ปรับปรุงเนื้อครีมและประสิทธิภาพความขาวในสูตรที่มี Glycolic Acid

สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่เข้าใจเจตนาของทางทีมงานนะคะ ต้องขออภัยอีกครั้งสำหรับความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นค่ะ ทางทีมงานยินดีให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้คุณลูกค้าได้สูตรที่ตรงตามความต้องการและใช้ส่วนผสมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

จากข้อมูลที่คุณลูกค้าแจ้งมาและคำอธิบายเพิ่มเติมเรื่อง Glycolic Acid แบบสารละลาย ทำให้เห็นภาพปัญหาที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนขึ้นค่ะ การใช้ Glycolic Acid ที่เป็นสารละลาย 70% ในปริมาณ 4-5% ของสูตร ซึ่งเท่ากับเนื้อ Glycolic Acid ประมาณ 2.8-3.5% (4% * 0.7 = 2.8%, 5% * 0.7 = 3.5%) เพื่อปรับ pH ลงไปที่ 4 นั้น เป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อความคงตัวของเนื้อครีมที่สร้างด้วย Light Cream Maker และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อครีมเหลวลงจนต้องเพิ่ม Light Cream Maker ถึง 5% ซึ่งปริมาณ Emulsifier ที่สูงนี้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการเป็นขุยได้ค่ะ

การที่เนื้อครีมไม่ค่อยซึม เหนอะหนะ และเป็นขุย มักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งชนิดและปริมาณของสารสร้างเนื้อ (Emulsifier/Thickener), ชนิดและปริมาณของส่วนผสมในเฟสน้ำมัน (Oil Phase), สารที่ละลายในเฟสน้ำหรือน้ำมัน, และค่า pH ของสูตรค่ะ

เพื่อช่วยให้คุณลูกค้าได้สูตรที่เนื้อสัมผัสดีขึ้น ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่เป็นขุย และยังคงประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ทางทีมงานขอให้คำแนะนำตามคำถามที่คุณลูกค้าสอบถามมาดังนี้ค่ะ

1. ถ้าเปลี่ยนจาก Light Cream Maker ไปใช้ SiliSolve Plus & Silicone Gel จะแก้ไขเรื่องครีมเหลวเมื่อปรับ pH ได้หรือไม่ (รวมถึงการเป็นขุยด้วยค่ะ) --> ถ้าได้ ควรใช้ปริมาณเท่าไหร่คะ

   • ใช่ค่ะ การเปลี่ยนระบบสารประสานเนื้อมีโอกาสช่วยแก้ปัญหาเนื้อครีมเหลวเมื่อปรับ pH และปัญหาการเป็นขุย รวมถึงช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสให้ดีขึ้นได้ค่ะ SiliSolve Plus ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยประสานซิลิโคนและน้ำมันเข้ากับน้ำ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ ส่วน Silicone Gel (Vinyl Dimethicone Crosspolymer) เป็นซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ที่ช่วยให้เนื้อครีมมีความนุ่มลื่นคล้ายแป้ง ลดความเหนอะหนะ และช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชั่นได้ค่ะ การใช้สองตัวนี้ร่วมกันมักจะช่วยให้ได้เนื้อครีมที่เนียนนุ่ม ซึมง่าย และไม่เหนอะหนะค่ะ
   • ปริมาณที่แนะนำ: สำหรับ SiliSolve Plus ปริมาณที่แนะนำโดยทั่วไปคือ 1-3% ส่วน Silicone Gel สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 1% ไปจนถึง 20% ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสที่ต้องการค่ะ ในการเปลี่ยนจาก Light Cream Maker 5% และต้องการเนื้อที่เบาลง ไม่เหนอะหนะ อาจลองใช้ SiliSolve Plus ที่ประมาณ 2-3% และ Silicone Gel ที่ประมาณ 3-5% ค่ะ อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับปริมาณรวมของส่วนผสมในเฟสน้ำมัน/ซิลิโคน และความข้นหนืดที่ต้องการค่ะ อาจจะต้องมีการทดลองปรับปริมาณเล็กน้อยเพื่อให้ได้เนื้อที่พอใจที่สุดค่ะ

