ปัญหาครีมจับตัวเป็นก้อนใน Hot Process: บทบาทของอิมัลซิไฟเออร์

ถามโดย: saifon.pf เมื่อ: June 19, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังทำครีมด้วยวิธี Hot Process โดยใช้ส่วนผสมดังนี้:

  • น้ำ (70%)
  • น้ำมันมะกอก (5%)
  • Cetyl alcohol
  • Glyceryl stearate
  • Vitamin B3
  • Vitamin B5
  • Natural Moisturizing Amino Acids
  • Aloe vera

เมื่อฉันนำส่วนของน้ำมันที่ร้อน (ซึ่งมีน้ำมันมะกอก, Cetyl alcohol, และ Glyceryl stearate) มารวมกับส่วนของน้ำที่ร้อน (ซึ่งมีน้ำ, Vitamin B3, Vitamin B5, และ Natural Moisturizing Amino Acids) ส่วนผสมจะจับตัวเป็นก้อนแทนที่จะเป็นเนื้อครีมที่เนียน วิธีแก้ปัญหาที่ฉันใช้อยู่คือการนำส่วนผสมที่รวมกันแล้วไปตุ๋นให้ร้อนอีกครั้งจนละลาย แล้วนำมาคนอย่างแรงขณะแช่ในน้ำเย็นเพื่อให้เย็นตัวลง แต่ก็ทำได้ยากและใช้เวลานาน

  1. อะไรคือสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ของปัญหาการจับตัวเป็นก้อนนี้?
  2. ฉันจะป้องกันการจับตัวเป็นก้อนและทำให้ได้เนื้อครีมที่เนียนและคงตัวด้วยวิธี Hot Process ได้อย่างไร?
  3. ส่วนผสมที่เป็นของเหลว เช่น Aloe vera สามารถเติมลงในครีมหลังจากที่ครีมเย็นตัวลงแล้วได้หรือไม่?

คำตอบ

ปัญหาการผสมครีม: การจับตัวเป็นก้อนของ Cetyl alcohol และ Glyceryl stearate

จากสูตรและคำอธิบายของคุณ ปัญหาการจับตัวเป็นก้อนเมื่อนำส่วนของน้ำมัน (ที่มี Cetyl alcohol และ Glyceryl stearate) มารวมกับส่วนของน้ำ น่าจะเกิดจาก การขาดอิมัลซิไฟเออร์หลัก ในสูตรของคุณค่ะ

Cetyl alcohol และ Glyceryl stearate เป็นสารเพิ่มความข้นและช่วยให้ตำรับคงตัวที่ดี ซึ่งมักถูกเรียกว่าโค-อิมัลซิไฟเออร์ (co-emulsifiers) อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้ไม่สามารถสร้างและคงสภาพอิมัลชัน (ส่วนผสมที่เข้ากันของน้ำมันและน้ำ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวเอง โดยเฉพาะในสูตรที่มีปริมาณน้ำและน้ำมันมากพอสมควรเช่นสูตรของคุณ (น้ำ 70%, น้ำมันมะกอก 5% รวมถึงส่วนของไขอื่นๆ)

เมื่อคุณเทส่วนของน้ำมันที่ร้อนลงในส่วนของน้ำโดยไม่มีอิมัลซิไฟเออร์หลัก น้ำมันและน้ำจะแยกชั้นกัน ไขที่หลอมเหลว (Cetyl alcohol และ Glyceryl stearate) จะแข็งตัวอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับน้ำที่เย็นกว่า ทำให้กักเก็บน้ำมันบางส่วนไว้ภายในและเกิดการจับตัวเป็นก้อน แทนที่จะกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในส่วนของน้ำเพื่อสร้างเนื้อครีมที่เนียน

วิธีแก้ปัญหาที่คุณใช้อยู่ (นำส่วนผสมที่รวมกันแล้วไปตุ๋นต่อจนละลายและนำมาแช่น้ำเย็นแล้วคน) เป็นการทำกระบวนการอิมัลซิฟิเคชันแบบร้อน (hot process) แต่หัวใจสำคัญคือต้องแน่ใจว่ามีการผสมที่ดี ในขณะที่ส่วนผสมยังร้อนอยู่ (โดยทั่วไปประมาณ 70-80°C) เพื่อให้อิมัลซิไฟเออร์ (แม้จะเป็นเพียงโค-อิมัลซิไฟเออร์ในกรณีของคุณ) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างอิมัลชันก่อนที่ส่วนผสมจะเย็นตัวและแข็งตัวอย่างไม่สม่ำเสมอ

วิธีแก้ปัญหาที่แนะนำ: เพิ่มอิมัลซิไฟเออร์หลัก

เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่คงตัวและเนียนโดยใช้วิธีแบบร้อน คุณจำเป็นต้องเพิ่มอิมัลซิไฟเออร์หลักในส่วนของน้ำมันของคุณ ระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่นิยมใช้และเข้ากันได้ดีกับ Cetyl alcohol และ Glyceryl stearate คือ Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate

ระบบอิมัลซิไฟเออร์นี้มีค่า HLB (Hydrophilic-Lipophilic Balance) ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเชื่อมส่วนของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อได้รับความร้อนและผสมอย่างเหมาะสม

ขั้นตอนการทำครีมแบบร้อนที่ปรับปรุงแล้ว

นี่คือขั้นตอนที่แนะนำโดยเพิ่มอิมัลซิไฟเออร์หลัก:

  1. เตรียมส่วนของน้ำ: รวมน้ำ, วิตามิน B3, วิตามิน B5 และ Natural Moisturizing Amino Acids นำส่วนนี้ไปให้ความร้อนประมาณ 70-80°C
  2. เตรียมส่วนของน้ำมัน: รวมน้ำมันมะกอก, Cetyl alcohol, Glyceryl stearate และอิมัลซิไฟเออร์หลัก (เช่น Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate) นำส่วนนี้ไปให้ความร้อนแยกต่างหากที่อุณหภูมิเดียวกัน (ประมาณ 70-80°C) จนส่วนผสมที่เป็นของแข็งทั้งหมดละลายหมดและส่วนของน้ำมันใส
  3. รวมส่วนผสมและทำอิมัลชัน: ค่อยๆ เทส่วนของน้ำมันที่ร้อนลงในส่วนของน้ำที่ร้อน พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องและแรง ใช้ตะกร้อคน, เครื่องปั่นมือถือ (stick blender) หรือเครื่อง Homogenizer เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รักษาอุณหภูมิ (70-80°C) และคนต่อไปประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าเกิดอิมัลชันที่คงตัว คุณจะสังเกตเห็นส่วนผสมข้นขึ้นและกลายเป็นเนื้อครีมสีขาวเนียนสม่ำเสมอ ซึ่งแสดงว่าน้ำมันและน้ำเข้ากันดีแล้ว
  4. ขั้นตอนการทำให้เย็น: นำส่วนผสมออกจากความร้อนและคนเบาๆ ต่อไปในขณะที่ครีมกำลังเย็นตัวลง การคนระหว่างการเย็นตัวจะช่วยให้เนื้อครีมข้นขึ้นอย่างสม่ำเสมอและป้องกันการแยกชั้น
  5. เติมสารที่ไวต่อความร้อน: หากคุณมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ไวต่อความร้อน (เช่น สารสกัดบางชนิด หรือน้ำหอม) ให้เติมในช่วงที่ครีมกำลังเย็นตัวลงและอุณหภูมิลดลงมากแล้ว (เช่น ต่ำกว่า 40°C) สำหรับวิตามิน B3 และ B5 ในสูตรของคุณ โดยทั่วไปมีความเสถียรเพียงพอที่จะทนความร้อน 70-80°C ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการทำอิมัลชันแบบร้อน ตามที่ได้กล่าวถึงในการตอบกลับก่อนหน้านี้
  6. ปรับปรุงขั้นสุดท้าย: เมื่อครีมเย็นตัวลงจนสมบูรณ์แล้ว คุณสามารถตรวจสอบเนื้อสัมผัสและเติมสารกันเสียได้ หากคุณยังไม่ได้ใส่ในส่วนของน้ำตั้งแต่แรก

สำหรับข้อกังวลของคุณเกี่ยวกับวิตามิน B3 และ B5 ดังที่ได้มีการพูดคุยกันไปแล้ว วิตามินเหล่านี้โดยทั่วไปมีความเสถียรเพียงพอที่จะทนต่อการสัมผัสความร้อน 70-80°C ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการทำอิมัลชันแบบร้อน หัวใจสำคัญคือการรักษาอุณหภูมิในช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับการเกิดอิมัลชัน (ปกติ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและวิธีการ) และไม่ใช่การให้ความร้อนเป็นเวลานาน การเติมส่วนผสมที่เป็นของเหลว เช่น Aloe vera หลังจากที่ครีมเย็นตัวลงแล้ว เป็นวิธีที่ถูกต้องและแนะนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์ Aloe vera นั้นไวต่อความร้อน หรือหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการเจือจางส่วนผสมในช่วงเริ่มต้นของการทำอิมัลชัน

การเพิ่มอิมัลซิไฟเออร์หลัก เช่น Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate และทำตามขั้นตอนแบบ Hot Process โดยให้ความร้อนและผสมอย่างเหมาะสมในระหว่างขั้นตอนการรวมส่วนผสม จะช่วยให้คุณได้เนื้อครีมที่เนียนและคงตัวโดยไม่มีปัญหาการจับตัวเป็นก้อนค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Olive Oil (Extra Virgin)
Olive Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง
Cetyl Alcohol
Cetyl Alcohol
เครื่องสำอาง
Glyceryl Stearate SE / Glyceryl Monostearate SE (GMS SE)
Glyceryl Stearate SE / Glyceryl Monostearate SE (GMS SE)
เครื่องสำอาง
Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)
Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)
เครื่องสำอาง
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
เครื่องสำอาง
Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate (Powder)
Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate (Powder)
เครื่องสำอาง
Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate (Pellet)
Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate (Pellet)
เครื่องสำอาง