ปรับสูตรเซรั่มลดเหนอะหนะ และเปรียบเทียบสารนำพา

ถามโดย: chakapoo เมื่อ: August 15, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ผมใช้ตัวพิเทร่า 100% แล้วค่อนข้างเหนอะ

ผิวมัน เป็นสิวง่าย แต่สิวก็ไม่ได้ขึ้นนะครับ

เลยอยากลองปรับสูตรดู สูตรที่เสนอคือ:

  • Galactomyces 65 %
  • Bifida 5 %
  • สารกันเสีย 1 %
  • Laurocapram 2 %

ส่วนผสมเหล่านี้เข้ากันได้ดี และสูตรยังเห็นผลอยู่ไหมครับ

ส่วนตัวนำพาสาร Laurocapram กับ Dimethyl Isosorbide ผลลัพธ์ต่างกันมากไหมครับ

คำตอบ

ความเข้ากันได้และประสิทธิภาพของสูตรที่เสนอ

สูตรที่คุณเสนอประกอบด้วย:

  • Galactomyces Ferment Filtrate (พิเทร่า) 65%
  • Bifida Ferment Lysate 5%
  • สารกันเสีย 1%
  • Laurocapram 2%

ทั้ง Galactomyces Ferment Filtrate และ Bifida Ferment Lysate เป็นส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ ซึ่งนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื่องจากมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ ความเข้มข้นที่คุณเลือก (65% และ 5%) อยู่ในช่วงอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมเหล่านี้

Laurocapram ทำหน้าที่เป็นสารนำพา (penetration enhancer) ช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น เนื่องจาก Galactomyces และ Bifida ละลายน้ำได้ Laurocapram ชนิดละลายน้ำ (Water Soluble) จึงเหมาะสม อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Laurocapram คือ 1-3% ดังนั้น 2% จึงเป็นอัตราที่เหมาะสม

การรวมส่วนผสมเหล่านี้ในสูตรที่เป็นเบสของน้ำโดยทั่วไปเข้ากันได้ดี ความเข้มข้นสูงของสารสกัดจากการหมัก (รวม 70%) น่าจะเป็นสาเหตุของความเหนอะหนะที่คุณพบเมื่อใช้พิเทร่า 100% การลด Galactomyces ลงเหลือ 65% จะช่วยได้บ้าง แต่ความเข้มข้นโดยรวมที่สูงอาจยังคงให้ความรู้สึกหนักอยู่บ้าง โดยเฉพาะสำหรับผิวมัน

สูตรนี้ยังคงมีประสิทธิภาพเนื่องจากมีปริมาณ Galactomyces และ Bifida ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อผิว และเสริมด้วย Laurocapram คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารกันเสียที่คุณเลือกเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ และช่วง pH ของสูตร

Laurocapram เทียบกับ Dimethyl Isosorbide (DMI)

ทั้ง Laurocapram (ชนิดละลายน้ำ) และ Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นสารนำพาที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้ เช่น Galactomyces และ Bifida

  • Laurocapram (ชนิดละลายน้ำ): อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-3% (แนะนำ 2%) เหมาะสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้ ควรผสมในส่วนของน้ำของสูตรที่อุณหภูมิต่ำกว่า 60°C คำอธิบายแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับสารนำพาอื่นๆ ยกเว้น 1,2-Hexanediol
  • Dimethyl Isosorbide (DMI): อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับการนำพาส่วนผสมโดยทั่วไปคือ 3% แต่สามารถใช้ได้ถึง 10% สำหรับการช่วยละลายส่วนผสม สามารถทนความร้อนได้สูงกว่าระหว่างการผสม (สูงสุด 80°C) DMI ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีชื่อเสียงหลายชนิด และถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเพิ่มการซึมผ่านของสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้หลายชนิด เช่น วิตามินซี, ไฮยาลูรอนิค แอซิด และซาลิไซลิก แอซิด DMI มีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายอีเทอร์ ซึ่งอาจต้องมีการกลบกลิ่น

การเปรียบเทียบ:
ทั้งสองชนิดสามารถช่วยเพิ่มการซึมผ่านของสารสกัดจากการหมักของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ DMI มักถูกพิจารณาว่าเป็นสารนำพาที่มีความหลากหลายและอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยมีอัตราการใช้สูงสุดที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม มีกลิ่น Laurocapram ก็มีประสิทธิภาพในอัตราการใช้ที่ต่ำกว่า และเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงกลิ่นของ DMI หรือหากการเพิ่มประสิทธิภาพที่ 2% เพียงพอสำหรับความต้องการของคุณ "ผลลัพธ์" หรือประสิทธิภาพที่รับรู้ได้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรเฉพาะและสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการซึมผ่านสูงสุดและไม่กังวลเรื่องกลิ่นที่อาจเกิดขึ้น (ซึ่งมักจะสามารถกลบได้) DMI อาจให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเล็กน้อย หากการลดความเหนอะหนะเป็นเป้าหมายหลัก การใช้สารนำพา เช่น Laurocapram หรือ DMI สามารถช่วยให้สูตรซึมซาบเร็วขึ้น ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงความรู้สึกบนผิวเมื่อเทียบกับการใช้สารสกัดจากการหมักในน้ำเปล่า

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
Laurocapram (Water Soluble)
Laurocapram (Water Soluble)
เครื่องสำอาง
Dimethyl Isosorbide (DMI)
Dimethyl Isosorbide (DMI)
เครื่องสำอาง