ปรับสูตรเซรั่มหน้าขาวใสหลังพบการระคายเคือง และสอบถามการทำเนื้อครีม
คำถาม
ดิฉันได้ลองทำเซรั่มหน้าขาวใสโดยใช้ส่วนผสมดังนี้ และพบว่ามีอาการร้อนๆ แสบๆ ที่ข้อพับ (Patch Test):
- Glycolic Acid (AHA) 100% Powder (เดิม 10%, ปรับเป็น 5%)
- Alpha Arbutin 2%
- Disodium EDTA 2%
- Safe-B3™ (Niacinamide)
- GlucoBright™ (N-Acetyl-D-glucosamine)
- Tomato Extract (Lycopene)
- Double Hyaluron Liquid
- Centella Asiatica Extract (Madecassoside 7.7%)
- Bisabolol
- Glycerin (Vegetable) 99.5%
- Silky Serum Base Plus
- Phenoxyethanol SA
- น้ำกลั่นบริสุทธิ์
มีข้อสงสัยดังนี้ค่ะ:
- ทำไมถึงมีอาการร้อนๆ แสบๆ คะ? ความเข้มข้นของ Glycolic Acid และ Alpha Arbutin สูงเกินไปหรือไม่ โดยเฉพาะสำหรับผิวปกติที่ออกแดดบ่อย
- เจ้าหน้าที่แนะนำให้ตัด Alpha Arbutin และ Glycolic Acid ออกไปก่อน และทำการทดสอบ Patch Test แยกแต่ละส่วนผสมกับน้ำกลั่น เป็นวิธีที่ถูกต้องในการหาสาเหตุของการระคายเคืองใช่ไหมคะ
- ขั้นตอนการผสมเซรั่มสูตรนี้ที่ถูกต้องโดยใช้ Silky Serum Base Plus เป็นอย่างไรคะ? อยากทราบลำดับการผสมส่วนของน้ำมันและส่วนของน้ำค่ะ
- หากต้องการทำเป็นเนื้อครีมขาวมุกแทนเนื้อเซรั่ม จะต้องใช้ส่วนผสมและวิธีการแบบไหนคะ? Silky Serum Base Plus สามารถนำมาทำเป็นเนื้อครีมได้โดยตรงหรือไม่
- ช่วยแนะนำสูตรที่ปรับปรุงแล้ว เพื่อลดการระคายเคือง แต่ยังคงเน้นเรื่องความขาวใส กระชับรูขุมขน และเหมาะกับผิวปกติให้หน่อยค่ะ โดยใช้ส่วนผสมที่มีอยู่
คำตอบ
รีวิวสูตรเซรั่มหน้าขาวใส และข้อกังวล
สวัสดีค่ะ เข้าใจว่าท่านสมาชิกกำลังต้องการคำแนะนำในการปรับปรุงสูตรเซรั่มหน้าขาวใส และมีข้อสงสัยหลายอย่าง รวมถึงประสบการณ์การแพ้ที่เกิดขึ้นนะคะ จะขอรีวิวสูตรและให้คำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ
จากสูตรที่ท่านสมาชิกได้ลองทำและประสบปัญหาการระคายเคือง (ร้อนๆ แสบๆ ที่ข้อพับ) ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ค่ะ
- Glycolic Acid (AHA) 100% Powder (เดิม 10%, ปรับเป็น 5%): Glycolic Acid เป็นสารกลุ่ม AHA ที่มีประสิทธิภาพสูงในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนได้ แต่ก็เป็นสารที่ก่อการระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูง หรือสำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้ AHA มาก่อน การใช้ที่ 10% ถือว่าสูงมาก และแม้จะลดเหลือ 5% ก็ยังอาจสูงเกินไปสำหรับผิวที่ยังไม่เคยปรับสภาพ หรือเมื่อใช้ร่วมกับสารออกฤทธิ์อื่นๆ ในสูตรเดียวกัน อาการร้อนและแสบที่ข้อพับเป็นสัญญาณของการระคายเคืองจากสารตัวนี้ หรืออาจเกิดจาก Alpha Arbutin หรือการทำงานร่วมกันของสารหลายชนิดในสูตรค่ะ
- Alpha Arbutin (2%): เป็นสารให้ความขาวใสอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าอ่อนโยนกว่าสารกลุ่มผลัดเซลล์ผิว แต่ในบางรายก็อาจเกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน
- Disodium EDTA (2% ในสูตรที่ลองทำ): โดยทั่วไปแล้ว Disodium EDTA ใช้เป็นสาร Chelating Agent ในความเข้มข้นที่ต่ำกว่านี้มาก (เช่น 0.1-0.2%) การใช้ที่ 2% ถือว่าสูงผิดปกติและอาจส่งผลต่อค่า pH ความเสถียรของสูตร หรืออาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ
- ส่วนผสมอื่นๆ: Niacinamide, GlucoBright, Tomato Extract, Double Hyaluron, Centella Asiatica Extract, Bisabolol, Glycerin เป็นส่วนผสมที่ดี มีคุณสมบัติช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดการอักเสบ ให้ความชุ่มชื้น และเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเหมาะกับความต้องการของท่านสมาชิกและช่วยลดโอกาสการระคายเคืองจากสารออกฤทธิ์อื่นๆ ได้
ประสบการณ์การระคายเคืองและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่
อาการร้อนและแสบที่เกิดขึ้นยืนยันว่าสูตรนี้มีความเข้มข้นของสารที่ก่อการระคายเคืองสูงเกินไปสำหรับผิวของท่านสมาชิกค่ะ คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ที่ให้ตัด Alpha Arbutin และ Glycolic Acid ออกไปก่อน และทำการทดสอบ Patch Test แยกแต่ละส่วนผสมนั้น เป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุดในการหาสาเหตุของการแพ้หรือระคายเคืองค่ะ
ขั้นตอนการผสม
จากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับ Silky Serum Base Plus คือการผสมส่วนผสมในส่วนของน้ำมัน (Silky Serum Base Plus, Centella Asiatica Extract, Bisabolol) ให้เข้ากันก่อน แล้วจึงค่อยๆ เติมส่วนผสมในส่วนของน้ำ (สารละลายต่างๆ ในน้ำ, น้ำกลั่น/น้ำต้ม, Glycerin, Disodium EDTA) ลงในส่วนของน้ำมันทีละน้อย พร้อมคนอย่างต่อเนื่องจนเข้ากันดี เนื้อเซรั่มจะค่อยๆ ข้นขึ้นเมื่อเติมส่วนของน้ำมากขึ้น การเติมสารกันเสียจะทำในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากเนื้อเซรั่มเข้ากันดีแล้วค่ะ
การทำเนื้อครีมขาวมุก
หากต้องการทำเป็นเนื้อครีมขาวมุก จะต้องใช้ส่วนผสมและวิธีการที่แตกต่างออกไปจากการทำเซรั่มโดยใช้ Silky Serum Base Plus ค่ะ การทำเนื้อครีมจำเป็นต้องมี "สารประสานเนื้อครีม" หรือ Emulsifier เพื่อช่วยให้น้ำและน้ำมันเข้ากันเป็นเนื้อเดียวได้ และอาจต้องใช้สารที่ให้ความข้น (Thickener) และสารที่ทำให้เนื้อครีมมีสีขาวหรือความเงาแบบมุก (Opacifier หรือ Pearlescent Agent) ซึ่งจะต้องศึกษาข้อมูลและเลือกใช้เบสครีมหรือระบบ Emulsifier ที่เหมาะสมค่ะ Silky Serum Base Plus ไม่สามารถนำมาทำเป็นเนื้อครีมได้โดยตรงค่ะ
คำแนะนำในการปรับปรุงสูตรเพื่อลดการระคายเคืองและให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
เพื่อให้ได้เซรั่มที่อ่อนโยนขึ้นแต่ยังคงเน้นเรื่องความขาวใส กระชับรูขุมขน และเหมาะกับผิวปกติที่ออกแดดบ่อย (ซึ่งควรหลีกเลี่ยงสารผลัดเซลล์ผิวที่เข้มข้นสูงหากไม่ได้ป้องกันแดดอย่างเคร่งครัด) ขอแนะนำให้ปรับสูตรดังนี้ค่ะ
- ลดหรือตัดสารที่ก่อการระคายเคืองสูง:
- Glycolic Acid: แนะนำให้ตัดออกจากสูตรนี้ไปก่อน หากต้องการใช้ AHA จริงๆ ควรเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำมากๆ (เช่น 2-3%) ในผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก หรือใช้เฉพาะกลางคืน และต้องใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงในตอนเช้าอย่างสม่ำเสมอ การใช้ 5-10% ทุกวันอาจไม่เหมาะกับผิวปกติที่ออกแดดเป็นประจำค่ะ
- Alpha Arbutin: หากสงสัยว่าแพ้ ควรตัดออกก่อน หรือลองลดความเข้มข้นลงเหลือ 1% หรือน้อยกว่า และทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง
- Disodium EDTA: ลดความเข้มข้นลงเหลือ 0.1 - 0.2% ก็เพียงพอต่อการทำหน้าที่เป็น Chelating Agent แล้วค่ะ
- เน้นสารให้ความขาวใสที่อ่อนโยน: Niacinamide (Safe-B3™) และ N-Acetyl-D-glucosamine (GlucoBright™) เป็นคู่หูที่ดีในการให้ความกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ โดยมีโอกาสระคายเคืองต่ำกว่า Alpha Arbutin และ AHA มาก สามารถคงความเข้มข้นเดิมไว้ได้ (Niacinamide 2-4%, GlucoBright 4%)
- เสริมด้วยสารปลอบประโลมผิวและให้ความชุ่มชื้น: Centella Asiatica Extract, Bisabolol, Double Hyaluron Liquid, และ Glycerin เป็นส่วนผสมที่ดีมากในการช่วยลดการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้น และเสริมเกราะป้องกันผิว ควรคงส่วนผสมเหล่านี้ไว้
- Tomato Extract: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี อาจช่วยให้ผิวดูอมชมพูขึ้นได้ สามารถคงไว้ได้
- เลือกใช้ Silky Serum Base Plus: เหมาะสำหรับเนื้อเซรั่มที่ซึมง่าย สามารถปรับความเข้มข้นได้ตามต้องการเนื้อเจลที่ซึมง่าย (เช่น 10-15%)
- ใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์: เพื่อความเสถียรของสูตร
- สารกันเสีย: Phenoxyethanol SA 0.8% เป็นความเข้มข้นมาตรฐาน
สูตรแนะนำ (ปรับปรุงจากเดิมเพื่อลดการระคายเคือง):
- Safe-B3™ (Niacinamide) 2-4%
- GlucoBright™ (N-Acetyl-D-glucosamine) 4%
- Tomato Extract (Lycopene) 5%
- Double Hyaluron Liquid 1-2%
- Centella Asiatica Extract (Madecassoside 7.7%) 2%
- Bisabolol 1%
- Glycerin (Vegetable) 99.5% 3-5%
- Disodium EDTA 0.1-0.2%
- Silky Serum Base Plus 10-15% (ปรับตามความชอบเนื้อสัมผัส)
- Phenoxyethanol SA 0.8%
- น้ำกลั่นบริสุทธิ์ ส่วนที่เหลือ (คำนวณให้ครบ 100%)
วิธีผสม (ตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่):
- ผสมส่วนผสมในส่วนของน้ำมัน: Silky Serum Base Plus, Centella Asiatica Extract, Bisabolol เข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันดี
- ผสมส่วนผสมในส่วนของน้ำ: Niacinamide, GlucoBright, Tomato Extract, Double Hyaluron, Glycerin, Disodium EDTA, น้ำกลั่น เข้าด้วยกัน คนให้สารละลายจนหมด
- ค่อยๆ เติมส่วนผสมในส่วนของน้ำ (จากข้อ 2) ลงในส่วนผสมในส่วนของน้ำมัน (จากข้อ 1) ทีละน้อย พร้อมคนอย่างต่อเนื่องจนเข้ากันดี ทำซ้ำจนเติมส่วนของน้ำหมด จะได้เนื้อเซรั่มที่ข้นขึ้น
- เติม Phenoxyethanol SA ลงในเนื้อเซรั่ม คนให้เข้ากัน
ข้อควรระวัง:
- ควรทดสอบ Patch Test กับสูตรที่ปรับปรุงแล้วบนบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้า
- หากต้องการเพิ่ม Glycolic Acid ในอนาคต ควรเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำมากๆ และใช้ด้วยความระมัดระวัง พร้อมกับการป้องกันแสงแดดที่เพียงพอ
หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสูตรเซรั่มให้เหมาะสมกับผิวของท่านสมาชิกนะคะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Glycerin (USP/Food Grade)

Disodium EDTA

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 7%, Liquid)

Double Hyaluron Liquid

Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)

Silky Serum Base Plus (Face/Eye, Oil)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
