ปัญหาการทำครีม Whitening: อิมัลชันไม่ขึ้นและผลกระทบจากอิเล็กโทรไลต์

ถามโดย: ilada_i27 เมื่อ: April 03, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำครีม Whitening โดยใช้สูตรดังนี้:

  • ส่วน A: น้ำ, Vitamin B3 (Niacinamide), Creatine 100, Disodium EDTA
  • ส่วน B: Propylene Glycol, Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract
  • ส่วน C: Fractionated Coconut Oil, Light Cream Maker (1.5%), Sym White, Alpha Arbutin
  • อื่นๆ: Glycerin

ขั้นตอนการผสมของฉันคือ:

  1. ผสมส่วน A + B เข้าด้วยกัน
  2. ผสมส่วน C เข้าด้วยกัน
  3. เท A+B ลงใน C แล้วคนให้เข้ากัน
  4. เติม Glycerin
  5. เติม Sym White และ Disodium EDTA

หลังจากผสมเสร็จแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมาเป็นน้ำเหลวๆ แทนที่จะเป็นเนื้อครีม มีคำถามดังนี้ค่ะ:

  1. Light Cream Maker ที่มีลักษณะเป็นของเหลวข้นๆ สีขาวๆ ได้ละลายสมบูรณ์ในเนื้อสูตรหรือไม่คะ หรือว่ายังเห็นลอยเป็นชิ้นๆ อยู่ในเนื้อสูตรคะ (อ้างอิงถึงลักษณะของ Light Cream Maker ก่อนผสม)
  2. ในขั้นตอนที่ใส่ AB ลงใน C ไม่ทราบได้คนนานแค่ไหนคะ แล้วเห็นมีอะไรแยกอยู่ในเนื้อไหมคะ
  3. ผสมผิดพลาดตรงส่วนไหนคะ ที่ทำให้เนื้อครีมกลายเป็นน้ำเหลวๆ?
  4. ผสมเสร็จเป็นน้ำเหลวๆ ใสๆ สามารถแก้ไขให้เป็นเนื้อครีมได้ไหมคะ ต้องเติมสารอะไรคะ?
  5. ถ้าแก้ไขไม่ได้สามารถใช้ได้ไหมคะ จะมีอันตรายต่อผิวไหม?

คำตอบ

ปัญหาการทำครีม Whitening

ดูเหมือนว่าสูตรครีม Whitening ของคุณที่ทำออกมาแล้วกลายเป็นน้ำเหลวๆ น่าจะเกิดจากปัญหาในขั้นตอนการทำอิมัลชัน ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้น้ำกับน้ำมันรวมตัวกันเป็นเนื้อครีมที่คงตัว

