การตรวจสอบและข้อแนะนำสำหรับสูตร

นี่คือการตรวจสอบแต่ละสูตรพร้อมข้อเสนอแนะสำหรับการปรับเปลี่ยน สารกันเสีย และสารนำพา

สูตรที่ 1: ครีมเจลสำหรับผิวหน้า (ผิวธรรมดา เพื่อผิวขาวกระจ่างใส)

• ส่วนประกอบ: Safe-B3 (10%), GlucoBright (4%), MSH White (4%), Yeast Radiance (3%), Double Hyaluron Liquid (3%), Lemon Skin (2%), Satin Cream Maker (1%), น้ำ (ส่วนที่เหลือ), สารกันเสีย, สารนำพา
• การตรวจสอบ: สูตรนี้เป็นสูตรที่ดีที่เน้นการปรับผิวให้กระจ่างใสด้วยส่วนประกอบสำคัญหลายชนิด การผสมผสานของ Safe-B3, GlucoBright, MSH White, Yeast Radiance และ Lemon Skin ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างกันเพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีและส่งเสริมความกระจ่างใส Double Hyaluron Liquid ให้ความชุ่มชื้น Satin Cream Maker เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมสำหรับเนื้อเจลครีม เปอร์เซ็นต์ของสารออกฤทธิ์อยู่ในช่วงที่แนะนำ โดย Safe-B3 ใช้ในปริมาณค่อนข้างสูง (10%) ซึ่งยอมรับได้สำหรับ Safe-B3 ชนิดนี้
• ข้อแนะนำ:
  • สารกันเสีย: คุณสามารถใช้ Mild Preserved Eco ในอัตรา 1.0-1.5% หรือ PE 1090 Preservative ในอัตรา 0.5-1.0% ทั้งสองชนิดเป็นสารกันเสียแบบ Broad-spectrum และเหมาะสมสำหรับสูตรประเภทนี้ Mild Preserved Eco สามารถเคลมว่า "ปราศจากสารกันเสีย" ได้
  • สารนำพา: คุณสามารถเพิ่ม Tetrahydropiperine ในอัตรา 0.01% เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารออกฤทธิ์
  • การปรับเปลี่ยน: เปอร์เซ็นต์ปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใส ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนมากนัก เว้นแต่คุณต้องการปรับเนื้อสัมผัสหรือเน้นปัญหาผิวอื่นๆ นอกเหนือจากการปรับผิวให้กระจ่างใสและความชุ่มชื้นพื้นฐาน

สูตรที่ 2: ครีมเจลสำหรับผิวหน้า (ผิวมัน รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวคล้ำกว่าผิวกาย เพื่อผิวขาวสม่ำเสมอ)

