ปัญหาการขึ้นสูตรเซรั่ม: เนื้อหนืด, ไฮยาลูรอนจับตัวเป็นก้อน และการปรับผิวขาวใส/อิ่มน้ำ

ถามโดย: marut_suk เมื่อ: March 23, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรเซรั่มสำหรับผิวขาวกระจ่างใส อิ่มน้ำ และเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยใช้ส่วนผสมดังนี้:

  1. น้ำ (Water) 85.9%
  2. แพนทีนอล (วิตามินบี 5) (Panthenol (B5)) 1.5%
  3. ไนอะซินาไมด์ (วิตามินบี 3) (Niacinamide (B3)) 5%
  4. เอ็น-อะเซทิล กลูโคซามีน (Gluco Bright) 5%
  5. ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) 0.3%
  6. โพรไพลีน ไกลคอล (PG) 1%
  7. กลีเซอรีน (Glycerin) 0.3%
  8. ไกลแดนท์ (Glydant) 1%

พบปัญหาหลักสองประการระหว่างการทำสูตร:

  • เนื้อเซรั่มที่ได้มีความหนืดมากกว่าที่ต้องการ อยากได้เนื้อสัมผัสที่เป็นน้ำมากกว่านี้
  • ไฮยาลูรอนิค แอซิด จับตัวเป็นก้อนวุ้นและละลายได้ไม่ดี

ขอคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และยืนยันว่าสูตรนี้มีประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใสและอิ่มน้ำสำหรับทุกสภาพผิวหรือไม่? รวมถึงมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสารเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสอีกหรือไม่?

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตรเซรั่มและข้อเสนอแนะในการปรับปรุง

นี่คือการวิเคราะห์สูตรเซรั่มของคุณที่มุ่งเน้นให้ผิวขาวกระจ่างใสและอิ่มน้ำ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว พร้อมข้อเสนอแนะในการปรับปรุงตามปัญหาที่คุณพบเจอครับ

สูตรปัจจุบันของคุณคือ:

  1. น้ำ (Water) 85.9%
  2. แพนทีนอล (วิตามินบี 5) (Panthenol (B5)) 1.5%
  3. ไนอะซินาไมด์ (วิตามินบี 3) (Niacinamide (B3)) 5%
  4. เอ็น-อะเซทิล กลูโคซามีน (Gluco Bright) 5%
  5. ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) 0.3%
  6. โพรไพลีน ไกลคอล (PG) 1%
  7. กลีเซอรีน (Glycerin) 0.3%
  8. ไกลแดนท์ (Glydant) 1%

ประการแรก โปรดสังเกตว่าเปอร์เซ็นต์ในสูตรของคุณรวมกันได้ 102% ซึ่งเกิน 100% เล็กน้อย คุณควรปรับเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดให้รวมกันได้ 100% พอดีครับ

การวิเคราะห์สูตรและเป้าหมาย

  • ผิวกระจ่างใส: การผสมผสานระหว่าง ไนอะซินาไมด์ (5%) และ เอ็น-อะเซทิล กลูโคซามีน (5%) เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับผิวให้กระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ ความเข้มข้นเหล่านี้มีประสิทธิภาพสำหรับเป้าหมายนี้
  • ผิวอิ่มน้ำ: แพนทีนอล, ไฮยาลูรอนิค แอซิด, โพรไพลีน ไกลคอล, และ กลีเซอรีน ล้วนเป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectants) ที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและเต่งตึง
  • ความเหมาะสมสำหรับทุกสภาพผิว: ส่วนผสมที่เลือกโดยทั่วไปมีความอ่อนโยน อย่างไรก็ตาม ไนอะซินาไมด์ที่ความเข้มข้น 5% อาจทำให้เกิดอาการแดงหรือระคายเคืองชั่วคราวในผู้ที่มีผิวบอบบางมาก หากเกิดอาการนี้ อาจพิจารณาลดความเข้มข้นลงเล็กน้อย (เช่น เหลือ 3-4%) ได้ แม้ว่า 5% จะเป็นระดับที่นิยมใช้และมีประสิทธิภาพก็ตาม

การแก้ไขปัญหาที่พบ

1. เนื้อเซรั่มมีความหนืดมากกว่าที่ต้องการ:
คุณต้องการเนื้อสัมผัสที่เป็นน้ำมากกว่านี้ ส่วนผสมหลักที่ทำให้เกิดความหนืดในสูตรนี้น่าจะเป็น ไนอะซินาไมด์, เอ็น-อะเซทิล กลูโคซามีน, และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฮยาลูรอนิค แอซิด แม้ว่าไนอะซินาไมด์และ NAG ที่ 5% จะเพิ่มความข้นได้บ้าง แต่ไฮยาลูรอนิค แอซิด สามารถเพิ่มความหนืดได้อย่างมาก ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้น

