การวิเคราะห์สูตรเซรั่มและคำแนะนำในการผสม

จากการวิเคราะห์สูตรที่คุณปรับปรุงและข้อมูลจากการสนทนาในกระทู้ นี่คือการวิเคราะห์และคำตอบสำหรับคำถามของคุณค่ะ

การวิเคราะห์สูตร

สูตรที่คุณปรับปรุงโดยใช้ Silky Serum Base เป็นแนวทางที่ดีในการสร้างเซรั่มเนื้อบางเบาที่เหมาะสำหรับการปรับผิวให้กระจ่างใส ให้ผิวดูเงาแบบเกาหลี และควบคุมความมัน การผสมผสานของสารออกฤทธิ์ในสูตรนี้มุ่งเป้าไปที่ปัญหาผิวหลายด้าน:

• Azelaic Acid (10%): มีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำ ควบคุมความมัน และช่วยเรื่องสิว ควรทราบว่าความเข้มข้น 10% ค่อนข้างสูงและอาจทำให้เกิดการตกตะกอนได้ในอุณหภูมิต่ำ
• Vitamin B3 (Niacinamide) (5%): ทำงานร่วมกับ N-Acetyl-D Glucosamine ได้ดีในการปรับผิวให้กระจ่างใส ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดง และช่วยควบคุมการผลิตน้ำมัน
• N-Acetyl-D Glucosamine (4%): ช่วยลดจุดด่างดำและกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับ Vitamin B3
• Alpha Arbutin (2%): สารปรับผิวให้กระจ่างใสที่นิยมใช้ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว
• Natural Betaine (5%) และ Natto Gum (5%): สารเหล่านี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากสารออกฤทธิ์ ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น
• Phenoxyethanol (1%): ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียเพื่อให้สูตรคงตัวและปลอดภัยจากการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
• Silky Serum Base (30%) และ Water (38%): ระบบเบสนี้ช่วยสร้างเนื้อเซรั่ม ตามที่ได้มีการพูดคุยกัน สัดส่วนของเบสกับน้ำ/ซิลิโคนมีผลต่อความหนืดสุดท้าย

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ

1. ค่า pH ของ Azelaic Acid และ Alpha Arbutin: คุณควรยึดตามช่วงค่า pH ที่แนะนำสำหรับ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป หรือช่วงความคงตัวของสารในสูตรสำเร็จรูปเป็นหลัก สำหรับ Azelaic Acid (Liquid Azelaic™) ช่วง pH คือ 5-11 ส่วน Alpha Arbutin ช่วง pH ที่คงตัวคือ 3.5-6.5 เพื่อให้สารทั้งสองชนิดคงตัวในสูตร ค่า pH สุดท้ายของเซรั่มควรปรับให้อยู่ในช่วงที่ทับซ้อนกัน ซึ่งแนะนำให้อยู่ที่ประมาณ pH 6 ตามที่ได้มีการแนะนำในกระทู้

2. การใช้ความร้อน: แม้ว่า Warp Cream Maker มักจะต้องใช้ความร้อนในการอิมัลซิไฟเออร์ให้เข้ากัน แต่สูตรที่คุณปรับปรุงใช้ Silky Serum Base สำหรับเบสนี้ การละลายผงที่ละลายน้ำในส่วนของน้ำอาจง่ายขึ้นหากใช้ความร้อนอ่อนๆ แต่ตัวเบสเองไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนสูงในการผสมกับส่วนของน้ำค่ะ ให้ปฏิบัติตามวิธีการผสมเฉพาะของเบสที่คุณใช้

3. ลำดับการผสมและค่า pH: คุณสามารถละลายสารที่ละลายน้ำทั้งหมด (Azelaic Acid, Vitamin B3, N-Acetyl-D Glucosamine, Alpha Arbutin, Natural Betaine, Natto Gum, Phenoxyethanol) ในส่วนของน้ำก่อนได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่า pH ของสารแต่ละตัว การปรับค่า pH โดยใช้กรด (เช่น Lactic Acid หรือ Citric Acid) ควรทำ หลังจาก ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันในเนื้อเซรั่มสุดท้ายแล้ว ปรับค่า pH ทีละน้อยพร้อมคนให้เข้ากัน และวัดค่าที่อุณหภูมิห้อง (20-25°C) จนกว่าค่าจะคงที่อยู่ในช่วงที่ต้องการ (ประมาณ pH 6)

4. ขั้นตอนการปรับค่า pH: ใช่ค่ะ ขั้นตอนคือการผสมส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันก่อน จากนั้นวัดค่า pH ของส่วนผสมสุดท้าย แล้วค่อยๆ เติมสารปรับค่า pH พร้อมคนให้เข้ากันจนได้ค่า pH ที่ต้องการ คุณต้องแน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายเหมาะสมกับสารออกฤทธิ์ทุกตัวในสูตร เป็นเรื่องปกติที่ค่า pH จะใช้เวลาในการคงที่ โดยเฉพาะหลังจากเติมสารที่เป็นกรดหรือด่าง

5. การปรับความหนืดด้วยซิลิโคน: หากต้องการให้เซรั่มเหลวขึ้น (เพื่อให้ใช้กับขวดหัวดรอปเปอร์ได้) เมื่อใช้ Silky Serum Base คุณต้องเพิ่มสัดส่วนของซิลิโคน (เช่น Cyclomethicone) และลดสัดส่วนของน้ำลง คำอธิบายของ Silky Serum Base ยืนยันว่าการเติม Cyclomethicone หรือ Dimethicone จะทำให้เซรั่มเหลวขึ้น คุณจะต้องทดลองเพื่อหาสัดส่วนที่ให้ความหนืดตามที่คุณต้องการ คุณไม่จำเป็นต้องใช้สารอิมัลซิไฟเออร์เพิ่มเติมอย่าง Silisolve เมื่อใช้ Silky Serum Base ในการผสมซิลิโคน

6. ค่า pH เปลี่ยนหลังเติมเบสและความคงตัว: เป็นไปได้ที่ค่า pH จะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อผสมส่วนของน้ำเข้ากับ Silky Serum Base ควรวัดและปรับค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายที่อุณหภูมิห้อง (20-25°C) เสมอ ค่า pH อาจไวต่ออุณหภูมิ การวัดที่อุณหภูมิต่ำ (เช่น นำออกมาจากตู้เย็นทันที) จะให้ค่าที่ไม่ถูกต้อง ควรปล่อยให้เซรั่มกลับสู่อุณหภูมิห้องก่อนวัดค่า pH ค่า pH อาจใช้เวลาสักพักในการคงที่หลังจากปรับแล้ว

7. การตกตะกอนในตู้เย็น: ผงสีขาวที่สังเกตเห็นเมื่อแช่เซรั่มในตู้เย็นมีแนวโน้มสูงที่จะเป็น Azelaic Acid ที่ตกตะกอน ความสามารถในการละลายของ Azelaic Acid ในน้ำจะลดลงอย่างมากในอุณหภูมิที่ต่ำลง นี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยเมื่อใช้ Azelaic Acid ในความเข้มข้นสูง แม้ว่าการตกตะกอนจะละลายไปเมื่อเซรั่มกลับสู่อุณหภูมิห้อง ซึ่งแสดงว่าสารยังคงอยู่ แต่ก็บ่งชี้ถึงความไม่คงตัวที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อป้องกันปัญหานี้ คุณอาจลองลดความเข้มข้นของ Azelaic Acid ลง หรือเพิ่มสัดส่วนของส่วนน้ำเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Silky Serum Base การเก็บเซรั่มที่อุณหภูมิห้องที่คงที่ (ห่างจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง) เป็นสิ่งที่แนะนำ หรือเก็บในที่เย็น (12-15°C) หากเป็นไปได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการแช่ตู้เย็นหากทำให้เกิดการตกตะกอน ผลิตภัณฑ์อาจยังคงใช้งานได้หากการตกตะกอนละลายไปและสูตรโดยรวมยังคงมีความคงตัวดี

8. ความเหมาะสมสำหรับผิวเป็นสิว: สูตรนี้มีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อผิวเป็นสิว เช่น Azelaic Acid และ Vitamin B3 ซึ่งช่วยควบคุมความมันและลดการอักเสบ/รอยแดง อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่สูงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบางราย โดยเฉพาะหากเกราะป้องกันผิวอ่อนแอหรือมีสิวอักเสบอยู่ ควรทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อน และค่อยๆ เริ่มใช้หากมีสิวอักเสบ

สรุปแล้ว สูตรที่คุณปรับปรุงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผสมเฉพาะของ Silky Serum Base โดยค่อยๆ เติมส่วนของน้ำลงในเบสพร้อมคน ปรับค่า pH สุดท้ายให้ถูกต้องที่อุณหภูมิห้อง และพิจารณาเงื่อนไขการเก็บรักษาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการตกตะกอน อาจต้องทดลองปรับสัดส่วนน้ำ/ซิลิโคนเพื่อให้ได้ความหนืดที่เหมาะสมสำหรับขวดดรอปเปอร์ค่ะ