ทบทวนสูตร: โทนเนอร์, เจลลดเซลลูไลท์ และไฮยาลูรอนิคเจล

ถามโดย: tualek_jan เมื่อ: September 12, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนช่วยทบทวนสูตรต่อไปนี้และให้คำแนะนำหน่อยค่ะ เพิ่งได้รับวัตถุดิบมาค่ะ

  1. Toner lotion 1:

    • Water (ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่คะ)
    • Glycerin (ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่คะ)
    • Panthenol 5%
  2. Toner lotion 2:

    • Witch Hazel 50g
    • Water 50g
    • ไม่ทราบว่าสำหรับ Toner ใช้สูตรไหนดีกว่ากันคะ?
  3. Cellulite control gel:

    • Green tea extract - 5% (2-3g)
    • L-carnitine (2-3g)
    • sea kelp bioferment - 50g
  4. Hyaluronic Gel (ตามที่เคยจากกระทู้):

    • Double Hyaluronic Gel
    • L-Ascorbic Acid 10-15%
    • Glutathione 1 - 1.5% ตามอัตราส่วนที่ใส่L-Ascorbic Acid
    • Disodium EDTA 0.2%
    • ถ้าไม่ได้มีส่วนผสม 'Disodium EDTA' จะทำสูตรนี้ได้ป่าวคะ?

คำตอบ

การทบทวนสูตรและการให้คำแนะนำ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและคำถามของคุณค่ะ เรามาทบทวนแต่ละสูตรกันนะคะ

สูตรโทนเนอร์

คุณได้ให้สูตรโทนเนอร์มาสองสูตรค่ะ:

  1. โทนเนอร์ โลชั่น 1: น้ำ, กลีเซอรีน, แพนทีนอล 5%
  2. โทนเนอร์ โลชั่น 2: วิชฮาเซล 50 กรัม, น้ำ 50 กรัม

สำหรับ โทนเนอร์ โลชั่น 1 ปริมาณของน้ำและกลีเซอรีนขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่ต้องการและระดับความชุ่มชื้นสำหรับผิว โดยทั่วไปแล้ว กลีเซอรีนในโทนเนอร์จะใช้ประมาณ 1-5% ส่วนน้ำจะเป็นส่วนที่เหลือของสูตร (เช่น ถ้าใช้แพนทีนอล 5% และกลีเซอรีน 3% น้ำก็จะเท่ากับ 92%) แพนทีนอลที่ความเข้มข้น 5% ถือเป็นปริมาณที่ดีสำหรับการให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวค่ะ

โทนเนอร์ โลชั่น 2 เป็นสูตรโทนเนอร์แบบง่ายๆ ที่ใช้วิชฮาเซลและน้ำ วิชฮาเซลมีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขน การใช้ในอัตราส่วน 50:50 เป็นวิธีมาตรฐานสำหรับโทนเนอร์วิชฮาเซลพื้นฐานค่ะ

การเลือกว่าสูตรไหน "ดีกว่า" ขึ้นอยู่กับความต้องการของผิวคุณ หากผิวต้องการความชุ่มชื้นและปลอบประโลม สูตร 1 ที่มีกลีเซอรีนและแพนทีนอลจะเหมาะสมกว่า หากต้องการกระชับรูขุมขนและควบคุมความมัน สูตร 2 ที่มีวิชฮาเซลจะเหมาะสมกว่า นอกจากนี้ คุณยังสามารถผสมผสานส่วนประกอบต่างๆ ได้ เช่น ใช้วิชฮาเซลในปริมาณที่น้อยลงในสูตร 1 เพื่อให้ได้โทนเนอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยกระชับรูขุมขนได้เล็กน้อยค่ะ

เซลลูไลท์ คอนโทรล เจล

สูตรเซลลูไลท์ คอนโทรล เจลของคุณประกอบด้วย สารสกัดชาเขียว (5%), แอล-คาร์นิทีน (2-3 กรัม), และซีเคลป์ไบโอเฟอร์เมนต์ (50 กรัม)

  • สารสกัดชาเขียว (เช่น Hi-EGCG™ หรือ Pure-EGCG™) มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยลดการอักเสบได้
  • แอล-คาร์นิทีน มักถูกใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเซลลูไลท์และได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลบางแห่งว่ามีศักยภาพในด้านนี้ รวมถึงให้ความชุ่มชื้นและช่วยผลัดเซลล์ผิว
  • สารสกัดซีเคลป์ (เช่น Sea Kelp Extract) อุดมไปด้วยสารอาหารและช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้ อัตราการใช้สารสกัดซีเคลป์โดยทั่วไปคือ 1-10% โดยแนะนำที่ 1-3% สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นคาวทะเล การใช้ 50 กรัมในสูตรมาตรฐาน 100 กรัมจะเท่ากับ 50% ซึ่งสูงกว่าช่วงที่แนะนำมาก และอาจทำให้เกิดปัญหากลิ่นและอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสได้ค่ะ

โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ทำงานกับเปอร์เซ็นต์สำหรับสูตรต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการปรับขนาด หากเปอร์เซ็นต์ของสารสกัดชาเขียวและแอล-คาร์นิทีนถูกต้อง (5% และ 2-3%) คุณอาจพิจารณาใช้สารสกัดซีเคลป์ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลง อาจอยู่ในช่วง 1-5% และปรับปริมาณน้ำหรือเบสเจลตามความเหมาะสมเพื่อให้ครบ 100% ค่ะ

ไฮยาลูรอนิค เจล

สูตรไฮยาลูรอนิค เจลของคุณใช้ Double Hyaluronic Gel เป็นเบส และมีส่วนประกอบของ L-Ascorbic Acid (10-15%), Glutathione (1 - 1.5%), และ Disodium EDTA (0.2%)

  • Double Hyaluron Liquid (หรือ Hyaluronic Acid Gel Base) ช่วยให้ความชุ่มชื้น
  • L-Ascorbic Acid (วิตามินซี) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงและช่วยให้ผิวกระจ่างใส
  • Glutathione เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดที่ทำงานเสริมฤทธิ์กับวิตามินซีได้
  • Disodium EDTA เป็นสารคีเลต (chelating agent)

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการทำสูตรโดยไม่มี Disodium EDTA: Disodium EDTA ถูกใส่ในสูตรที่มี L-Ascorbic Acid เพื่อจับกับไอออนของโลหะที่อาจทำให้อาการของวิตามินซีเกิดการออกซิเดชันและเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าคุณ สามารถ ทำสูตรโดยไม่มีสารนี้ได้ แต่ความเสถียรและอายุการเก็บรักษาของ L-Ascorbic Acid จะลดลงอย่างมาก ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์อาจสูญเสียประสิทธิภาพเร็วขึ้นมาก หากคุณเลือกที่จะไม่ใช้ Disodium EDTA การจัดเก็บผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม (เช่น ในภาชนะทึบแสง ปิดสนิท ในที่เย็นและมืด) และใช้ให้หมดโดยเร็วก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นค่ะ

หวังว่าการทบทวนนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับสูตรของคุณนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)
Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Witch Hazel (Alcohol Free, Paraben Free) Plus Allantoin
Witch Hazel (Alcohol Free, Paraben Free) Plus Allantoin
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard)
เครื่องสำอาง
Pure-EGCG™ (Green Tea Extract, 98% EGCG)
Pure-EGCG™ (Green Tea Extract, 98% EGCG)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid Gel Base
Hyaluronic Acid Gel Base
เครื่องสำอาง
PreB5™ (Pantolactone, Pantoyl Lactone)
PreB5™ (Pantolactone, Pantoyl Lactone)
เครื่องสำอาง
Glutathione (L-Glutathione Reduced)
Glutathione (L-Glutathione Reduced)
เครื่องสำอาง