  • คำแนะนำ: เพื่อลดความหนืด การปรับที่ได้ผลที่สุดมักจะอยู่ที่ส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด หากคุณใช้ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ชนิดน้ำ (เช่น Double Hyaluron Liquid) ความหนืดมาจากความเข้มข้นของ Hya ในของเหลวนั้น การใช้ของเหลวตัวนี้น้อยลงจะส่งผลให้ความเข้มข้นของ Hya ในสูตรสุดท้ายของคุณลดลง ทำให้ความหนืดลดลง หากคุณใช้ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ชนิดผง การลดความเข้มข้นหรือเปลี่ยนไปใช้ชนิดที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำกว่าจะช่วยได้ คุณอาจลองลดความเข้มข้นของ ไนอะซินาไมด์ และ เอ็น-อะเซทิล กลูโคซามีน ลงเล็กน้อย (เช่น เหลือ 4% เท่ากัน) หากจำเป็นเพื่อปรับเนื้อสัมผัสให้บางเบาลง ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพด้านความกระจ่างใสได้ดี
  • ความเข้มข้นของสารกันเสีย: สูตรของคุณใช้ Glydant ที่ 1% อัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับ DMDM Hydantoin (ซึ่งมักขายในชื่อ Glydant) คือ 0.1-0.6% การใช้ที่ 1% สูงกว่าที่แนะนำและอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสหรือความคงตัวได้ การลดความเข้มข้นลงมาอยู่ในช่วงที่แนะนำ (เช่น 0.5%) เป็นสิ่งที่ควรทำ และอาจช่วยลดความหนืดโดยรวมได้เล็กน้อย

2. ไฮยาลูรอนิค แอซิด จับตัวเป็นก้อนวุ้น:
ปัญหานี้มักเกิดขึ้นเมื่อละลาย ไฮยาลูรอนิค แอซิด ชนิดผง โดยที่ผงด้านนอกกลายเป็นเจลอย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้ผงด้านในดูดน้ำ ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อน

  • คำแนะนำ: เพื่อละลาย ไฮยาลูรอนิค แอซิด ชนิดผงอย่างถูกต้อง ให้ค่อยๆ โรยผงลงบนผิวน้ำช้าๆ พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องและแรงๆ หลีกเลี่ยงการเทลงไปทั้งหมดในครั้งเดียว คุณอาจลองนำผง Hya ไปกระจายตัวใน โพรไพลีน ไกลคอล หรือ กลีเซอรีน เล็กน้อยก่อนที่จะนำไปผสมกับส่วนของน้ำ หลังจากผสมแล้ว ให้คนเป็นระยะๆ หรือปล่อยส่วนผสมทิ้งไว้หลายชั่วโมงหรือข้ามคืนเพื่อให้ Hya ดูดน้ำและละลายเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์ หากใช้ชนิดน้ำ ให้แน่ใจว่าได้ผสมให้เข้ากับส่วนของน้ำอย่างทั่วถึง

สารเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความกระจ่างใส

ส่วนผสมที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่ดีอยู่แล้ว แต่เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านความกระจ่างใสให้มากขึ้น คุณสามารถพิจารณาเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักในด้านการลดจุดด่างดำ:

  • อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha Arbutin): เป็นส่วนผสมยอดนิยมที่ช่วยลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เป็นสารที่ละลายน้ำได้ และนิยมใช้ที่ความเข้มข้น 0.2-2% (แนะนำ 2% เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด)
  • ทรานซามิค แอซิด (Tranexamic Acid): มีประสิทธิภาพในการจัดการกับรอยดำต่างๆ รวมถึงฝ้า เป็นสารที่ละลายน้ำได้ และนิยมใช้ในเครื่องสำอางที่ความเข้มข้นไม่เกิน 3%
  • อนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives): รูปแบบที่ละลายน้ำได้ เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) ให้ประโยชน์ด้านความกระจ่างใสและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ SAP นิยมใช้ที่ความเข้มข้น 0.5-10% (แนะนำ 3%) และทำงานได้ดีที่สุดที่ค่า pH 7-9

อย่าลืมปรับปริมาณน้ำในสูตรของคุณ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับส่วนผสมที่ปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้เปอร์เซ็นต์รวมทั้งหมดเท่ากับ 100% ครับ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
เครื่องสำอาง
DMDM Hydantoin
DMDM Hydantoin
เครื่องสำอาง