ทำความเข้าใจส่วนผสมและสูตร Skincare เพื่อเสริมชั้นผิว
คำถาม
จากข้อมูลที่ให้มาเกี่ยวกับการเสริมชั้นผิว (skin-barrier) ช่วยให้ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ ระคายเคืองง่าย อยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้:
สูตรที่สามารถรักษาน้ำในผิวได้สูงที่สุด (เสริม skin-barrier) คือสูตรที่มีส่วนผสมของ:
- Cholesterol
- Essential Fatty Acid (เช่น Linoleic Acid)
- Non Essential Fatty Acid (เช่น stearic acid)
- Ceramide
ในอัตราส่วน3 : 1 : 1 : 1
(Source : Optimal ratios of topical stratum corneum lipids improve barrier recovery in chronologically aged skin)
อัตราส่วนนี้จะช่วยเร่งการเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง
ผลิตภัณฑ์ของ atopalm ที่เคลมว่าช่วยเรื่อง skin-barrier แต่ไม่มีสัดส่วน
3:1:1:1
อาจเป็นเพราะใช้เทคโนโลยี MLE
(Multi lamella emulsion) ซึ่งในเทคโนโลยี MLE มีPseudo Ceramides
(เช่นMyristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA
ซึ่งเป็นสารสิทธิบัตร US patentUS6221371B1
ปี 2001 จากบริษัท Aekyung เกาหลีใต้) และมีสัดส่วนของ Cholesterol : Ceramide : Fatty acid ที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการเสริมชั้นผิวแล้ว สารนี้มีประโยชน์ในการเหนี่ยวนำให้ผิวสร้างไขมันใหม่ออกมาฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหาย และเทคโนโลยี MLE ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารต่างๆ เข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นหลักการเสริมชั้นผิวที่ดีต้องมีสัดส่วนของ Cholesterol : Essential Fatty Acid : Non Essential Fatty Acid : Ceramide ให้ครบทุกตัวในสูตร ในสัดส่วน
3:1:1:1
เพื่อเร่งการเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงการใส่สารตัวใดตัวหนึ่ง เช่น ใส่ Ceramide อย่างเดียว หรือใส่ Cholesterol อย่างเดียวในสูตร บางครั้งอาจไปรบกวนเกราะชั้นผิว ทำให้การซ่อมแซมผิวแย่ลง และช่วยให้การสูญเสียน้ำเยอะขึ้นด้วย การใช้ครีมที่มี Ceramide ไม่ได้เสริมชั้นผิวเสมอไป เพราะการใส่ Ceramide แบบเดี่ยวๆ ไม่ได้ช่วยเสริมชั้นผิว แต่เป็นการรบกวนเกราะผิวและยังช่วยให้การสูญเสียน้ำเยอะขึ้น
มีสารตัวอื่นที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง Ceramide ได้แก่ Linoleic Acid, N-acetyl- L-hydroxyproline, และ Niacinamide
โปรดยืนยันและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนผสมและสูตรสำหรับเสริมชั้นผิวเหล่านี้
คำตอบ
แชร์ความรู้: ส่วนผสมใน Skincare เพื่อเสริมชั้นผิว
การเสริมชั้นผิว (skin-barrier) ช่วยให้ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ ระคายเคืองง่าย
- สูตรที่สามารถรักษาน้ำในผิวได้สูงที่สุด (เสริม skin-barrier) คือสูตรที่มีส่วนผสมของ Cholesterol, Essential Fatty Acid (เช่น Linoleic Acid), Non Essential Fatty Acid (เช่น Stearic Acid), และ Ceramide ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 : 1 ค่ะ อัตราส่วนนี้เองที่จะช่วยเร่งการเสริมชั้นผิวของเราให้แข็งแรง
- การใส่สารตัวใดตัวหนึ่ง เช่น ใส่ Ceramide อย่างเดียว หรือใส่ Cholesterol อย่างเดียวในสูตร บางครั้งอาจจะไปรบกวนเกราะชั้นผิว ทำให้การซ่อมแซมผิวแย่ลง และยังช่วยให้การสูญเสียน้ำเยอะขึ้นด้วยค่ะ ฉะนั้น การใช้ครีมที่มี Ceramide ไม่ใช่ว่าจะเสริมชั้นผิวเสมอไป เพราะการใส่ Ceramide แบบเดี่ยวๆ ไม่ได้ช่วยเสริมชั้นผิวนะคะ แต่เป็นการรบกวนเกราะผิว และยังช่วยให้การสูญเสียน้ำเยอะขึ้นด้วยค่ะ
- สำหรับผลิตภัณฑ์ของ atopalm ที่เคลมว่าช่วยเรื่อง skin-barrier แต่ไม่มีสัดส่วน 3:1:1:1 อยู่ในสูตร เป็นเพราะใช้ เทคโนโลยี MLE (Multi Lamella Emulsion) ซึ่งมี Pseudo Ceramides (เช่น Myristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA ซึ่งเป็นสารสิทธิบัตร) และมีสัดส่วนของ Cholesterol : Ceramide : Fatty acid ที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการเสริมชั้นผิวแล้ว เทคโนโลยี MLE ช่วยเหนี่ยวนำให้ผิวสร้างไขมันใหม่ออกมาฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหาย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารต่างๆ เข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- มีสารตัวอื่นที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง Ceramide ได้แก่ Linoleic Acid, N-acetyl- L-hydroxyproline, และ Niacinamide ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Cholesterol (95%, NF, Fine Powder)

Ceramide Complex (Water Dispersible Powder)

Oleic Acid (90%)
