ประสิทธิภาพและความเข้ากันได้ของสารปรับผิวขาว (Alpha Arbutin, วิตามินซี, B3) ในโลชั่น/ครีม
คำถาม
สาร Alpha Arbutin, วิตามินซี (รูปแบบต่างๆ เช่น L-Ascorbic Acid, Ethyl Ascorbic Acid, MAP), และวิตามินบี 3 (Niacinamide) มีความแตกต่างด้านประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสในตำรับโลชั่นหรือครีมอย่างไรบ้าง? สามารถนำสารเหล่านี้มาผสมรวมกันได้หรือไม่? และการผสมรวมกันให้ประสิทธิภาพดีกว่าการใช้แยกแต่ละตัวหรือไม่? โปรดพิจารณาถึงการทำงานร่วมกันของสาร เช่น Niacinamide กับ N-Acetyl Glucosamine หรือสารสกัดจากชะเอมเทศ (ชนิด Glabridin) รวมถึงประเด็นด้านการพัฒนาสูตร เช่น ช่วงค่า pH ที่เหมาะสมเพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพด้วยค่ะ
คำตอบ
สารที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสสำหรับผสมโลชั่น/ครีม
สำหรับการทำโลชั่นหรือครีมเพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใส ทั้ง Alpha Arbutin, วิตามินซี และวิตามินบี 3 ล้วนเป็นสารที่มีประสิทธิภาพ โดยแต่ละตัวมีจุดเด่นและกลไกการทำงานที่แตกต่างกันเล็กน้อย
- Alpha Arbutin: เป็นที่ยอมรับอย่างสูงในด้านประสิทธิภาพการทำให้ผิวสว่างใสโดยตรง โดยช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน ถือเป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย
- วิตามินซี: ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดเม็ดสีเมลานิน วิตามินซีแต่ละรูปแบบมีความเสถียรและประสิทธิภาพต่างกัน เช่น L-Ascorbic Acid มีประสิทธิภาพสูงแต่ไม่เสถียรในน้ำ ในขณะที่อนุพันธ์อย่าง Ethyl Ascorbic Acid และ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) มีความเสถียรและผสมได้ง่ายกว่า แต่อาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไป
- วิตามินบี 3 (Niacinamide): แม้จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสโดยลดรอยดำคล้ำ แต่วิตามินบี 3 มีประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดง และเพิ่มความชุ่มชื้น ทำงานเสริมฤทธิ์กับ N-Acetyl Glucosamine เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความขาว
ส่วนคำถามว่าตัวไหนมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น Alpha Arbutin และวิตามินซีในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูง (เช่น L-Ascorbic Acid หรือ Ethyl Ascorbic Acid) มักถูกพิจารณาว่าเป็นสารหลักในการปรับผิวให้ขาว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมักมาจากการผสมผสานสารที่ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างกัน
สามารถผสม Alpha Arbutin, วิตามินซี และ B3 เข้าด้วยกันได้หรือไม่?
ได้ค่ะ สารเหล่านี้สามารถนำมาผสมรวมกันในตำรับได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความเข้ากันได้และช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับสารแต่ละตัว โดยเฉพาะวิตามินซีที่มีหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น L-Ascorbic Acid ต้องการค่า pH ที่ต่ำ (ประมาณ 3.5 หรือต่ำกว่า เพื่อประสิทธิภาพและความเสถียรที่ดีที่สุด) ในขณะที่ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) จะเสถียรที่ค่า pH สูงกว่า (7-9) ส่วนวิตามินบี 3 โดยทั่วไปมีความเสถียรในช่วง pH ที่กว้างกว่า (เหมาะสมที่สุดที่ 4-7) และ Alpha Arbutin ควรผสมที่ค่า pH ระหว่าง 3.5-6.5
การผสมจำเป็นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าตำรับมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้วิตามินซีกลุ่ม L-Ascorbic Acid หรืออนุพันธ์บางชนิดร่วมกับสารอื่นๆ ที่ไวต่อค่า pH เช่น Alpha Arbutin
การผสมให้ประสิทธิภาพดีกว่าการแยกใช้ทีละตัวหรือไม่?
การผสมผสานสารเหล่านี้มักให้ผลลัพธ์ด้านความกระจ่างใสที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เพียงตัวเดียว เนื่องจากสารแต่ละตัวมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันในการจัดการกับกระบวนการสร้างเม็ดสีและสุขภาพผิวโดยรวม:
- Alpha Arbutin ยับยั้งเอนไซม์ (Tyrosinase) ที่จำเป็นต่อการผลิตเม็ดสีเมลานิน
- วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสามารถรบกวนการสังเคราะห์เม็ดสี รวมถึงช่วยลดเม็ดสีที่มีอยู่แล้ว
- วิตามินบี 3 ช่วยลดการส่งผ่านเม็ดสีภายในเซลล์ผิว และปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิว ซึ่งช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและลดรอยดำหลังการอักเสบได้ทางอ้อม
- การใช้วิตามินบี 3 ร่วมกับ N-Acetyl Glucosamine ทราบกันดีว่าช่วยเสริมประสิทธิภาพความขาวได้อย่างมากผ่านกลไกการทำงานร่วมกัน
ดังนั้น ตำรับที่ผสมผสานสารเหล่านี้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึง N-Acetyl Glucosamine และสารสกัดจากชะเอมเทศ (โดยเฉพาะชนิดที่อุดมด้วย Glabridin ซึ่งช่วยยับยั้ง Tyrosinase เช่นกัน) จะสามารถทำงานแบบหลายเป้าหมายเพื่อให้ผิวสว่างใส เรียบเนียน และสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
แนะนำให้พิจารณาใช้ Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) ร่วมกับ GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน และอาจเพิ่ม Alpha Arbutin และ วิตามินซี ในรูปแบบที่เสถียร เช่น Ethyl Ascorbic Acid หรือ Magnesium Ascorbyl Phosphate เพื่อเสริมประสิทธิภาพความขาวให้ดียิ่งขึ้น สารสกัดจากชะเอมเทศ (ชนิด Glabridin) ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีที่สามารถเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis)

Pure-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 90%)