การวิเคราะห์ปัญหา

  1. ความล้มเหลวในการทำอิมัลชัน: สาเหตุหลักที่ทำให้ส่วนผสมกลายเป็นของเหลวคือน้ำมัน (Fractionated Coconut Oil และ Light Cream Maker) และส่วนของน้ำ (น้ำ, Propylene Glycol, Glycerin และสารออกฤทธิ์ที่ละลาย/กระจายตัวอยู่) ไม่สามารถรวมตัวกันได้อย่างถูกต้องเพื่อสร้างอิมัลชันที่คงตัวได้
  2. การใช้ Light Cream Maker: Light Cream Maker เป็นสารทำอิมัลชันและสารเพิ่มความข้นที่มีประสิทธิภาพ แต่มีข้อกำหนดเฉพาะ ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อนและสามารถรองรับน้ำมันได้ถึง 20% สูตรของคุณมีน้ำมัน 10% และใช้ Light Cream Maker 1.5% ซึ่งตามทฤษฎีแล้วน่าจะเพียงพอ อย่างไรก็ตาม คำอธิบายผลิตภัณฑ์ระบุว่าการมีอยู่ของอิเล็กโทรไลต์สามารถทำให้เนื้อครีมอ่อนตัวลงได้ และอาจต้องใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้น (2-3%) ของ Light Cream Maker หรือใช้วิธีการผสมแบบเฉพาะ โดยค่อยๆ เติมส่วนผสมที่มีอิเล็กโทรไลต์ หลังจาก ที่อิมัลชันเริ่มก่อตัวแล้ว
  3. การรบกวนจากอิเล็กโทรไลต์: สูตรของคุณมีส่วนผสม เช่น Vitamin B3 (Niacinamide), Creatine 100, Centella Asiatica Extract และ Disodium EDTA ซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ได้ การผสมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ทั้งหมดเหล่านี้ลงในส่วนของน้ำ (ส่วน A + B) ก่อนที่จะรวมกับส่วนของน้ำมัน (ส่วน C) อาจรบกวนความสามารถของ Light Cream Maker ในการสร้างอิมัลชันที่คงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลต์โดยรวมสูง วิธีที่แนะนำสำหรับสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์จำนวนมากคือการสร้างเนื้อครีมให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เติมส่วนผสมที่มีอิเล็กโทรไลต์ทีละน้อยพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง
  4. เทคนิคการผสม: แม้ว่า Light Cream Maker จะทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน แต่การผสมที่ถูกต้องและเพียงพอ (มักจะต้องใช้การคนอย่างแรงหรือเครื่องผสมแบบ High-shear) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สารทำอิมัลชันกระจายตัวได้อย่างถูกต้องและสร้างโครงสร้างของครีมได้ การแค่ "คนให้เข้ากัน" อาจไม่ให้แรงเฉือนที่เพียงพอสำหรับการสร้างอิมัลชันที่คงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมที่อาจรบกวนอยู่
  5. การละลายของ Centella Asiatica Extract: Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract ที่คุณใช้ไม่ละลายในน้ำหรือน้ำมัน และต้องใช้ Propylene Glycol หรือ Butylene Glycol ร่วมกับ ความร้อน (70-80°C) เพื่อให้ละลาย คุณผสมกับ Propylene Glycol แต่ไม่ได้กล่าวถึงการให้ความร้อน ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าสารสกัดไม่ได้ละลายอย่างสมบูรณ์แต่ยังคงกระจายตัวอยู่ แม้ว่าสิ่งนี้อาจไม่ทำให้การทำอิมัลชันล้มเหลวโดยตรง แต่การทำให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดรวมเข้ากับเฟสที่ต้องการอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความคงตัวของสูตร
  6. การเติม Disodium EDTA ซ้ำ: คุณระบุ Disodium EDTA ทั้งในขั้นตอน A และอีกครั้งหลังจากเติม Sym White การเติมซ้ำสองครั้งไม่จำเป็นและอาจเพิ่มปริมาณอิเล็กโทรไลต์โดยรวมเล็กน้อย

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ

  1. ผสมผิดพลาดตรงส่วนไหนคะ?
    ข้อผิดพลาดที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ:

    • การผสมส่วนผสมที่มีอิเล็กโทรไลต์ทั้งหมด (เช่น Vitamin B3, Creatine 100, Centella Asiatica Extract, Disodium EDTA) ลงในส่วนของน้ำ ก่อน การทำอิมัลชัน ส่วนผสมเหล่านี้ควรค่อยๆ เติม หลังจาก ที่เนื้อครีมเริ่มก่อตัวแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ Light Cream Maker กับระดับอิเล็กโทรไลต์ที่อาจสูง
    • การผสม/คนที่ไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสมในขั้นตอนที่เติมส่วนของน้ำ (AB) ลงในส่วนของน้ำมัน (C)
    • ไม่ได้ให้ความร้อนแก่ส่วนผสมของ Propylene Glycol และ Centella Asiatica Extract (ส่วน B) เพื่อให้แน่ใจว่าสารสกัดละลายอย่างสมบูรณ์
  2. ผสมเสร็จเป็นน้ำเหลวๆ ใสๆ สามารถแก้ไขให้เป็นเนื้อครีมได้ไหมคะ ต้องเติมสารอะไรคะ?
    การพยายามแก้ไขอิมัลชันที่ล้มเหลวโดยสมบูรณ์อาจเป็นเรื่องยากและอาจไม่ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ โครงสร้างที่จำเป็นสำหรับครีมยังไม่ได้ก่อตัวขึ้นอย่างถูกต้อง

