางทำเองของคุณ

เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณสนใจและเริ่มทำเครื่องสำอางใช้เองค่ะ การทำเองสนุกและได้เรียนรู้ แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความคงตัวของผลิตภัณฑ์ด้วยนะคะ มาดูสูตรที่คุณให้มาทีละสูตรพร้อมคำแนะนำค่ะ

เซรั่มทาผิวหน้าเช้า-เย็น

สูตรเซรั่มของคุณเป็นเบสน้ำและมีส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ดี ซึ่งเหมาะกับเนื้อเซรั่มค่ะ ส่วนผสมหลักได้แก่:

  • Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) 5%: L-ascorbic acid เป็นวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่จากคำอธิบายผลิตภัณฑ์ ระบุว่ามีความเสถียรต่ำเมื่อละลายในน้ำ และต้องการ pH ที่ต่ำ (ประมาณ 2.0-4.0 โดย อย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้บนผิวมี pH ไม่ต่ำกว่า 3.5) เพื่อความคงตัว pH ที่ต่ำนี้อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่ายค่ะ ลองพิจารณาใช้วิตามินซีอนุพันธ์อื่นที่เสถียรในน้ำมากกว่า เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate หรือ Magnesium Ascorbyl Phosphate หรือหากต้องการใช้ L-ascorbic acid ต่อไป ต้องปรับ pH อย่างระมัดระวังและใช้สารช่วยเพิ่มความเสถียรค่ะ
  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate) (Water-Soluble) 3%: วิตามินอีอะซิเตทชนิดละลายน้ำนี้เหมาะสำหรับสูตรเบสน้ำค่ะ และช่วยเสริมฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงช่วยปกป้องส่วนผสมอื่นจากการเสื่อมสภาพจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ตามที่ระบุในคำอธิบายผลิตภัณฑ์ค่ะ
  • Hyaluronic Acid (Japan) 1%: เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีค่ะ คำอธิบายระบุว่าชนิดนี้ละลายน้ำได้ง่ายและเหมาะกับเซรั่มค่ะ
  • ActiveProtec™ UV 2%: ส่วนผสมนี้ช่วยปกป้องสูตรของคุณจากการเสื่อมสภาพเนื่องจากแสง UV ตามที่ระบุในคำอธิบาย แม้จะมีสารกรอง UV อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถทดแทนครีมกันแดดโดยเฉพาะสำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ค่ะ

ส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไป: สูตรเซรั่มของคุณเป็นเบสน้ำและ ขาดสารกันเสีย (Preservative) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะ หากไม่มีสารกันเสียที่เหมาะสม เซรั่มจะเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียและอาจเป็นอันตรายต่อผิวได้ คุณจำเป็นต้องเพิ่มสารกันเสียสำหรับเครื่องสำอางชนิดออกฤทธิ์กว้าง (broad-spectrum preservative) ลงในสูตรนี้ค่ะ

คำแนะนำเพื่อปรับปรุง:

  1. เพิ่มสารกันเสีย: ใส่สารกันเสียที่เหมาะสมในอัตราส่วนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
  2. จัดการความเสถียรของ Vitamin C: ปรับ pH ให้อยู่ในช่วงที่ L-ascorbic acid เสถียร (และระวังเรื่องการระคายเคือง) หรือเปลี่ยนไปใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียรกว่าในเบสน้ำค่ะ
  3. พิจารณาใช้ Chelating Agent: การเติมสารจับประจุโลหะ (chelating agent) เช่น Disodium EDTA สามารถช่วยเพิ่มความเสถียรของส่วนผสมบางชนิด เช่น Vitamin C ได้ โดยการจับกับไอออนโลหะในน้ำ

ครีมทาผิวหน้าเช้า-เย็น

สูตรนี้เป็นลักษณะ Emulsion (มีทั้งส่วนน้ำและน้ำมัน) ประกอบด้วย:

  • Natural White Beeswax 5% และ Fractionated Coconut Oil 27%: ส่วนผสมเหล่านี้รวมกันเป็น Oil phase (รวม 32%) Beeswax ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความหนืดและ Emollient ตามคำอธิบายค่ะ
  • Polysorbate 20 (Tween 20) 10%: Polysorbate 20 เป็น Emulsifier ชนิดไม่มีประจุ แม้จะช่วยได้บ้าง แต่การใช้ Polysorbate 20 เพียงอย่างเดียวในการทำ Emulsion ที่มี Oil phase สูงถึง 32% อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เนื้อครีมคงตัว ไม่แยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป คำอธิบายระบุว่าละลายในน้ำมันได้ไม่สมบูรณ์ค่ะ
  • VersaMoist™ 3%: ส่วนผสมนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและอาจช่วยเสริมความเสถียรของ Emulsion ได้บ้าง ตามคำอธิบาย แต่ไม่ใช่ Emulsifier หลักค่ะ
  • Alpha Arbutin (China, Crystal Form) 2% และ Z-White™ 1%: ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยให้ผิวกระจ่างใส คำอธิบายของ Alpha Arbutin ระบุว่าไวต่อ pH (ควรอยู่ในช่วง 3.5-6.5 หลีกเลี่ยง pH > 8) และไวต่อแสง ควรใช้สารช่วยป้องกันการเปลี่ยนสี (เช่น ActiveProtec™ OX) และบรรจุภัณฑ์ที่ทึบแสงค่ะ

ส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไป: เช่นเดียวกับเซรั่ม สูตรครีมนี้มีส่วนของน้ำและ ขาดสารกันเสีย (Preservative) ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการป้องกันการปนเปื้อนและการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์ คุณต้องเพิ่มสารกันเสียสำหรับเครื่องสำอางชนิดออกฤทธิ์กว้าง

คำแนะนำเพื่อปรับปรุง:

  1. เพิ่มสารกันเสีย: ใส่สารกันเสียที่เหมาะสมในอัตราส่วนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
  2. ปรับปรุงความคงตัวของ Emulsion: ใช้ระบบ Emulsifier ที่เหมาะสมกับการทำครีม (O/W Emulsion) มากขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้ Emulsifier ตัวอื่นร่วมกับ Polysorbate 20 หรือใช้ Emulsifier หลักที่เหมาะสมกว่าค่ะ
  3. ปกป้อง Alpha Arbutin: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH สุดท้ายของสูตรอยู่ในช่วงที่แนะนำ (3.5-6.5) และพิจารณาใช้สารจับประจุโลหะ (chelating agent) และบรรจุภัณฑ์ทึบแสงเพื่อป้องกัน Alpha Arbutin เสื่อมสภาพ

ครีมทาผิวกายเช้า-เย็น

สูตรนี้มีส่วนผสมที่น่าสนใจหลายตัวที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและความชุ่มชื้นค่ะ อย่างไรก็ตาม มี ข้อผิดพลาดสำคัญเกี่ยวกับสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่ระบุ จากรายการส่วนผสมที่คุณให้มา เมื่อรวมเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้นน้ำที่ระบุ 100%) จะได้ผลรวมเท่ากับ 100% พอดี (5+30+10+15+15+3+8+3+1+1+3+2+4 = 100%) ซึ่งหมายความว่าไม่มีส่วนของน้ำเหลืออยู่เลยค่ะ แต่คุณระบุ Sterile/Distilled Water 100% ซึ่งไม่ถูกต้องค่ะ สูตรเครื่องสำอางโดยทั่วไปส่วนผสมทั้งหมดจะต้องรวมกันได้ 100% พอดี คุณจำเป็นต้องตรวจสอบและแก้ไขสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมทั้งหมดให้ถูกต้อง โดยรวมกันแล้วได้ 100% ค่ะ ซึ่งอาจจะต้องลดเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมบางตัวลง หรือเพิ่มส่วนของน้ำให้เหมาะสมค่ะ

สมมติว่าความตั้งใจคือการใส่สาร Active เหล่านี้ทั้งหมด มาดูส่วนผสมกันค่ะ:

  • สารให้ความกระจ่างใสความเข้มข้นสูงหลายชนิด: สูตรนี้มีสารให้ความกระจ่างใสที่มีศักยภาพสูงหลายชนิดในความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูง ได้แก่ Vitamin C (L-ascorbic acid) 15%, Safe-B3™ (Niacinamide) 8%, Activated Resorcinol™ 1%, Kojic Acid Dipalmitate 3%, MSH White™ 2%, GlucoBright™ 4%, และ Z-White™ 1% แม้ว่าบางส่วนผสมจะทำงานเสริมกันได้ (เช่น Safe-B3™ กับ GlucoBright™, L-Ascorbic Acid กับ Kojic Acid Dipalmitate, MSH White™ กับส่วนผสมอื่น) แต่การใช้สาร Active จำนวนมากขนาดนี้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว การแพ้ และปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างส่วนผสมได้ค่ะ คำอธิบายของ Activated Resorcinol™ ระบุว่าความเข้มข้นสูงอาจทำให้ระคายเคืองได้ และไม่ควรใช้ร่วมกับ Alpha Arbutin (แม้จะไม่ได้อยู่ในสูตรนี้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงปัญหาการใช้สาร Active ที่มีกลไกคล้ายกันร่วมกัน) Kojic Acid Dipalmitate ละลายในน้ำมันและต้องใช้ความร้อนช่วยละลาย (จากคำอธิบาย) MSH White™ ละลายในน้ำมัน/แอลกอฮอล์โดยใช้ความร้อน (จากคำอธิบาย) GlucoBright™ ละลายน้ำได้และเข้ากันได้ดีกับ Safe-B3™ (จากคำอธิบาย) Z-White™ ละลายน้ำได้และเสริมฤทธิ์กับส่วนผสมอื่น (จากคำอธิบาย)
  • Vitamin C (L-ascorbic acid) 15%: เช่นเดียวกับเซรั่ม L-ascorbic acid ไม่เสถียรในสูตรเบสน้ำ โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูงขนาดนี้ คำอธิบายยืนยันความเสถียรต่ำในน้ำและข้อกำหนดเรื่อง pH มีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วในเนื้อครีม เว้นแต่จะมีการทำให้เสถียรเป็นพิเศษค่ะ
  • ระบบ Emulsifier (Natural White Beeswax 5% และ Polysorbate 20 10%): คล้ายกับครีมทาผิวหน้า ระบบนี้อาจไม่เพียงพอที่จะสร้าง Emulsion ที่คงตัวสำหรับ Oil phase 30% และสาร Active ปริมาณมากค่ะ คำอธิบายของ Polysorbate 20 ระบุว่าละลายในน้ำมันได้ไม่สมบูรณ์
  • Double Glycerin 15% และ VersaMoist™ 3%: ส่วนผสมเหล่านี้เป็น Humectant ที่ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ตามที่คำอธิบายระบุ Double Glycerin สามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมันค่ะ

ส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไป: สูตรนี้ก็ ขาดสารกันเสีย (Preservative) เช่นกันค่ะ เมื่อแก้ไขเปอร์เซ็นต์แล้วจะมีส่วนของน้ำอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องมีสารกันเสียเพื่อความปลอดภัยและยืดอายุผลิตภัณฑ์อย่างยิ่งค่ะ

คำแนะนำเพื่อปรับปรุง:

  1. แก้ไขสัดส่วนเปอร์เซ็นต์: นี่คือขั้นตอนที่เร่งด่วนที่สุด ปรับเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมทั้งหมดให้รวมกันได้ 100% โดยต้องมีส่วนของน้ำในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
  2. เพิ่มสารกันเสีย: ใส่สารกันเสียที่เหมาะสมในอัตราส่วนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
  3. ลดความซับซ้อนของสาร Active/ลดความเข้มข้น: สำหรับผู้เริ่มต้น การใช้สาร Active ที่มีศักยภาพสูงจำนวนมากขนาดนี้มีความท้าทายและเสี่ยงต่อการระคายเคืองสูง ลองพิจารณาเลือกใช้สารให้ความกระจ่างใสหลัก 2-3 ชนิดในความเข้มข้นที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงการระคายเคืองและความซับซ้อนในการทำสูตร ศึกษาคำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับอัตราส่วนการใช้ที่แนะนำและข้อควรระวังเรื่องความเข้ากันได้
  4. จัดการความเสถียรของ Vitamin C: หากยังต้องการใช้ L-ascorbic acid ต้องจัดการเรื่องความเสถียรตามที่แนะนำสำหรับเซรั่ม หรือเปลี่ยนไปใช้อนุพันธ์ที่เสถียรกว่าค่ะ
  5. ปรับปรุงความคงตัวของ Emulsion: ใช้ระบบ Emulsifier ที่เหมาะสมและแข็งแรงกว่าสำหรับการทำครีม/โลชั่น
  6. พิจารณาเรื่อง pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH สุดท้ายของสูตรเหมาะสมกับสาร Active ที่เลือกใช้ (เช่น Alpha Arbutin ต้องการ pH 3.5-6.5, L-Ascorbic Acid ต้องการ pH ต่ำ, Safe-B3™ ทำงานได้ดีที่สุดที่ 4.0-7.0) การใช้สาร Active หลายชนิดที่มีช่วง pH ที่เหมาะสมต่างกันอาจเป็นเรื่องท้าทายค่ะ

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้เริ่มต้น:

  • เริ่มจากสูตรที่ไม่ซับซ้อน: ในช่วงแรกของการหัดทำ ควรเริ่มต้นจากสูตรที่มีส่วนผสมน้อยชิ้นและทำได้ง่ายก่อนค่ะ
  • ความแม่นยำในการชั่งตวง: การทำเครื่องสำอางต้องใช้ความแม่นยำในการชั่งตวงส่วนผสมตามสูตรอย่างเคร่งครัดค่ะ
  • ทำความเข้าใจคุณสมบัติของส่วนผสม: ศึกษาคุณสมบัติของส่วนผสมแต่ละตัว เช่น การละลาย (น้ำ/น้ำมัน), pH ที่เหมาะสม, ความเสถียร, และข้อควรระวังในการใช้ จากคำอธิบายผลิตภัณฑ์ค่ะ
  • สารกันเสียเป็นสิ่งจำเป็น: ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบจำเป็นต้องมีสารกันเสียเสมอ เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุผลิตภัณฑ์ค่ะ
  • ทดสอบความเข้ากันได้: หากผสมสารหลายชนิด ควรตรวจสอบว่าสามารถเข้ากันได้หรือไม่ค่ะ
  • การทดสอบการแพ้: ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำเอง ควรทดสอบทาในบริเวณเล็กๆ ก่อนเสมอ เพื่อดูว่ามีการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่ค่ะ

การทำเครื่องสำอางเป็นกระบวนการเรียนรู้ค่ะ การแก้ไขจุดที่กล่าวมาจะช่วยให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและคงตัวมากขึ้นได้ค่ะ ขอให้สนุกกับการทำนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Kojic Acid Dipalmitate
Kojic Acid Dipalmitate
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Polysorbate 20 (Tween 20)
Polysorbate 20 (Tween 20)
เครื่องสำอาง
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
เครื่องสำอาง
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
เครื่องสำอาง
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
เครื่องสำอาง
Double Glycerin
Double Glycerin
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (China, Crystal Form)
Alpha Arbutin (China, Crystal Form)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Japan)
Hyaluronic Acid (Japan)
เครื่องสำอาง
ActiveProtec™ UV
ActiveProtec™ UV
เครื่องสำอาง
Z-White™
Z-White™
เครื่องสำอาง
VersaMoist™
VersaMoist™
เครื่องสำอาง
Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble
Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble
เครื่องสำอาง