• ส่วนประกอบ: Repair Activator (10%), MSH White (6%), Perfect C (5%), Yeast Radiance (3%), Lemon Skin (2%), Sym-White (0.5%), Satin Cream Maker (1%), น้ำ (ส่วนที่เหลือ), สารกันเสีย, สารนำพา
• การตรวจสอบ: สูตรนี้ใช้ส่วนผสมที่ทรงพลังในการปรับผิวให้กระจ่างใส (MSH White, Perfect C, Yeast Radiance, Lemon Skin, Sym-White) และ Repair Activator สำหรับการฟื้นฟูผิว Perfect C (Ascorbyl Tetraisopalmitate) เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรและประสิทธิภาพ Sym-White (Phenylethyl Resorcinol) เป็นสารยับยั้ง Tyrosinase ที่มีประสิทธิภาพสูง Repair Activator ช่วยเรื่องเกราะป้องกันผิว
• ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:
  • ค่า pH: Perfect C ต้องการค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปอยู่ในช่วง 5.0-5.5 เพื่อความเสถียรสูงสุด Sym-White ชอบค่า pH 4-5 Yeast Radiance ต้องการค่า pH 4.0-6.5 และ Lemon Skin ต้องการค่า pH 3.5-7 Repair Activator มีค่า pH 4-5.5 ตั้งเป้าหมายค่า pH สุดท้ายให้อยู่ระหว่าง 5.0-5.5 เพื่อให้มั่นใจในความเสถียรและประสิทธิภาพของ Perfect C และ Sym-White ในขณะที่ยังคงเหมาะสมกับส่วนประกอบอื่นๆ
  • ความเข้ากันได้: คำอธิบายของ Perfect C แนะนำว่าไม่ควรใช้ร่วมกับ Vitamin B3 (Niacinamide) เนื่องจากสูตรนี้ไม่มี Niacinamide จึงสามารถใช้ร่วมกันได้
  • การละลาย: MSH White และ Perfect C ละลายในน้ำมันและต้องละลายในส่วนของน้ำมัน โดยอาจใช้ความร้อน Sym-White ก็ต้องการน้ำมัน/ความร้อน หรือสามารถเติมลงในครีมในขั้นตอนสุดท้ายโดยใช้ความร้อนอ่อนๆ (<50°C)
• ข้อแนะนำ:
  • การปรับค่า pH: คุณอาจต้องปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ที่ 5.0-5.5 หลังจากผสมส่วนประกอบทั้งหมดแล้ว
  • Disodium EDTA: เพิ่ม Disodium EDTA ในอัตรา 0.2% เพื่อช่วยจับไอออนของโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรของ Vitamin C (Perfect C) (หมายเหตุ: Disodium EDTA ไม่อยู่ในผลการค้นหาที่ให้มา แต่เป็นคำแนะนำมาตรฐานเมื่อใช้ Perfect C ในสูตรที่มีน้ำ)
  • สารกันเสีย: Mild Preserved Eco (1.0-1.5%) หรือ PE 1090 Preservative (0.5-1.0%) เหมาะสมและทำงานได้ดีในช่วงค่า pH ที่ต้องการ
  • สารนำพา: เพิ่ม Tetrahydropiperine ในอัตรา 0.01%
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เพิ่ม Protec OX ในอัตรา 0.05% เพื่อช่วยปกป้อง Perfect C จากการเกิดออกซิเดชัน
  • การป้องกันสูตรจากแสง UV: พิจารณาเพิ่ม Protec UV ในอัตรา 0.03% (สำหรับบรรจุภัณฑ์ทึบแสง) หรือ 0.1% (สำหรับบรรจุภัณฑ์ใส) เพื่อปกป้องส่วนประกอบที่ไวต่อแสง เช่น Perfect C และ Sym-White จากการเสื่อมสภาพเนื่องจากแสง UV
  • การปรับเปลี่ยน: เปอร์เซ็นต์ของสารออกฤทธิ์เพื่อความกระจ่างใสค่อนข้างสูง ซึ่งมีประสิทธิภาพมาก แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคือง โดยเฉพาะในผิวมัน หากเกิดการระคายเคือง คุณอาจพิจารณาลดเปอร์เซ็นต์ของ MSH White (เช่น เหลือ 4-5%) หรือ Perfect C (เช่น เหลือ 3-4%) เล็กน้อย แต่ระดับปัจจุบันยังอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับการใช้เดี่ยวๆ

สูตรที่ 3: ครีมเจลสำหรับผิวกาย (ผิวธรรมดาค่อนไปทางมัน เพื่อผิวขาวกระจ่างใส)

• ส่วนประกอบ: MSH White (6%), Yeast Radiance (3%), Lemon Skin (3%), Sym White (0.5%), Satin Cream Maker (1%), น้ำ (ส่วนที่เหลือ), สารกันเสีย, สารนำพา
• การตรวจสอบ: สูตรนี้เป็นสูตรที่ดีสำหรับการปรับผิวกายให้กระจ่างใส โดยใช้การผสมผสานของ MSH White, Yeast Radiance, Lemon Skin และ Sym-White เปอร์เซ็นต์ที่ใช้เหมาะสมสำหรับการใช้กับผิวกาย
• ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:
  • ค่า pH: Sym-White ชอบค่า pH 4-5 Lemon Skin ต้องการค่า pH 3.5-7 Yeast Radiance ต้องการค่า pH 4.0-6.5 ตั้งเป้าหมายค่า pH สุดท้ายให้อยู่ระหว่าง 4.5-5.5 เพื่อความเสถียรสูงสุดของ Sym-White และความเข้ากันได้กับส่วนประกอบอื่นๆ
  • การละลาย: MSH White ต้องละลายในส่วนของน้ำมัน โดยอาจใช้ความร้อน Sym-White ก็ต้องการน้ำมัน/ความร้อน หรือสามารถเติมลงในครีมในขั้นตอนสุดท้ายโดยใช้ความร้อนอ่อนๆ (<50°C)
• ข้อแนะนำ:
  • การปรับค่า pH: คุณอาจต้องปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ที่ 4.5-5.5 หลังจากผสมส่วนประกอบทั้งหมดแล้ว
  • สารกันเสีย: Mild Preserved Eco (1.0-1.5%) หรือ PE 1090 Preservative (0.5-1.0%) เหมาะสมและทำงานได้ดีในช่วงค่า pH ที่ต้องการ
  • สารนำพา: เพิ่ม Tetrahydropiperine ในอัตรา 0.01%
  • การป้องกันสูตรจากแสง UV: พิจารณาเพิ่ม Protec UV ในอัตรา 0.03% (สำหรับบรรจุภัณฑ์ทึบแสง) หรือ 0.1% (สำหรับบรรจุภัณฑ์ใส) เพื่อปกป้องส่วนประกอบที่ไวต่อแสง เช่น Sym-White จากการเสื่อมสภาพเนื่องจากแสง UV Protec OX และ SQ ไม่จำเป็นสำหรับสูตรนี้ เว้นแต่คุณจะเพิ่มส่วนประกอบที่ไวต่อการเกิดออกซิเดชันหรือ Singlet Oxygen
  • การปรับเปลี่ยน: เปอร์เซ็นต์ที่ใช้เหมาะสมสำหรับการใช้กับผิวกาย ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนมากนัก

คำตอบสำหรับคำถามเฉพาะ

• ควรปรับลดหรือเพิ่มสารตัวไหนอย่างไรบ้างคะ
  • ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เปอร์เซ็นต์ในสูตรของคุณโดยทั่วไปอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับการใช้ส่วนประกอบแต่ละชนิด สำหรับสูตรที่ 2 การผสมผสานของสารออกฤทธิ์ที่มีเปอร์เซ็นต์สูงหลายชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองสำหรับบางคนที่มีผิวมัน คุณสามารถพิจารณาลด MSH White หรือ Perfect C เล็กน้อยได้หากจำเป็น แต่ระดับปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงในการปรับผิวให้กระจ่างใส สำหรับทุกสูตร คุณจะต้องเพิ่มสารกันเสียและสารนำพาตามที่กล่าวถึงข้างต้น คุณอาจพิจารณาเพิ่ม LipidSoft Lite เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัส และ Protec OX/UV เพื่อความเสถียรของสูตรตามที่แนะนำ
• สารช่วยนำพากับกันเสียที่ใช้ในสูตร ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่คะ
  • ใช่ค่ะ Mild Preserved Eco (1001) หรือ PE 1090 Preservative (7909) เป็นสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสมสำหรับสูตรเจลครีมเหล่านี้ และทำงานได้ดีในช่วงค่า pH ที่เหมาะสม Tetrahydropiperine (2280) เป็นสารนำพาจากธรรมชาติที่เหมาะสม ซึ่งสามารถเพิ่มได้ในปริมาณน้อย
• หากต้องการความนุ่มลื่น ทาบนผิวง่ายมากขึ้นจากเดิม สามารถเติม LipidSoft Lite ลงไปในสูตรทั้ง 3 ได้หรือไม่คะ และควรใช้กี่%คะ
  • ได้ค่ะ คุณสามารถเพิ่ม LipidSoft Lite (530) ลงในสูตรทั้งสามเพื่อปรับปรุงความรู้สึกบนผิว ทำให้ผิวนุ่มลื่นและเกลี่ยง่ายขึ้น เป็น Emollient เนื้อบางเบาที่สามารถใช้แทนซิลิโคนได้ คุณสามารถเพิ่ม LipidSoft Lite ในความเข้มข้น 1-5% จุดเริ่มต้นที่แนะนำคือ 2-3% ซึ่งมักจะมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงเนื้อสัมผัสโดยไม่ทำให้สูตรรู้สึกหนัก เติมในส่วนของน้ำมัน
• ควรใส่ Protec™ OX , Protec™ UV, Protec™ SQ ในสูตรไหนหรือไม่ หากควรเพิ่มในสูตรควรใช้ปริมาณเท่าไหร่คะ
  • Protec OX (1332) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ในการปกป้องส่วนประกอบที่ไวต่อการเกิดออกซิเดชัน เช่น Vitamin C เพิ่ม Protec OX ในอัตรา 0.05% ใน สูตรที่ 2 เพื่อปกป้อง Perfect C ผสมในส่วนของน้ำมันโดยใช้ความร้อน (70-80°C)
  • Protec UV (1333) เป็นสารดูดซับ UV ที่ช่วยปกป้องส่วนประกอบในสูตรจากการเสื่อมสภาพเนื่องจากแสง UV ซึ่งสำคัญหากบรรจุภัณฑ์ของคุณไม่ทึบแสง แนะนำสำหรับส่วนประกอบที่ไวต่อแสง เช่น Vitamin C และ Sym-White พิจารณาเพิ่ม Protec UV ในอัตรา 0.03% (สำหรับบรรจุภัณฑ์ทึบแสง) หรือ 0.1% (สำหรับบรรจุภัณฑ์ใส) ใน สูตรทั้งสาม โดยเฉพาะสูตรที่ 2 และ 3 ที่มี Perfect C และ Sym-White ผสมในส่วนของน้ำมัน
  • Protec SQ (1392) เป็น Singlet State Quencher ที่มีประโยชน์ในการปกป้องส่วนประกอบเฉพาะ เช่น Avobenzone, Resveratrol หรือ Retinal ซึ่งไม่มีอยู่ในสูตรของคุณ และ Protec SQ มีสีเหลืองเข้ม ซึ่งอาจส่งผลต่อสีของผลิตภัณฑ์ของคุณ ไม่จำเป็นสำหรับสูตรเหล่านี้
