ปรับปรุงสูตรโฟมล้างหน้า AHA: ค่า pH, ความอ่อนโยน, และการเพิ่มความขาว

ถามโดย: da_roof เมื่อ: September 02, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันมีสูตรโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมดังนี้:

  • Lactic Acid 10%
  • Lauryl Glucoside 5%
  • Creamy Foamer 15%
  • Glycerin 10%
  • EmulPear 5%
  • Phenoxyethanol 1%
  • น้ำ 54%

ฉันต้องการให้สูตรนี้เป็นโฟมล้างหน้าผลัดเซลล์ผิวเพื่อผิวขาว จากข้อเสนอแนะที่ได้รับ Lauryl Glucoside 5% อาจจะแรงเกินไปสำหรับผิวหน้า และฉันต้องปรับค่า pH สำหรับ Lactic Acid ฉันจะปรับสูตรนี้อย่างไรให้มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้ามากขึ้น ปรับปรุงเนื้อฟองให้นุ่ม/เป็นครีมมากขึ้น ทำให้ Lactic Acid มีประสิทธิภาพและปลอดภัย (ค่า pH ที่ถูกต้อง) และสามารถเพิ่มส่วนผสมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ได้หรือไม่?

คำตอบ

ข้อเสนอแนะสำหรับสูตรโฟมล้างหน้า AHA

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรโฟมล้างหน้า AHA และข้อเสนอแนะที่คุณได้รับค่ะ นี่คือการวิเคราะห์สูตรของคุณและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุง โดยเน้นที่การทำให้ "หน้าขาว" ด้วยการผลัดเซลล์ผิวและการเพิ่มสารไวท์เทนนิ่งอื่นๆ

การวิเคราะห์สูตรปัจจุบันของคุณ

สูตรของคุณใช้ Lactic Acid 10% เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่ดีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือค่า pH ต้องถูกต้อง ข้อเสนอแนะที่คุณได้รับเกี่ยวกับค่า pH นั้นสำคัญมากค่ะ

  • Lactic Acid (10%): นี่คือส่วนประกอบหลักในการผลัดเซลล์ผิว เพื่อให้ Lactic Acid ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป จำเป็นต้อง ปรับให้อยู่ในช่วง 3.5-4.0 ตามที่ระบุในข้อเสนอแนะ คุณอาจจะต้องเติมสารปรับค่า pH เช่น Triethanolamine เพื่อเพิ่มค่า pH จากสภาพที่เป็นกรดสูงในตอนแรก
  • Lauryl Glucoside (5%): ตามที่ระบุในข้อเสนอแนะ Lauryl Glucoside 5% อาจจะแรงเกินไปสำหรับผิวหน้า ทำให้รู้สึกตึงหรือแห้งได้ มักนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายหรือเส้นผม พิจารณาการลดความเข้มข้นลง หรือเปลี่ยนบางส่วนไปใช้สารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนกว่า
  • Creamy Foamer (15%): ช่วยสร้างฟองและคุณสมบัติในการทำความสะอาด
  • Glycerin (10%): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวและลดผลกระทบที่อาจทำให้ผิวแห้งจากสารลดแรงตึงผิวและ AHA
  • EmulPear (5%): ส่วนประกอบนี้มักทำหน้าที่เป็นสารสร้างประกายมุก (pearlizer) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นประกายมุก ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำความสะอาดหรือผลัดเซลล์ผิว
  • Phenoxyethanol (1%): เป็นสารกันเสียมาตรฐาน
  • น้ำ (54%): ส่วนประกอบที่เป็นเบสของสูตร

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง

  1. การปรับค่า pH: หลังจากผสมส่วนประกอบทั้งหมดแล้ว ต้อง วัดค่า pH เสมอ ใช้สารปรับค่า pH เช่น Triethanolamine ค่อยๆ หยดทีละน้อย ผสมให้เข้ากันหลังจากหยดแต่ละครั้ง จนกว่าค่า pH จะอยู่ในช่วงเป้าหมาย 3.5-4.0 ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพื่อให้ Lactic Acid ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวและเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยต่อผิว
  2. ระบบสารลดแรงตึงผิว: เพื่อให้สูตรอ่อนโยนต่อผิวหน้ามากขึ้น พิจารณาการลดความเข้มข้นของ Lauryl Glucoside คุณอาจลองลดเหลือ 3% หรือน้อยกว่านั้น หรือเปลี่ยนบางส่วนไปใช้สารลดแรงตึงผิวร่วมที่อ่อนโยนกว่า เช่น BabyFoam (Sodium Cocoyl Isethionate) ตามที่แนะนำในข้อเสนอแนะ BabyFoam ยังช่วยสร้างฟองที่นุ่มและน่าใช้มากขึ้นด้วย
  3. ลักษณะฟอง: หากต้องการฟองที่นุ่มและเป็นครีมมากขึ้น การเพิ่ม BabyFoam สามารถช่วยปรับปรุงความรู้สึกขณะใช้ผลิตภัณฑ์ได้ แม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดหรือผลัดเซลล์ผิวโดยตรงก็ตาม

สารไวท์เทนนิ่งเพิ่มเติม

เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์แบบล้างออก ระยะเวลาที่สัมผัสกับผิวจึงสั้น ดังนั้น ส่วนประกอบที่ให้ประโยชน์แม้สัมผัสเพียงช่วงสั้นๆ จึงเหมาะสม นอกเหนือจากผลของการผลัดเซลล์ผิวของ Lactic Acid (ซึ่งช่วยเผยผิวที่กระจ่างใสขึ้นโดยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว) คุณสามารถเพิ่มส่วนประกอบที่ทำงานกับกระบวนการสร้างหรือขนส่งเม็ดสีได้

พิจารณาเพิ่ม:

  • Niacinamide (วิตามินบี 3): เป็นส่วนประกอบที่มีประโยชน์หลากหลาย ช่วยลดรอยดำ รอยแดง ปรับปรุงเกราะป้องกันผิว และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ มีประสิทธิภาพแม้ในผลิตภัณฑ์แบบล้างออก และโดยทั่วไปมีความเสถียรในสูตรที่มีค่า pH ระหว่าง 4.0-7.0 ซึ่งเข้ากันได้กับช่วง pH เป้าหมายของคุณหลังจากปรับแล้ว คุณสามารถเพิ่ม Niacinamide (Safe-B3) ในความเข้มข้น 1-3% (หรือสูงถึง 10% สำหรับเกรดความบริสุทธิ์สูง)
  • อนุพันธ์วิตามินซี: วิตามินซีรูปแบบที่เสถียร เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP) หรือ Ascorbyl Glucoside (AA-2G) สามารถให้ประโยชน์ด้านสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น Sodium Ascorbyl Phosphate มีความเสถียรในค่า pH ที่เป็นด่างเล็กน้อย (7-9) ซึ่งอาจเป็นเรื่องท้าทายในการรักษาร่วมกับ Lactic Acid ส่วน Ascorbyl Glucoside มีความเสถียรในช่วง pH 6.5-6.8 เมื่อพิจารณาจากค่า pH เป้าหมาย 3.5-4.0 เพื่อประสิทธิภาพของ AHA การเพิ่มอนุพันธ์วิตามินซีอาจเป็นเรื่องท้าทายด้านความเสถียร เว้นแต่จะใช้รูปแบบที่เสถียรใน pH ต่ำ หรือยอมรับประสิทธิภาพ/ความเสถียรที่ลดลง Niacinamide โดยทั่วไปเป็นการเพิ่มที่ง่ายกว่าในสูตรที่มี AHA

ข้อควรจำที่สำคัญ

  • เมื่อเพิ่มส่วนประกอบใหม่ อย่าลืมปรับลดสัดส่วนของน้ำลง เพื่อให้สูตรรวมเป็น 100% เสมอ
  • ควรทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อนเสมอ เพื่อตรวจสอบความเข้ากันได้ ความเสถียร และประสิทธิภาพที่ต้องการ
  • วัดค่า pH อย่างแม่นยำหลังจากเติมส่วนประกอบทั้งหมดและปรับด้วย Triethanolamine
  • ทำการทดสอบการแพ้ (patch testing) เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปไม่ระคายเคืองต่อผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี Lactic Acid และระบบสารลดแรงตึงผิว

ด้วยการปรับค่า pH และอาจปรับเปลี่ยนระบบสารลดแรงตึงผิว สูตรของคุณสามารถเป็นโฟมล้างหน้าผลัดเซลล์ผิวที่มีประสิทธิภาพได้ การเพิ่ม Niacinamide สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้นค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Triethanolamine 99%
Triethanolamine 99%
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Lauryl Glucoside
Lauryl Glucoside
เครื่องสำอาง
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
เครื่องสำอาง
emulPearl™ (Pearlizer, Dispersed Liquid)
emulPearl™ (Pearlizer, Dispersed Liquid)
เครื่องสำอาง
emulPearl™ (Pearlizer, Flakes/Pellets)
emulPearl™ (Pearlizer, Flakes/Pellets)
เครื่องสำอาง
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
เครื่องสำอาง