ปัญหาค่า pH และเนื้อสัมผัสในสูตร Sym-White™

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและข้อสังเกตค่ะ เรามาตอบคำถามของคุณทีละข้อนะคะ:

1. การปรับค่า pH หลังเติม Sym-White™: ทีมงานเคยแนะนำให้ปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วง 4-5 เพื่อความเสถียรสูงสุดของ Sym-White™ แม้ว่าค่า pH 3-4 อาจจะยังอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิวโดยทั่วไป แต่การปรับให้อยู่ใกล้เคียง 4-5 จะช่วยให้ Sym-White™ มีความเสถียรและประสิทธิภาพในระยะยาวได้ดีกว่า การปรับไปที่ 5.5-7 ไม่จำเป็นสำหรับ Sym-White™ และอาจจะไม่เหมาะเท่าช่วง 4-5 ค่ะ
2. ผลของค่า pH 3-4 ต่อผิวหน้า: ค่า pH ระหว่าง 3.5 ถึง 6.5 ถือว่าเหมาะสมกับผิวโดยทั่วไปค่ะ แม้ว่า pH 3-4 จะค่อนข้างต่ำ แต่ก็อาจจะยังใช้ได้สำหรับบางคน อย่างไรก็ตาม สำหรับผิวแพ้ง่าย ค่า pH ที่ต่ำกว่า 4 อย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเล็กน้อยหรือผิวแห้งได้ค่ะ
3. LipidSoft™ เทียบกับ LipidSoft™ CC เพื่อความลื่น: จากคำแนะนำเดิมของทีมงาน LipidSoft™ CC และ LipidSoft™ Lite จะให้ความรู้สึกบนผิวคล้ายกับ LipidSoft™ อาจจะเบาบางกว่าเล็กน้อยสำหรับ CC ประโยชน์หลักของ LipidSoft™ CC คือช่วยกระจายเม็ดสีในสูตร BB/CC cream ค่ะ สำหรับการปรับปรุงความลื่นและลดความเหนอะหนะในเจลเซรั่มของคุณ ความแตกต่างระหว่าง LipidSoft™ และ LipidSoft™ CC อาจจะไม่มากนักค่ะ ทีมงานแนะนำ emollients เหล่านี้เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสเมื่อเทียบกับการใช้ส่วนผสมที่ละลายน้ำเพียงอย่างเดียวค่ะ
4. ส่วนผสมที่ทำให้เหนียวเหนอะหนะและผิวตึง: ความเหนียวเหนอะหนะเหมือนกาวและความรู้สึกตึงผิว น่าจะมาจากความเข้มข้นรวมที่สูงของสารก่อเจล (polymer) และสารให้ความชุ่มชื้นที่ละลายน้ำในสูตรค่ะ ส่วนผสมอย่าง Pro Polymer™ (ที่ 1%), Repair Activator™, Galactomyces Ferment Filtrate, Panthenol, N-Acetyl-D glucosamine, Rhamnose และ Rice Vitamin เมื่อใช้ในปริมาณสูงร่วมกัน อาจทำให้เกิดฟิล์มบนผิวเมื่อน้ำระเหยไป ซึ่งนำไปสู่ความเหนียวและความรู้สึกตึงผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Pro Polymer™ ที่ 1% เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโครงสร้างเจลและมีส่วนทำให้เกิดฟิล์มที่รู้สึกตึงค่ะ
5. ส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความยืดหยุ่นผิว: สูตรปัจจุบันของคุณมี Matrixyl™ 3000 และ Repair Activator™ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับลดริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับยืดหยุ่นขึ้นได้เมื่อใช้ต่อเนื่องค่ะ สำหรับสภาพผิวที่มัน การเพิ่มน้ำมันหนักๆ อาจไม่เหมาะค่ะ เพื่อเสริมเรื่องความยืดหยุ่นโดยไม่เพิ่มความเหนอะหนะ อาจพิจารณาส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน/อีลาสติน หรือให้ผลกระชับชั่วคราวได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมที่ให้ผลกระชับชั่วคราวมากๆ (เช่น polymer บางชนิด) อาจทำให้รู้สึกแห้งตึงมากขึ้นได้ค่ะ การเน้นที่ความยืดหยุ่นระยะยาวด้วย peptides และการเสริมเกราะป้องกันผิว (ซึ่ง Niacinamide และ Ceramides ช่วยได้) เป็นแนวทางที่ดีค่ะ ทีมงานเคยแนะนำ Ceramide Complex (CeraTouch™) สำหรับเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งช่วยเรื่องความยืดหยุ่นทางอ้อมได้ แต่ก็แจ้งว่าคุ้มค่ากว่าสำหรับผิวแห้ง/แพ้ง่ายค่ะ
6. ผลของการใช้ Sym-White™ เกิน 0.5%: การใช้ Sym-White™ (Phenylethyl Resorcinol) ในความเข้มข้นที่สูงกว่าปริมาณที่แนะนำสูงสุด (โดยทั่วไปคือ 0.5% ถึง 1%) จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว รอยแดง แสบ หรือผิวไวต่อแสงมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ต่อเนื่องค่ะ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ตามปริมาณที่แนะนำเพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงค่ะ

เพื่อลดความเหนียวเหนอะหนะและความรู้สึกตึงผิว คุณอาจพิจารณาลดปริมาณสารให้ความชุ่มชื้น/สารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำบางตัว หรือลดปริมาณสารก่อเจล (Pro Polymer™) ลงเล็กน้อยค่ะ คำแนะนำเดิมของทีมงานเรื่องการเพิ่ม emollient บางเบาอย่าง LipidSoft™ Lite หรือ CC (ซึ่งคุณมี LipidSoft™ อยู่แล้ว) และอาจเพิ่มสารนำพาอย่าง PE-1 Aqua (หากตัดส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันออก) ก็เป็นแนวทางที่มุ่งปรับปรุงเนื้อสัมผัสและการซึมสู่ผิวค่ะ