คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการปรุงสูตร

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการปรุงสูตรเครื่องสำอาง การผสม ส่วนผสม และการจัดเก็บ:

1. ความเร็วในการปั่นสำหรับความหนืดที่แตกต่างกัน

ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ความหนืดของเนื้อครีม (ข้นมากหรือน้อย) ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความเร็วในการปั่นเมื่อใช้หัวปั่น Dissolve/Disperse กับสว่านที่มีความเร็วสูงสุด 3000 รอบ ความเร็วที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับชนิดของสารสร้างเนื้อครีมหรือสารสร้างเนื้อเจลที่คุณใช้ ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้ Pro Polymer ความเร็วในการปั่นที่แนะนำคือประมาณ 500-1500 รอบต่อนาที โดยไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ 1% หรือ 0.5% ในสูตรของคุณ

2. การปั่นครีมข้นที่ส่วนบนหมุนช้า

หากส่วนบนของเนื้อครีมที่ข้นมากหมุนช้าในระหว่างการปั่น แสดงว่ากำลังของมอเตอร์สว่านไม่เพียงพอสำหรับความหนืดของส่วนผสม ซึ่งหมายความว่าส่วนผสม โดยเฉพาะส่วนบน อาจจะเข้ากันได้ไม่ดี การใช้ช้อนช่วยคนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีทั่วทั้งภาชนะ

3. ภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการปั่น

ไม่แนะนำให้ใช้ขวดโหลแก้วสำหรับการปั่นด้วยหัวปั่น Dissolve/Disperse เนื่องจากมีความเสี่ยงที่หัวปั่นจะกระแทกกับแก้วและอาจทำให้มีเศษแก้วปะปนเข้าไปในผลิตภัณฑ์ของคุณได้ ภาชนะที่เหมาะสมที่สุดคือหม้อสแตนเลสที่มีความหนา โดยเฉพาะที่ทำจากเหล็กเกรด SUS304

4. การตั้งค่าไม่ให้เครื่องชั่งปิดตัวเอง

ความสามารถในการปิดฟังก์ชันปิดเครื่องอัตโนมัติบนเครื่องชั่งขึ้นอยู่กับรุ่น เครื่องชั่งขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่โดยทั่วไปจะไม่มีตัวเลือกนี้ อย่างไรก็ตาม เครื่องชั่งขนาดใหญ่ระดับห้องปฏิบัติการมักจะสามารถตั้งค่านี้ได้

5. เทคนิคการปั่น Pro Polymer เพื่อหลีกเลี่ยงฟองอากาศ

เพื่อลดฟองอากาศขนาดเล็กเมื่อปั่น Pro Polymer ด้วยหัวปั่น Dissolve/Disperse สิ่งสำคัญคือการลดความเร็วในการปั่น ฟองอากาศที่มากเกินไปเป็นสัญญาณว่าการปั่นรุนแรงเกินไป แม้ว่าการคนผงด้วยมือก่อนใช้เครื่องผสมแบบแรงเฉือนสูงอาจช่วยได้เล็กน้อย แต่คำแนะนำหลักจากเจ้าหน้าที่คือให้ลดความเร็วของเครื่องผสม Dissolve/Disperse เอง คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ Pro Polymer ยังแนะนำว่าไม่ควรปั่นเกิน 2500 รอบต่อนาที เนื่องจากอาจทำให้โครงสร้างโพลิเมอร์เสียหายและทำให้สูตรอ่อนแอลงได้

6. สารสร้างเนื้อสำหรับครีมและโลชั่น และคำแนะนำสำหรับโลชั่นกันแดดเนื้อคล้ายวาสลีน

ใช่ค่ะ สารสร้างเนื้อหรืออิมัลซิไฟเออร์ชนิดเดียวกันมักจะสามารถใช้ได้ทั้งกับครีมและโลชั่น ความแตกต่างของเนื้อสัมผัสทำได้โดยการปรับความเข้มข้นของส่วนผสมเหล่านี้ สำหรับโลชั่นกันแดดแบบ Physical ที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายโลชั่นวาสลีน ซึ่งโดยทั่วไปใช้วิธีการอิมัลซิไฟเออร์แบบ Hot-process เจ้าหน้าที่แนะนำให้ใช้อิมัลซิไฟเออร์แบบ Hot-process ตัวเลือกที่เหมาะสมได้แก่ Butter Cream Maker, Soft Cream Maker, หรือ Milk Lotion Maker โดยใช้ร่วมกับ Glyceryl Stearate SE / Glyceryl Monostearate SE คุณจะต้องปรับเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมเหล่านี้ตามความหนืดที่ต้องการของโลชั่นสำเร็จรูปของคุณ

7. สีของ Avocado Oil (Refined) และโพแทสเซียม

Avocado Oil (Refined) มีสีเหลือง การเติมลงในครีมจะส่งผลต่อสีของครีมอย่างแน่นอน โดยความเข้มของการเปลี่ยนแปลงสีขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันที่ใช้ คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ Avocado Oil (Refined) ระบุว่ามีโพแทสเซียม แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าสิ่งนี้ทำให้เป็นอิเล็กโทรไลต์ในบริบทของความเสถียรของสูตร อย่างไรก็ตาม คำอธิบายสำหรับ Light Cream Maker ระบุว่าอิเล็กโทรไลต์คือสารที่มีโซเดียม แมกนีเซียม แคลเซียม หรือโพแทสเซียม และสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์อาจต้องใช้สารสร้างเนื้อครีมในความเข้มข้นที่สูงขึ้นหรือขั้นตอนการผสมพิเศษเพื่อรักษาความหนืด

8. การแยกชั้นของ Light Cream Maker

ใช่ค่ะ เป็นเรื่องปกติที่ Light Cream Maker จะเกิดการแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยมีชั้นสีขาวอยู่ด้านล่างและชั้นของเหลวใสอยู่ด้านบน สิ่งนี้ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ เพียงแค่เขย่าภาชนะให้เข้ากันดีก่อนใช้งานเพื่อกระจายส่วนประกอบใหม่

9. ความเสถียรของเซรั่ม Glycolic Acid ในขวดใสและการจัดเก็บ

การเก็บเซรั่ม Glycolic Acid ที่ทำด้วย Silky Serum Base Plus ในขวดใสที่โดนแสงอาจทำให้ส่วนผสมเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าเนื่องจากการสัมผัสกับแสง UV เมื่อเทียบกับการเก็บในภาชนะทึบแสง แม้ว่าอัตราการเสื่อมสภาพที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ปกป้องส่วนผสมและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ไวต่อแสงจากแสง สำหรับแนวทางการจัดเก็บทั่วไปสำหรับส่วนผสมและสูตรสำเร็จรูป คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่บริษัทจัดหาให้ได้