ปัญหาการทำสูตรคลีนซิ่งวอเตอร์และโทนเนอร์: ความเหนอะหนะและการระคายเคืองผิว
คำถาม
ฉันเป็นมือใหม่ในการทำผลิตภัณฑ์สกินแคร์เอง และมีคำถามเกี่ยวกับสองสูตรนี้ค่ะ:
คลีนซิ่งวอเตอร์: ฉันลองทำตามสูตรนี้แล้วรู้สึกเหนอะหนะผิว ฉันต้องการคลีนซิ่งวอเตอร์ที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางและครีมกันแดดได้ดี ไม่ระคายเคือง ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำมัน ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ และสามารถเช็ดแล้วไม่ต้องล้างออกได้ค่ะ
- make up wash 10%
- PEG-7 Glyceryl Cocoate 10%
- glycerin 10%
- Aloe Vera Extract 1%
- nature preserve 1.5%
- Water ส่วนที่เหลือ
ทีมงานแนะนำให้ตัด Glycerin 10% และ Aloe Vera Extract 1% ออก และลดปริมาณ PEG-7 Glyceryl Cocoate ลง อยากขอคำแนะนำเพิ่มเติมในการปรับสูตรเพื่อให้ได้คุณสมบัติไม่เหนอะหนะและไม่ต้องล้างออกตามที่ต้องการค่ะ
โทนเนอร์: ทีมงานแจ้งว่าสูตรโทนเนอร์ของฉันเหมาะสมแล้วในแง่ของส่วนผสม แต่ฉันมีอาการแสบ แดง และเหมือนสิวจะขึ้นหลังใช้ สูตรนี้มีส่วนผสมของ Safe-B3 (Niacinamide) และ Willow Bark Extract อย่างละ 5% ค่ะ
- อาการเหล่านี้เกิดจากอะไรได้บ้างคะ?
- ควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้?
นอกจากนี้ ยังมีคำถามทั่วไปเกี่ยวกับขั้นตอนการทำค่ะ:
- สำหรับสูตรที่มีส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ทั้งหมด ลำดับการผสมที่ถูกต้องเป็นอย่างไรคะ?
- หลังจากผสมเสร็จแล้ว ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ผลิตภัณฑ์ถึงจะพร้อมใช้คะ?
คำตอบ
สวัสดีค่ะ เข้าใจว่าคุณเป็นมือใหม่ในการทำสกินแคร์เองนะคะ ยินดีให้คำแนะนำเพิ่มเติมจากข้อมูลที่คุณและทีมงานได้พูดคุยกันค่ะ
สำหรับสูตร Cleansing Water:
คุณต้องการคลีนซิ่งที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางและครีมกันแดดได้ดี ไม่ระคายเคือง ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำมัน และไม่เหนอะหนะผิว สามารถเช็ดแล้วไม่ต้องล้างออกได้
- เรื่องส่วนผสม Active: ตามที่ทีมงานแนะนำ การใส่ส่วนผสม Active ในปริมาณสูงในผลิตภัณฑ์ล้างออกอย่าง Cleansing Water จะไม่ค่อยเห็นผลเท่าที่ควร เพราะส่วนผสมเหล่านี้ต้องการเวลาในการซึมเข้าสู่ผิว การใช้ในปริมาณน้อย (เช่น Aloe Vera Extract 1%) ก็เพียงพอสำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นค่ะ ส่วนผสม Active อื่นๆ เช่น Double Hyaluron Liquid หรือ Willow Bark Extract จะให้ประโยชน์สูงสุดเมื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ทาทิ้งไว้บนผิว เช่น โทนเนอร์ หรือเซรั่มค่ะ
- เรื่องความเหนอะหนะ: คุณแจ้งว่าสูตรที่ลองทำ (make up wash 10%, PEG-7 Glyceryl Cocoate 10%, glycerin 10%, Aloe Vera Extract 1%, nature preserve 1.5%, Water ส่วนที่เหลือ) รู้สึกเหนอะผิว ซึ่งทีมงานแนะนำให้ตัด Glycerin 10% และ Aloe Vera Extract 1% ออก และลดปริมาณ PEG-7 Glyceryl Cocoate ลง คำแนะนำนี้ถูกต้องแล้วค่ะ Glycerin และ Aloe Vera Extract ในปริมาณสูงสามารถทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ การลดหรือตัดส่วนผสมเหล่านี้ และลดสารชำระล้างบางตัว จะช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่เบาลงและไม่เหนอะหนะตามที่คุณต้องการค่ะ
- เรื่องการเช็ดแล้วไม่ล้างออก: แม้ว่าสูตรนี้จะคล้ายกับผลิตภัณฑ์ Cleansing Water ในท้องตลาดที่โฆษณาว่าไม่ต้องล้างออก แต่ทีมงานยังคงแนะนำให้ล้างออกเสมอ โดยเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่าย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งตกค้างบนผิวที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันหรือระคายเคืองได้ค่ะ หากต้องการให้รู้สึกสบายผิวหลังเช็ดโดยไม่ล้างออกจริงๆ อาจจะต้องปรับลดปริมาณสารชำระล้างลงอีก แต่ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดก็จะลดลงไปด้วยค่ะ
สำหรับสูตร Toner:
ทีมงานแจ้งว่าสูตรโทนเนอร์ของคุณเหมาะสมแล้วในแง่ของส่วนผสม แต่คุณมีอาการแสบ แดง และเหมือนสิวจะขึ้นหลังใช้
- เรื่องอาการแสบ/แดง: ทีมงานได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพผิวปัจจุบัน (มีการขัดผิว ใช้ยาสิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวบางลงหรือไม่) และวิธีการตวงส่วนผสม ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบค่ะ หากผิวของคุณอยู่ในสภาพปกติและคุณตวงส่วนผสมได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ส่วนผสมในสูตรนี้โดยทั่วไปไม่ควรทำให้เกิดอาการแสบหรือแดงรุนแรงได้
- ความเป็นไปได้ของสาเหตุ:
- ความเข้มข้นของ Active: แม้ส่วนผสมอย่าง Safe-B3 (Niacinamide) และ Willow Bark Extract จะมีคุณสมบัติที่ดี แต่ที่ความเข้มข้น 5% ทั้งคู่ อาจจะสูงเกินไปสำหรับผิวที่แพ้ง่ายหรือกำลังอยู่ในช่วงที่ไม่แข็งแรงค่ะ Niacinamide ที่ความเข้มข้น 5% อาจทำให้บางคนรู้สึกยิบๆ หรือแดงได้ในช่วงแรก และ Willow Bark Extract ซึ่งมี Natural Salicylic Acid ก็อาจทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองได้หากผิวไม่คุ้นเคยหรือบอบบางค่ะ
- ผิวที่กำลังปรับสภาพ: เป็นไปได้ที่ผิวอาจกำลังปรับสภาพ แต่หากมีอาการแดงชัดเจนและเหมือนสิวจะขึ้น อาจไม่ใช่แค่การปรับสภาพปกติค่ะ
- คำแนะนำ:
- ตรวจสอบสภาพผิวและการตวง: ก่อนอื่นให้แน่ใจว่าผิวของคุณไม่ได้อยู่ในสภาพที่บอบบางเป็นพิเศษจากการใช้ผลิตภัณฑ์อื่น และการตวงส่วนผสมถูกต้องจริงๆ ค่ะ
- ลดความเข้มข้น: หากมั่นใจว่าการตวงถูกต้องและผิวไม่ได้บอบบางจากปัจจัยภายนอก แนะนำให้ลองลดความเข้มข้นของ Safe-B3 (Niacinamide) และ/หรือ Willow Bark Extract ลงค่ะ อาจจะเริ่มที่ Safe-B3 2-3% และ Willow Bark Extract 1-2% ดูก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นหากผิวรับได้ค่ะ
- ทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ: ก่อนใช้ทั่วหน้า ให้ลองทาโทนเนอร์ที่ปรับสูตรแล้วบริเวณเล็กๆ ที่คางหรือหลังหูเพื่อทดสอบการแพ้หรือระคายเคืองก่อนค่ะ
- หยุดใช้ชั่วคราว: หากอาการแสบ แดง หรือมีแนวโน้มสิวขึ้นยังคงอยู่หรือรุนแรงขึ้น ควรหยุดใช้โทนเนอร์สูตรนี้ไปก่อนค่ะ
ขั้นตอนการผสม:
ตามที่ทีมงานแจ้ง ขั้นตอนการผสมสำหรับสูตรที่เป็นน้ำและส่วนผสมละลายน้ำได้ทั้งหมดนั้น ลำดับการผสมไม่ได้มีผลสำคัญเท่ากับการทำให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดีค่ะ การคนหรือปั่นให้ส่วนผสมละลายจนใสก็เพียงพอแล้วค่ะ
ระยะเวลาในการใช้:
หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีจนเป็นเนื้อเดียวกันและใสแล้ว ก็สามารถนำมาใช้ได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอระยะเวลาใดๆ ค่ะ
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
- การทำผลิตภัณฑ์ใช้เองต้องให้ความสำคัญกับความสะอาดของอุปกรณ์และภาชนะที่ใช้มากๆ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ค่ะ
- แม้จะใส่สารกันเสีย (nature preserve) แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ทำเองควรเก็บในที่เย็นและใช้ให้หมดภายในระยะเวลาที่เหมาะสม (อาจจะประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความสะอาดและส่วนผสม) เพื่อคุณภาพและความปลอดภัยค่ะ
หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Glycerin (USP/Food Grade)

L-Carnitine (Carnitine)

Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)

Zinc PCA

MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)

Double Hyaluron Liquid
