ทำความเข้าใจ Polyglutamic Acid (PGA) ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

Polyglutamic Acid (PGA) เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งได้มาจากการหมักถั่วเหลือง มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีเยี่ยม อาจมีประสิทธิภาพมากกว่า Hyaluronic Acid

นอกจากให้ความชุ่มชื้นแล้ว PGA ยังมีประโยชน์อื่นๆ ต่อผิวอีกหลายประการ:

• ยับยั้ง Hyaluronidase: ช่วยปกป้องระดับ Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติในผิว
• เพิ่ม HA และ NMFs: ช่วยกระตุ้นการผลิตปัจจัยให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว
• เสริมการกักเก็บความชุ่มชื้น: ปรับปรุงความสามารถของผิวในการคงความชุ่มชื้น
• ปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย: ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง PGA น้ำหนักโมเลกุลสูงและต่ำ

ความแตกต่างหลักระหว่าง PGA น้ำหนักโมเลกุลสูงและต่ำอยู่ที่ขนาดโมเลกุล ซึ่งส่งผลต่อการทำงานบนผิว คุณสมบัติ และการนำไปใช้ในสูตรตำรับ:

• PGA น้ำหนักโมเลกุลสูง: เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า PGA น้ำหนักโมเลกุลสูงจึงคงอยู่บนผิวเป็นหลัก โดยจะสร้างฟิล์มป้องกันที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว (Transepidermal Water Loss) ซึ่งให้ความชุ่มชื้นทันทีที่ผิวชั้นนอกและช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

• PGA น้ำหนักโมเลกุลต่ำ / ต่ำมาก: โมเลกุลที่เล็กกว่าเหล่านี้สามารถซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวได้ พวกมันทำงานเพื่อเติมความชุ่มชื้นจากภายใน ช่วยปรับปรุงระดับความชุ่มชื้นโดยรวมของผิว และอาจกระตุ้นกลไกการให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว

สรุปได้ว่า PGA น้ำหนักโมเลกุลสูงเน้นการให้ความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นนอกและเสริมเกราะป้องกันผิว ในขณะที่ PGA น้ำหนักโมเลกุลต่ำเน้นการให้ความชุ่มชื้นที่ลึกขึ้นภายในชั้นหนังกำพร้า

ในการพัฒนาสูตรตำรับ คุณอาจเลือกใช้น้ำหนักโมเลกุลที่เฉพาะเจาะจงตามผลลัพธ์ที่ต้องการ (ฟิล์มบนผิวเทียบกับการให้ความชุ่มชื้นที่ลึกขึ้น) หรืออาจผสมผสานน้ำหนักโมเลกุลที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้ประโยชน์ในการให้ความชุ่มชื้นที่ครอบคลุม ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายได้แก่ gamma-Polyglutamic acid (High Molecule Weight), gamma-Polyglutamic acid (Low Molecule Weight), และ gamma-Polyglutamic acid (Super Low Molecule Weight).