2. Tranexamic 3% + Sym-White 0.5% เพียงพอที่จะช่วยให้ผิวขาวขึ้นภายใน 4 สัปดาห์หรือไม่คะ (หากไม่พอ ควรเพิ่มสารตัวไหนเพิ่มเติม ช่วยแนะนำด้วยค่ะ)

   • ส่วนผสม Tranexamic Acid 3% และ Sym-White 0.5% เป็นสารให้ความขาวที่มีประสิทธิภาพในความเข้มข้นดังกล่าวค่ะ อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้เรียนชี้แจงไปก่อนหน้านี้ การเห็นผลความขาวที่ชัดเจนด้วยส่วนผสมกลุ่มนี้มักต้องใช้ระยะเวลามากกว่า 4 สัปดาห์ โดยทั่วไปจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 รอบการผลัดเซลล์ผิว (ประมาณ 1 เดือน) หรือนานกว่านั้นจึงจะเริ่มเห็นผลค่ะ ความเร็วในการเห็นผลยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ความเข้มของปัญหาเม็ดสี และองค์ประกอบโดยรวมของสูตรด้วยค่ะ
   • การเพิ่มสารให้ความขาว: หากต้องการให้เห็นผลเร็วขึ้น (แต่อยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัยและเป็นไปได้สำหรับส่วนผสมกลุ่มนี้) อาจพิจารณาเพิ่มสารให้ความขาวตัวอื่นที่ทำงานเสริมกันได้ค่ะ สารบางตัวที่มีจำหน่ายในร้านและทำงานด้วยกลไกที่แตกต่างกัน เช่น Niacinamide (Vitamin B3) ที่ความเข้มข้น 4-5%, Alpha Arbutin ที่ 1-2%, หรืออนุพันธ์วิตามินซี เช่น Ascorbyl Glucoside ที่ 2-5% ค่ะ การใช้ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการสร้างเม็ดสีร่วมกัน บางครั้งอาจช่วยให้เห็นผลได้ดีขึ้นค่ะ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มสารออกฤทธิ์หลายชนิดอาจทำให้สูตรมีความซับซ้อนมากขึ้นและอาจเพิ่มโอกาสการระคายเคืองได้ จึงควรพิจารณาถึงความเข้ากันได้และความคงตัวของสูตรด้วยค่ะ

3. จำเป็นต้องใช้ penetration enhancer หรือ chelating agent อะไรมั้ยคะ (สำหรับการใช้ whitening 2 ตัวนี้)

   • สำหรับ Tranexamic Acid และ Sym-White ในความเข้มข้นที่แจ้งมา โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ penetration enhancer อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เห็นผล แม้ว่าสารกลุ่มนี้อาจช่วยเพิ่มการนำพาสารเข้าสู่ผิวได้ก็ตามค่ะ ส่วน Chelating Agent เช่น Disodium EDTA มักถูกใส่ในสูตรเครื่องสำอางเพื่อจับกับไอออนของโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มความคงตัวของส่วนผสมบางชนิด (โดยเฉพาะที่ไวต่อการออกซิเดชัน) และเสริมประสิทธิภาพของสารกันเสียค่ะ แม้จะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเสมอไป แต่การเติม Chelating Agent (เช่น Disodium EDTA ที่ 0.1%) สามารถช่วยเพิ่มความคงตัวและประสิทธิภาพโดยรวมของสูตรได้ โดยเฉพาะในสูตรที่มีส่วนประกอบของน้ำ หรือเมื่อใช้ส่วนผสมที่ไวต่อไอออนของโลหะค่ะ

4. ถ้าใช้ Shea Butter Light Oil 2%ในสูตรเพื่อช่วยในการละลายของ Sym-White จะทำให้ครีมเหนอะหนะหรือไม่ (หรือสารกลุ่ม Silicone ก็เพียงพอ ในการช่วยเรื่องความชุ่มชื้นกับผิว และช่วยให้ Sym-White ละลายได้แล้ว?)

