ปัญหาความหนืดของครีมล้างหน้าเนื้อโฟม

จากสูตรที่คุณให้มาและลักษณะอาการที่พบ (เหลวที่อุณหภูมิ 20-25°C และข้นขึ้นที่ 40-50°C) ปัญหาน่าจะเกิดจากพฤติกรรมเฟสของสบู่โพแทสเซียมที่เกิดจากปฏิกิริยาของกรดไขมัน (Stearic Acid, Myristic Acid, Lauric Acid) กับ KOH ระบบสบู่ในน้ำสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงเฟสที่ซับซ้อนได้ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ความเข้มข้น และความยาวของสายโซ่กรดไขมันที่ใช้

ลักษณะที่สูตรของคุณแสดงออกมาบ่งชี้ว่าเฟสที่มีโครงสร้างที่ต้องการ (ซึ่งให้ความข้นและความคงตัว) มีความเสถียรมากกว่าที่อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย (40-50°C) แต่กลับไม่เสถียรหรือไม่สามารถสร้างโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพที่อุณหภูมิห้องปกติ (20-25°C) ทำให้สูตรเหลว

ปัจจัยที่อาจส่งผล ได้แก่:

• อัตราส่วนกรดไขมัน: ความสมดุลระหว่าง Stearic Acid ซึ่งเป็นกรดไขมันสายยาว และ Lauric Acid ซึ่งเป็นกรดไขมันสายสั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความคงตัวของโครงสร้างสบู่ในช่วงอุณหภูมิต่างๆ การมีสัดส่วนของกรดไขมันสายสั้นสูงเกินไปบางครั้งอาจทำให้โครงสร้างไม่แข็งแรงที่อุณหภูมิต่ำ
• ไกลคอล: ส่วนผสมอย่าง Dipropylene glycol และ Polyethylene glycol สามารถส่งผลต่อการละลายและพฤติกรรมเฟสของระบบสบู่ได้

ข้อแนะนำและวิธีแก้ไข

เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่คงตัวและมีความหนืดที่เหมาะสมที่อุณหภูมิห้อง ลองพิจารณาการปรับเปลี่ยนและเทคนิคดังนี้:

1. ปรับอัตราส่วนกรดไขมัน: เพิ่มสัดส่วนของกรดไขมันสายยาว เช่น Stearic Acid เล็กน้อย (อาจใช้เกรดที่มีปริมาณ Stearic สูงขึ้น หรือเพิ่มเปอร์เซ็นต์เล็กน้อย) เมื่อเทียบกับ Myristic Acid และ Lauric Acid ซึ่งจะช่วยสร้างโครงสร้างสบู่ที่แข็งแรงขึ้นและคงตัวได้ดีขึ้นที่อุณหภูมิต่ำ
2. เพิ่มสารช่วยสร้างเนื้อ/โครงสร้าง: การเติม Fatty Alcohol เช่น Cetyl Alcohol หรือ Cetearyl Alcohol ในปริมาณเล็กน้อย (ปกติ 0.5-2%) ในส่วนของน้ำมัน สามารถช่วยเพิ่มความคงตัวและความแข็งของโครงสร้างครีมได้อย่างมาก โดยจะสร้างเครือข่ายแว็กซ์ที่ช่วยพยุงโครงสร้างสบู่ไว้
3. ปรับปรุงขั้นตอนการผสมและการเย็นตัว: กระบวนการเกิดสบู่ (Saponification) และการเย็นตัวที่ตามมามีความสำคัญอย่างยิ่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกิดสบู่สมบูรณ์ และควบคุมอัตราการเย็นตัวพร้อมกับการกวนที่เหมาะสม เพื่อให้โครงสร้างสบู่ก่อตัวได้อย่างถูกต้อง

ขั้นตอนการผสมที่แนะนำ

ใช้วิธี Hot Process ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานสำหรับการทำสบู่:

1. เฟส A (ส่วนน้ำมัน): รวม Stearic Acid, Myristic Acid, Lauric Acid และ Beeswax (และ Fatty Alcohol เช่น Cetyl Alcohol หากมีการเพิ่ม) ในภาชนะที่ทนความร้อน ให้ความร้อนส่วนนี้ถึง 75-80°C และกวนจนของแข็งทั้งหมดละลายและเข้ากันดี
2. เฟส B (ส่วนน้ำ): ในภาชนะแยกต่างหาก ให้ความร้อน Aqua (น้ำ) ส่วนใหญ่ (เช่น 45% จาก 50%) ถึง 75-80°C ในน้ำส่วนน้อยที่เหลือ ให้ละลาย KOH อย่างระมัดระวัง จากนั้นเติมสารละลาย KOH ที่ละลายแล้วลงในส่วนน้ำร้อนหลัก เติม Tetrasodium EDTA ลงในส่วนน้ำนี้ กวนจนละลาย
3. รวมเฟส: ค่อยๆ เติมเฟส B ลงในเฟส A พร้อมกับกวนอย่างต่อเนื่อง หากมีเครื่อง Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง ให้ใช้ในช่วงแรกเพื่อให้เกิดอิมัลชันและเกิดสบู่ได้ดี จากนั้นใช้เครื่องกวนแบบใบพายความเร็วต่ำลงในช่วงการเย็นตัว รักษาอุณหภูมิไว้ที่ 75-80°C เป็นเวลา 15-20 นาที พร้อมกวน เพื่อให้ปฏิกิริยาเกิดสบู่สมบูรณ์
4. การเย็นตัว: เริ่มลดอุณหภูมิของส่วนผสมพร้อมกับกวนอย่างต่อเนื่อง เมื่อส่วนผสมเย็นลง เนื้อจะเริ่มข้นขึ้น
5. เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: ที่อุณหภูมิประมาณ 50°C เติม Dipropylene glycol และ Polyethylene glycol กวนต่อไป
6. ที่อุณหภูมิประมาณ 40°C เติมของแข็งที่กระจายตัวไว้ล่วงหน้า เช่น Kaolin Clay และ Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเข้ากันดี
7. ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 35°C เติมน้ำหอม และส่วนผสมอื่นๆ ที่ไวต่อความร้อนมาก
8. กวนต่อไปจนผลิตภัณฑ์เย็นลงถึงอุณหภูมิห้อง (20-25°C) และได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ

ด้วยการนำข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปปรับใช้ โดยเฉพาะการปรับสมดุลของกรดไขมัน และอาจเพิ่ม Fatty Alcohol คุณควรจะสามารถสร้างครีมล้างหน้าเนื้อโฟมที่มีความคงตัวและความหนืดสม่ำเสมอที่อุณหภูมิห้องได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง:

• Stearic Acid
• Myristic Acid
• Lauric Acid
• Beeswax
• Dipropylene glycol
• Polyethylene glycol
• Tetrasodium EDTA
• Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse
• Kaolin Clay