• รบกวนแนะนำขั้นตอนการผสมของแต่ละสูตรให้ทีนะคะ กลัวผิดพลาดในขั้นตอนการผสมแล้วจะทำให้สูตรได้ผลไม่เต็มที่ค่ะ
  • ขั้นตอนการผสมจะคล้ายกันสำหรับทั้งสามสูตร เนื่องจากใช้ Satin Cream Maker Satin Cream Maker เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์แบบ Cold Process แต่ส่วนประกอบบางชนิด (MSH White, Perfect C, Sym-White, Protec OX, Protec UV) ต้องการความร้อนในการละลายหรือเพื่อการรวมตัวที่ดีที่สุด
  • ขั้นตอนการผสมทั่วไปสำหรับเจลครีมด้วย Satin Cream Maker:
    1. ส่วนของน้ำ (Water Phase): รวมน้ำและส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ทั้งหมด (เช่น Safe-B3, GlucoBright, Yeast Radiance, Double Hyaluron Liquid, Repair Activator, Lemon Skin, สารกันเสีย เช่น Mild Preserved Eco หรือ PE 1090, สารนำพา เช่น Tetrahydropiperine หากละลายน้ำได้หรือละลายไว้ล่วงหน้าในตัวทำละลายที่เข้ากับน้ำได้) คนจนละลายหมด
    2. ส่วนของน้ำมัน (Oil Phase): รวมส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมัน (เช่น MSH White, Perfect C, Sym-White, LipidSoft Lite, Protec OX, Protec UV) และ Satin Cream Maker ให้ความร้อนส่วนนี้ถึง 70-80°C เพื่อให้แน่ใจว่า MSH White, Perfect C, Protec OX และ Protec UV ละลายหมด Sym-White ก็สามารถละลายในขั้นตอนนี้ได้
    3. การรวมส่วนผสม: ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมันที่ให้ความร้อนแล้ว (ซึ่งมี Satin Cream Maker อยู่) ลงในส่วนของน้ำ พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง คนด้วยความเร็วปานกลาง (หลีกเลี่ยงความเร็วเกิน 2500 รอบต่อนาที) จนส่วนผสมข้นขึ้นและได้เนื้อเจลครีมที่สม่ำเสมอ โดยทั่วไปจะใช้เวลา 1-10 นาที
    4. การเติมส่วนประกอบที่ไวต่อความร้อน/ขั้นตอนสุดท้าย: เมื่ออิมัลชันก่อตัวและเย็นลงถึงอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C แล้ว ให้เติมส่วนประกอบที่ไวต่อความร้อนหรือส่วนประกอบที่ควรเติมในขั้นตอนสุดท้าย (เช่น Tetrahydropiperine หากละลายไว้ล่วงหน้าในตัวทำละลายที่ไวต่อความร้อน, น้ำหอม, สารปรับค่า pH) หาก Sym-White ยังไม่ได้เติมในส่วนของน้ำมัน สามารถเติมในขั้นตอนนี้ได้ โดยคนเบาๆ และอาจใช้ความร้อนเล็กน้อย (<50°C) หากจำเป็นเพื่อช่วยให้ละลาย
    5. การปรับค่า pH: ตรวจสอบค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปและปรับให้อยู่ในช่วงที่แนะนำเพื่อความเสถียร (5.0-5.5 สำหรับสูตรที่ 2, 4.5-5.5 สำหรับสูตรที่ 3, 4.0-7.0 สำหรับสูตรที่ 1 แต่โดยทั่วไปให้อยู่ในช่วง 4.5-5.5 ก็ดีสำหรับผิว) ใช้กรดที่เหมาะสม (เช่น สารละลาย Citric Acid) หรือเบส (เช่น สารละลาย Triethanolamine) เพื่อปรับค่า pH ทีละหยดขณะคน
    6. การผสมขั้นสุดท้าย: คนต่ออีกสองสามนาทีเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันดี