คำแนะนำการปรับสูตรตามคำแนะนำของ Staff

ขอบคุณสำหรับสูตรและคำถามของคุณค่ะ จากการพิจารณาการพูดคุยก่อนหน้านี้กับทาง Staff และคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆ นี่คือการวิเคราะห์สูตรและคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ:

ข้อเสนอแนะทั่วไป

• การคนด้วยมือ: ตามที่ Staff ได้กล่าวไว้ สูตรที่ใช้สารประสานเนื้อครีม (Emulsifier) เช่น SiliSolve Plus หรือ Light Cream Maker จำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยในการผสม (เช่น เครื่องปั่นความเร็วสูง หรือ Homogenizer) เพื่อให้ส่วนของน้ำและน้ำมันเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์และได้เนื้อครีมที่คงตัว การคนด้วยมือโดยทั่วไปไม่เพียงพอสำหรับสูตรประเภทนี้ค่ะ
• การปรับค่า pH: คุณสามารถใช้ Citric Acid เพื่อลดค่า pH และ Sodium Hydroxide (หรือ KOH) เพื่อเพิ่มค่า pH ได้ แม้กระดาษวัดค่า pH จะช่วยให้ทราบค่าโดยประมาณ แต่สำหรับการวัดค่าที่แม่นยำ โดยเฉพาะในสูตรที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อค่า pH เช่น AHA, BHA และ Vitamin C ซึ่งการควบคุมค่า pH อย่างแม่นยำมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความคงตัว แนะนำให้ใช้เครื่องวัดค่า pH แบบดิจิทัลค่ะ และควรระมัดระวังในการใช้เบสแก่ เช่น NaOH/KOH โดยเฉพาะในสูตรที่มีสารประสานเนื้อครีมที่ไวต่อ Electrolyte อย่าง Light Cream Maker

สูตรที่ 1: ครีมทาหน้า (ปรับปรุง)

• การนำ L-ascorbic acid ออกจากสูตรนี้สามารถทำได้ค่ะ
• คุณสามารถใช้ Light Cream Maker เป็นสารประสานเนื้อครีมได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ Staff ตั้งข้อสังเกตไว้ การมี Deoxyarbutin อาจทำให้ Light Cream Maker สร้างเนื้อได้ยากขึ้น หากพบปัญหานี้ การเพิ่ม AnyGel (Dehydroxanthan Gum) ประมาณ 0.5% สามารถช่วยเพิ่มความหนืดและความคงตัวของเนื้อครีมได้ค่ะ

เบสสำหรับ Vitamin C Essence/Serum

สำหรับ Vitamin C Essence หรือ Serum โดยเฉพาะหากใช้ L-ascorbic acid ซึ่งต้องการค่า pH ต่ำ (โดยทั่วไปต่ำกว่า 3.5) เพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพ ควรพิจารณาเบสเหล่านี้:

• AnyGel (Dehydroxanthan Gum): เป็นสารก่อเจลที่ทนกรด เหมาะสำหรับสร้างเบสเจลที่สามารถคงค่า pH ต่ำได้ คุณจะต้องสร้างเบสเจลก่อนแล้วจึงเติม L-ascorbic acid ที่ละลายแล้วลงไป
• CreamMaker Acid™: เป็นสารประสานเนื้อครีมที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับสูตรที่มีค่า pH ต่ำ สามารถใช้สร้างเนื้อครีมหรือโลชั่นที่คงตัวกับส่วนผสมที่เป็นกรดได้
• Hyaluronic Acid Gel Base: เบสนี้ให้ความชุ่มชื้น แต่โดยทั่วไปมีค่า pH (5-6) ที่สูงเกินไปสำหรับความคงตัวของ L-ascorbic acid จะเหมาะกับอนุพันธ์ Vitamin C ที่คงตัวกว่า หรือหากคุณเตรียม L-ascorbic acid ในระบบค่า pH ต่ำที่เข้ากันได้ก่อนนำมาผสม
• Ascorbyl Glucoside 20% Gel (MaxActivate™): เป็นเบสเจลสำเร็จรูปที่มีอนุพันธ์ Vitamin C ที่คงตัว (Ascorbyl Glucoside) ใช้งานง่าย สามารถเติมส่วนผสมที่ละลายน้ำอื่นๆ ลงไปได้ แต่มีส่วนผสมออกฤทธิ์หลักอยู่แล้ว จึงอาจไม่เหมาะหากคุณต้องการใช้ L-ascorbic acid หรือ Vitamin C รูปแบบอื่นโดยเฉพาะ

สูตรที่ 2: 10% AHA Gel

• Staff กล่าวถูกต้องว่า Pro Polymer ไม่เหมาะสำหรับสูตรที่มี Glycolic Acid 10% เนื่องจากค่า pH ที่ได้จะต่ำมาก (น่าจะต่ำกว่า 2.5) ซึ่งเกินกว่าช่วงที่ Pro Polymer ทนได้
• การใช้ AnyGel (Dehydroxanthan Gum) หรือ Xanthan Gum ตามที่ Staff แนะนำเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากทนกรดได้ดีกว่า
• วิธีการที่คุณเสนอในการสร้างเบสเจลด้วย AnyGel ก่อนแล้วจึงเติม Glycolic Acid ที่ละลายแล้ว เป็นวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมค่ะ
• การปรับค่า pH ของสารละลาย Glycolic Acid ก่อน เติมลงในสารก่อเจลไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพของ Glycolic Acid ในการผลัดเซลล์ผิวลดลงอย่างมาก

สูตรที่ 3: 2% BHA

• Staff กล่าวถูกต้องว่าการละลาย Salicylic Acid ชนิดผงใน Isopentyldiol แล้วนำไปผสมกับน้ำจะทำให้เกิดการตกตะกอน การใช้ Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble) เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องค่ะ
• สูตร 100g ที่คุณเสนอโดยใช้ Complex Salicylic Acid 5g นั้นถูกต้องในแง่ของการให้ Salicylic Acid ออกฤทธิ์ 2% (เนื่องจาก Complex Salicylic Acid มี Salicylic Acid ออกฤทธิ์ 40%) อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน สำหรับสูตรรวม 100g ที่มี EDTA 0.2g, Complex Salicylic Acid 5g และ Mild Preserved Eco 1g ปริมาณน้ำควรเป็น 100 - 0.2 - 5 - 1 = 93.8g ค่ะ

สูตรที่ 4: 10% AHA + 2% BHA Body Lotion

• ตามที่ Staff อธิบาย Light Cream Maker ไม่เหมาะสำหรับสูตรนี้เนื่องจากค่า pH ต่ำที่จำเป็นสำหรับประสิทธิภาพของ AHA/BHA (ต่ำกว่า 3.5 และน่าจะต่ำกว่า 2.5 สำหรับ Glycolic Acid 10%) ซึ่งอยู่นอกช่วงที่ Light Cream Maker คงตัวได้
• การใช้ NaOH เพื่อปรับค่า pH ร่วมกับ Light Cream Maker ก็เป็นปัญหาเช่นกัน เนื่องจากไม่เข้ากันกับ Electrolyte
• สำหรับเบสโลชั่นหรือครีมที่ทนกรดและเหมาะสำหรับ AHA/BHA แนะนำให้ใช้ CreamMaker Acid™ สารประสานเนื้อครีมนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะให้คงตัวและมีประสิทธิภาพในสูตรที่มีค่า pH ต่ำ
• อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้ SureCream™ ซึ่งมีช่วงค่า pH ที่กว้างกว่า (3.0-10.0) และทน Electrolyte ได้ดีกว่า Light Cream Maker ตามที่ Staff แนะนำ การใช้ SureCream™ ร่วมกับ AnyGel เล็กน้อยอาจเป็นประโยชน์ในการเพิ่มความคงตัวและความหนืดในสูตรที่ท้าทายเช่นนี้ค่ะ

หวังว่าคำแนะนำโดยละเอียดนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสูตรของคุณนะคะ!