ปัญหาการทำโลชั่นผิวขาวด้วย L-Ascorbic Acid และสารกันแดด (SPF Protect Ultra II) ด้วยมือ

การตรวจสอบสูตรและคำแนะนำ

ขอบคุณที่แชร์สูตรที่ปรับปรุงแล้วและเป้าหมายของคุณค่ะ การได้ทดลองทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเองเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ!

จากสูตรที่คุณปรับปรุงและเป้าหมายของคุณที่ต้องการโลชั่นบำรุงผิวตัวขาวที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ พร้อมส่วนผสมของวิตามินซีและสารกันแดด นี่คือการตรวจสอบและคำแนะนำบางประการค่ะ

การตรวจสอบสูตรที่ปรับปรุงแล้วของคุณ

สูตรที่คุณปรับปรุงถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากการใช้ Tween20 มาเป็น Butter Cream Maker ซึ่งเหมาะสมกว่าสำหรับการประสานน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อท้าทายหลักๆ อยู่บางประการค่ะ:

• ความเสถียรของวิตามินซี: คุณใช้วิตามินซีชนิด L-ascorbic acid ซึ่งวิตามินซีรูปแบบนี้ไม่เสถียรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และต้องการค่า pH ที่ต่ำมาก (โดยทั่วไปคือ 3.0-4.0 และสูงกว่า 3.5 เพื่อความปลอดภัยต่อผิว) เพื่อคงประสิทธิภาพไว้ได้นานพอสมควร แม้สูตรของคุณจะมีส่วนของน้ำมัน แต่ปริมาณน้ำที่สูง (65.5%) หมายความว่าวิตามินซีส่วนใหญ่อยู่ในเฟสน้ำ ซึ่งจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว การมีส่วนของน้ำมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความไม่เสถียรโดยเนื้อแท้ในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมากค่ะ
• การปรับค่า pH: วิธีการปรับค่า pH ของคุณโดยใช้ Beeswax หรือผงวิตามินซีนั้นไม่ถูกต้อง Beeswax เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์/สารเพิ่มความข้น ไม่ใช่สารปรับค่า pH การเติมผงวิตามินซีเพิ่มจะทำให้ค่า pH ต่ำลงไปอีก ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ต้องการหากค่า pH ต่ำอยู่แล้ว ควรปรับค่า pH โดยใช้สารที่เป็นกรดหรือด่าง (เช่น Citric Acid หรือสารละลาย Sodium Hydroxide) เพื่อให้ค่า pH อยู่ในช่วงที่ต้องการ (pH 3.0-4.0 สำหรับประสิทธิภาพของ L-ascorbic acid แต่โปรดทราบว่าค่า pH นี้อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้) การรักษาค่า pH ให้ต่ำนี้สำคัญต่อ L-ascorbic acid แต่ก็เป็นเรื่องท้าทายในเนื้อโลชั่นและอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ค่ะ
• สารกันเสีย: สูตรของคุณไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย สูตรใดๆ ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ จำเป็นต้อง มีสารกันเสียแบบ Broad-spectrum เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งานค่ะ
• เนื้อสัมผัส: แม้ Butter Cream Maker จะเป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสม แต่ Beeswax 5% และ Butter Cream Maker 2% อาจทำให้ได้เนื้อครีมที่ข้นกว่าเนื้อโลชั่นบางเบาค่ะ

การเติมสารกันแดด (SPF Protect Ultra II) โดยไม่มีเครื่องปั่น

คุณสอบถามเกี่ยวกับการเติม SPF Protect Ultra II 10% โดยไม่มีเครื่องปั่น SPF Protect Ultra II เป็นสารกันแดดที่ละลายในน้ำมันและต้องการความร้อน (70-80°C) และการปั่นอย่างแรงเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้กระจายตัวได้อย่างเหมาะสมและสร้างอิมัลชันที่เสถียรซึ่งให้การป้องกันแสงแดดที่มีประสิทธิภาพ การพยายามผสมด้วยมือเพียงอย่างเดียวมีโอกาสสูงมากที่จะไม่ได้สูตรที่เสถียรและมีการป้องกัน SPF ที่เชื่อถือได้ อนุภาคของสารกันแดดจะไม่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ประสิทธิภาพต่ำและเนื้อโลชั่นอาจแยกชั้นได้ค่ะ

การสร้างผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีประสิทธิภาพและเสถียรในสูตรที่ทำเองโดยไม่มีอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น เครื่องปั่นความเร็วสูง เป็นเรื่องที่ท้าทายมากค่ะ

คำแนะนำสำหรับโลชั่นผิวขาวที่เสถียรพร้อมวิตามินซีและการป้องกันแสงแดด

จากข้อท้าทายในการใช้ L-ascorbic acid และการใส่สารกันแดดโดยไม่มีเครื่องปั่น นี่คือคำแนะนำบางประการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำโลชั่นบำรุงผิวตัวขาวที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ พร้อมวิตามินซีและการป้องกันแสงแดดค่ะ

1. เลือกใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียร: แทนที่จะใช้ผง L-ascorbic acid ลองพิจารณาใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียรกว่า ซึ่งผสมในโลชั่นได้ง่ายกว่าและให้ประโยชน์ด้านความขาวใสที่ดีเยี่ยม ตัวเลือกได้แก่:

   • Ascorbyl Glucoside (AA-2G): ละลายน้ำได้ มีความเสถียรดี (โดยเฉพาะที่ pH 6.5-6.8) และมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาวและลดเลือนริ้วรอย ต้องปรับค่า pH แต่เสถียรกว่าผง L-ascorbic acid ในน้ำมากค่ะ
   • Ethyl Ascorbic Acid: ละลายน้ำได้ เสถียรสูง ผสมง่าย และมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาว ใช้ได้ในช่วง pH ที่กว้างกว่า (3.5-6.0)
   • Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): ละลายในน้ำมัน เสถียรสูง และมีประสิทธิภาพสูงมากในการทำให้ผิวขาวและลดเลือนริ้วรอย ตัวนี้จะต้องใช้ในสูตรที่มีส่วนของน้ำมันและอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมค่ะ

   การใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียรจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนผสมเพื่อผิวขาวในสูตรของคุณได้อย่างมากเมื่อเทียบกับผง L-ascorbic acid

2. เลือกอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมสำหรับเนื้อบางเบา: เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ ลองพิจารณาอิมัลซิไฟเออร์ที่ออกแบบมาสำหรับโลชั่นหรือครีมเนื้อบางเบา แม้ Butter Cream Maker จะใช้ได้ แต่คุณอาจลองสำรวจตัวเลือกอื่นๆ เช่น Light Lotion Maker หรือ Milk Lotion Maker ซึ่งมักจะให้เนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าค่ะ

3. ใส่สารกันเสีย: คุณจำเป็นต้องใส่สารกันเสียแบบ Broad-spectrum เพื่อป้องกันสูตรของคุณจากการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ตัวเลือกที่เหมาะสมและใช้ได้ในช่วง pH ที่หลากหลาย ได้แก่ Global Guard 221 หรือ Mild Preserved COS ใส่สารกันเสียในช่วงที่สูตรเย็นตัวลง (ต่ำกว่า 45°C) ตามอัตราส่วนที่แนะนำของผลิตภัณฑ์ค่ะ

4. ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับสารกันแดด: ดังที่กล่าวไป การใส่สารกันแดดอย่าง SPF Protect Ultra II ให้มีประสิทธิภาพต้องใช้เครื่องปั่น หากคุณไม่สามารถใช้เครื่องปั่นได้ การป้องกัน SPF ที่เชื่อถือได้ในโลชั่นของคุณจะเป็นเรื่องยากมากค่ะ คุณอาจพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดแยกต่างหาก หรือยอมรับข้อจำกัดของระดับการป้องกันในสูตรที่ผสมด้วยมือ หากคุณยังต้องการลองเพิ่มการป้องกันแสงแดดด้วยมือ คุณจะต้องแน่ใจว่าสารกันแดดกระจายตัวอย่างสมบูรณ์ในเฟสน้ำมันก่อนการทำอิมัลชัน แต่ความเสถียรและการกระจายตัวที่สม่ำเสมอจะลดลงค่ะ

แนวทางสูตรที่แนะนำเพื่อความเสถียร (แนวคิด)

นี่คือโครงร่างแนวคิดสำหรับโลชั่นผิวขาวที่เสถียรโดยใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียรและมีสารกันเสีย การเพิ่มสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพโดยไม่มีเครื่องปั่นยังคงเป็นข้อท้าทายที่สำคัญค่ะ

• เฟสน้ำ: Purified Water, Glycerin, วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียร (เช่น Ascorbyl Glucoside หรือ Ethyl Ascorbic Acid)
• เฟสน้ำมัน: น้ำมัน Carrier Oil เนื้อบางเบา (เช่น Sunflower Oil), อิมัลซิไฟเออร์ (เช่น Light Lotion Maker, Milk Lotion Maker หรือ Butter Cream Maker ในอัตราส่วนที่ต่ำลง), Vitamin E Acetate
• เฟสเย็นตัว (ต่ำกว่า 45°C): สารกันเสีย (เช่น Global Guard 221 หรือ Mild Preserved COS)

ขั้นตอนทั่วไป (ผสมด้วยมือ):

1. รวมส่วนผสมเฟสน้ำและคนจนละลาย ปรับค่า pH หากจำเป็นสำหรับวิตามินซีอนุพันธ์ที่เลือกใช้
2. รวมส่วนผสมเฟสน้ำมันและให้ความร้อนเบาๆ (ประมาณ 70-75°C) เพื่อหลอมของแข็ง (เช่น Beeswax หากใช้) และช่วยกระตุ้นอิมัลซิไฟเออร์ คนให้เข้ากัน
3. ค่อยๆ เติมเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน ขณะที่คนด้วยมืออย่างต่อเนื่องและแรง จนเกิดอิมัลชัน คนต่อไปขณะที่ส่วนผสมเย็นตัวลง
4. เมื่อส่วนผสมเย็นตัวลงต่ำกว่า 45°C ให้เติมสารกันเสียและส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน (เช่น Vitamin E Acetate หากยังไม่ได้ใส่ในเฟสน้ำมัน แม้ว่าจะละลายในน้ำมันได้ดีก็ตาม) คนให้เข้ากันดี
5. คนเป็นครั้งคราวต่อไปจนกว่าโลชั่นจะถึงอุณหภูมิห้องและข้นขึ้น

โปรดจำไว้ว่าการทำอิมัลชันที่เรียบเนียนและเสถียรด้วยมืออาจทำได้ยากกว่าการใช้เครื่องปั่นหรือเครื่องโฮโมจีไนเซอร์ค่ะ

เพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่คุณมีผง L-ascorbic acid อยู่เป็นจำนวนมาก คุณอาจลองศึกษาการทำเซรั่มแบบ Anhydrous (ไม่มีน้ำ) ซึ่งเหมาะสมกว่าสำหรับส่วนผสมนี้ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะไม่ใช่โลชั่นและจะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างออกไปค่ะ

หวังว่าคำอธิบายโดยละเอียดนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อท้าทายและเป็นแนวทางในการสร้างสูตรโลชั่นผิวขาวพร้อมวิตามินซีและการป้องกันแสงแดดที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะคะ