ประสิทธิภาพวิตามินซีสูตรไม่มีน้ำ (Anhydrous): ทำงานอย่างไรโดยไม่วัด pH
คำถาม
ตามความเข้าใจที่ว่าปกติวิตามินซีจะทำงานได้ดีในสภาวะที่เป็นกรด และ `Vitamin C Silicone` ไม่สามารถวัดค่า pH ได้ จะทราบได้อย่างไรว่าเมื่อทาลงบนผิวหน้าแล้วจะทำงานได้ดีเหมือนวิตามินซีสูตรน้ำที่สามารถวัดค่า pH ได้?
คำตอบ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสูตรวิตามินซีที่ไม่มีน้ำ (Anhydrous)
คุณมีข้อสงสัยที่ดีเกี่ยวกับสูตรวิตามินซีที่ไม่มีน้ำ เช่น สูตรที่อยู่ในเบสซิลิโคน และวิธีการพิจารณาประสิทธิภาพโดยไม่ต้องวัดค่า pH ซึ่งแตกต่างจากเซรั่มวิตามินซีสูตรน้ำ
นี่คือคำอธิบายครับ:
วิตามินซีสูตรน้ำ (L-Ascorbic Acid): L-Ascorbic Acid ซึ่งเป็นวิตามินซีรูปแบบบริสุทธิ์ จะมีประสิทธิภาพสูงสุดในสารละลายสูตรน้ำเมื่อมีค่า pH ต่ำ (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 2.0 ถึง 3.5) สภาพแวดล้อมที่เป็นกรดนี้ช่วยให้ L-Ascorbic Acid ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และยังช่วยรักษาความเสถียร เนื่องจาก L-Ascorbic Acid ไม่เสถียรอย่างมากและจะเกิดการออกซิเดชันอย่างรวดเร็วในน้ำ โดยเฉพาะที่ค่า pH สูง ดังนั้น การวัดและควบคุมค่า pH จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพและความเสถียรของเซรั่ม L-Ascorbic Acid สูตรน้ำ
วิตามินซีที่ไม่มีน้ำ (Anhydrous) (เช่น ในเบสซิลิโคนหรือน้ำมัน): ในสูตรที่ไม่มีน้ำ (anhydrous) วิตามินซี ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบ L-Ascorbic Acid หรืออนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมัน เช่น Ascorbyl Tetraisopalmitate จะถูกแขวนลอยหรือละลายในเบส เช่น ซิลิโคนหรือน้ำมัน หัวใจสำคัญของความเสถียรในสูตรเหล่านี้คือ การไม่มีน้ำ เมื่อไม่มีน้ำ กระบวนการออกซิเดชันของวิตามินซีจะช้าลงอย่างมาก ทำให้สูตรมีความเสถียรมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีค่า pH ต่ำ
วิธีการทำงานบนผิว: เมื่อผลิตภัณฑ์วิตามินซีที่ไม่มีน้ำถูกทาลงบนผิว ความชื้นที่มีอยู่บนผิว (จากเหงื่อหรือการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง) จะช่วยละลายหรือปลดปล่อยวิตามินซีออกมา จากนั้นวิตามินซีที่ออกฤทธิ์ก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิว ประสิทธิภาพในกรณีนี้ขึ้นอยู่กับความเสถียรโดยธรรมชาติของรูปแบบวิตามินซีที่ใช้ในเบสที่ไม่มีน้ำ และความสามารถในการปลดปล่อยและดูดซึมเมื่อสัมผัสกับความชื้นบนผิว ไม่ใช่ค่า pH ของผลิตภัณฑ์ก่อนการทา
การวัดประสิทธิภาพ: แทนที่จะวัดค่า pH ของผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพของสูตรวิตามินซีที่ไม่มีน้ำจะพิจารณาจากความเสถียรของรูปแบบวิตามินซีในเบส และความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการซึมเข้าสู่ผิวและให้ประโยชน์ (เช่น การต้านอนุมูลอิสระ การกระตุ้นคอลลาเจน และการทำให้ผิวกระจ่างใส) ผ่านการทดสอบทางคลินิก
ดังนั้น แม้ว่าค่า pH จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ L-Ascorbic Acid สูตรน้ำ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับสูตรที่ไม่มีน้ำ เนื่องจากความเสถียรและกลไกการทำงานบนผิวแตกต่างกัน ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับความสามารถของสูตรในการรักษาวิตามินซีให้คงตัวจนกว่าจะทำปฏิกิริยากับความชื้นบนผิว
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้แก่ L-Ascorbic Acid (Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)) ซึ่งใช้ในสูตรน้ำที่ต้องการ pH ต่ำ และรูปแบบที่ละลายในน้ำมัน เช่น Ascorbyl Tetraisopalmitate (Perfect-C™) ซึ่งให้ความเสถียรสูงในระบบที่ไม่มีน้ำ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