   • Shea Butter Light Oil โดยทั่วไปแล้วมีเนื้อสัมผัสที่เบาบางกว่าน้ำมันบางชนิดค่ะ การเปลี่ยนจาก Rosehip Oil 2% มาใช้ Shea Butter Light Oil 2% อาจช่วยลดความรู้สึกเหนอะหนะลงได้เล็กน้อย แต่เนื้อสัมผัสโดยรวมจะขึ้นอยู่กับระบบสารประสานเนื้อและส่วนผสมอื่นๆ ในเฟสน้ำมัน (เช่น Cyclomethicone) ด้วยค่ะ Cyclomethicone เป็นซิลิโคนระเหยง่ายที่จะระเหยไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้ซึ่งความรู้สึกแห้งและไม่เหนอะหนะ และยังเป็นตัวทำละลายที่ดีเยี่ยมสำหรับส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันหลายชนิด รวมถึง Sym-White ค่ะ การใช้ Cyclomethicone 5% มีประโยชน์ในการลดความเหนอะหนะและช่วยละลาย Sym-White ค่ะ การที่คุณลูกค้าจำเป็นต้องใช้น้ำมันเพิ่มเติมอย่าง Shea Butter Light Oil หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับระดับการบำรุงผิวและความชุ่มชื้นที่ต้องการค่ะ หากรู้สึกว่าสูตรปัจจุบันที่มี Cyclomethicone 5% และ Rosehip Oil 2% ยังหนักไป การเปลี่ยนมาใช้ Shea Butter Light Oil อาจช่วยได้ หรืออาจลองลดปริมาณรวมของส่วนผสมในเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนลงเล็กน้อย หากส่วนผสมอื่นให้ความชุ่มชื้นเพียงพอแล้วค่ะ

5. ไม่ได้ใส่สารกันเสียเพราะคิดว่าทำใช้เอง ... แต่ครั้งหน้าคิดว่าจะใส่ ใช้ Global Guard 1.5% ได้มั้ยคะ

   • ใช่ค่ะ Global Guard ที่ความเข้มข้น 1.5% เป็นสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสมสำหรับสูตรเครื่องสำอาง และมีประสิทธิภาพที่ค่า pH 4 ค่ะ แนะนำให้ใส่สารกันเสียในสูตรที่มีส่วนประกอบของน้ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ แม้จะทำใช้เองก็ตาม เพื่อความปลอดภัยและความคงตัวของผลิตภัณฑ์ค่ะ

สรุปโดยย่อ ปัญหาการเป็นขุยและเนื้อสัมผัสที่เกิดขึ้นน่าจะเกี่ยวข้องกับปริมาณสารประสานเนื้อที่สูง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เพื่อทำให้อิมัลชั่นคงตัวหลังจากมีการเติมสารละลายกรด (Glycolic Acid 70%) ในปริมาณมากค่ะ การเปลี่ยนไปใช้ระบบสารประสานเนื้ออย่าง SiliSolve Plus ร่วมกับ Silicone Gel อาจช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นและมีความคงตัวที่ค่า pH ต่ำค่ะ สำหรับเรื่องความขาว ส่วนผสมที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพแต่ต้องใช้ระยะเวลามากกว่า 4 สัปดาห์ค่ะ หากต้องการให้เห็นผลเร็วขึ้น อาจพิจารณาเพิ่มสารให้ความขาวตัวอื่นที่ทำงานเสริมกันได้ โดยคำนึงถึงความเข้ากันได้และความคงตัวของสูตรค่ะ การใส่ Chelating Agent และสารกันเสียอย่าง Global Guard 1.5% เป็นสิ่งที่แนะนำเพื่อความคงตัวและความปลอดภัยของสูตรค่ะ

นี่คือ Product ID ของส่วนผสมที่กล่าวถึงซึ่งมีจำหน่ายในร้านของเราค่ะ อาจเป็นประโยชน์สำหรับการสั่งซื้อครั้งต่อไปค่ะ

• Light Cream Maker: 141
• SiliSolve Plus: 680
• Silicone Gel (Vinyl Dimethicone Crosspolymer): 201
• Tranexamic Acid: 260
• Sym-White (Phenylethyl Resorcinol): 898
• Rose Hip Oil Extra Virgin Organic: 88
• Cyclomethicone (Cyclopentasiloxane): 171
• Glycolic Acid (ชนิดผง): 660
• Shea Butter Light Oil: 669
• Global Guard: 879

หวังว่าคำอธิบายและคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาสูตรของคุณลูกค้านะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