    • ความพยายามที่เป็นไปได้ (โอกาสสำเร็จต่ำ): คุณอาจลองเติม Light Cream Maker เพิ่มเล็กน้อย (เช่น ครั้งละ 0.5%) ลงในส่วนผสมที่เป็นของเหลว แล้วคนอย่างแรงและต่อเนื่องเป็นเวลาหลายนาที อาจใช้ตะกร้อมือขนาดเล็กหรือเครื่องผสมแบบ High-shear หากมี อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจยังคงล้มเหลวเนื่องจากปัญหาอิเล็กโทรไลต์ หรือหากการทำงานของสารทำอิมัลชันเสียหายอย่างถาวร การให้ความร้อนซ้ำโดยทั่วไปไม่แนะนำ เนื่องจากส่วนผสมบางชนิดมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ
    • วิธีที่แนะนำ: ทำใหม่. วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการได้เนื้อครีมที่คงตัวคือการทำใหม่ โดยปรับขั้นตอนการผสม ให้พิจารณาเติมส่วนผสมที่ไวต่ออิเล็กโทรไลต์ (Vitamin B3, Creatine 100, Centella Asiatica Extract, Disodium EDTA) หลังจาก ที่ส่วนของน้ำมันและน้ำได้ทำอิมัลชันและข้นขึ้นเป็นเนื้อครีมแล้ว โดยค่อยๆ เติมทีละน้อยพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ให้แน่ใจว่า Centella Asiatica Extract ละลายอย่างถูกต้องใน Propylene Glycol ที่ให้ความร้อนก่อนที่จะเติมลงในส่วนของน้ำ คุณอาจพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของ Light Cream Maker เล็กน้อย (เช่น เป็น 2%) เนื่องจากมีส่วนผสมที่อาจเป็นอิเล็กโทรไลต์หลายชนิด
  3. ถ้าแก้ไขไม่ได้สามารถใช้ได้ไหมคะ จะมีอันตรายต่อผิวไหม?
    สมมติว่าส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้เป็นไปตามอัตราส่วนที่แนะนำและเหมาะสมสำหรับการใช้กับเครื่องสำอาง ส่วนผสมที่เป็นของเหลวเองไม่น่าจะเป็นอันตรายต่อผิวของคุณ ส่วนผสมเหล่านี้โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยที่ความเข้มข้นเหล่านี้

    • ความปลอดภัย: ข้อกังวลหลักคือความคงตัวและประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์เมื่อเวลาผ่านไปในสภาวะของเหลวที่แยกชั้น สารออกฤทธิ์ เช่น Alpha Arbutin และ Sym White มีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับ pH และความคงตัว ในอิมัลชันที่แตกตัว ค่า pH อาจไม่สม่ำเสมอ และส่วนผสมอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
    • การใช้งาน: คุณ อาจ ใช้เป็นเซรั่มหรือทรีตเมนต์แบบน้ำได้ แต่โปรดทราบว่าสารออกฤทธิ์อาจกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นคุณอาจไม่ได้รับผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ ให้สังเกตส่วนผสมว่ามีสัญญาณของการเสื่อมสภาพหรือไม่ (กลิ่นผิดปกติ สีเปลี่ยนไป มีเชื้อรา) ก่อนใช้งาน หากพบสัญญาณดังกล่าว ให้ทิ้งไป

โดยสรุป ปัญหาน่าจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำอิมัลชันที่ถูกรบกวนโดยอิเล็กโทรไลต์ และอาจเกิดจากการผสมที่ไม่เพียงพอ การทำใหม่โดยปรับขั้นตอนการผสมสำหรับส่วนผสมที่มีอิเล็กโทรไลต์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้เนื้อครีมที่คงตัว ส่วนผสมที่เป็นของเหลวในปัจจุบันน่าจะปลอดภัยที่จะใช้ แต่ประสิทธิภาพและความคงตัวอาจลดลงเมื่อเทียบกับครีมที่ทำขึ้นอย่างถูกต้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377)
Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377)
เครื่องสำอาง
Creatine 100
Creatine 100
เครื่องสำอาง
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
เครื่องสำอาง