ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรเซรั่ม

สำหรับสูตรเซรั่มของคุณและการตอบสนองของผิว (สิว ผด สิวอักเสบ) หลังจากเพิ่มสารสกัด Apple Stem Cell และ Copper Peptide:

จากประสบการณ์ของคุณและข้อคิดเห็นจากผู้ใช้อื่นๆ Copper Peptide เป็นสาเหตุที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่ทำให้เกิดการระคายเคืองที่คุณพบ แม้ว่าจะเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์ในการซ่อมแซมผิวและต่อต้านริ้วรอย แต่บางคนอาจมีความไวต่อสารนี้ ซึ่งนำไปสู่อาการแดง การระคายเคือง หรือสิวขึ้นได้ แม้จะใช้ในอัตราส่วนที่แนะนำก็ตาม สารสกัด Apple Stem Cell โดยทั่วไปแล้วมีโอกาสน้อยที่จะทำให้เกิดการระคายเคือง

ส่วนผสมในสูตรเซรั่มเดิมของคุณ (Activated Resorcinol, Vitamin B3 (Niacinamide), N-Acetyl Glucosamine, Hyaluronic Acid, Tranexamic Acid, Bisabolol, สารกันเสีย) โดยทั่วไปเข้ากันได้ดีและนิยมใช้ร่วมกันในสูตรสกินแคร์ ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความไวของแต่ละบุคคลต่อ Copper Peptide ที่เพิ่มเข้าไป มากกว่าที่จะเป็นปฏิกิริยาที่ซับซ้อนระหว่างส่วนผสมทั้งหมด

หากคุณต้องการใช้สารสกัด Apple Stem Cell และ Copper Peptide เพื่อบำรุงผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผิวของคุณมีความไว:

• พิจารณาใช้แยกจากเซรั่มหลักของคุณ เพื่อแยกแยะว่าส่วนผสมใดอาจเป็นสาเหตุของอาการแพ้
• ลองใช้ Copper Peptide ในความเข้มข้นที่ต่ำลง (เช่น เริ่มต้นที่ 0.5% หรือ 1% แทนที่จะเป็น 2%)
• ผู้ใช้บางรายพบว่า Copper Peptide สามารถทนได้ดีกว่าเมื่อใช้เฉพาะตอนกลางคืน

ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรคลีนเซอร์

สำหรับสูตรคลีนเซอร์ล้างหน้าของคุณและการตอบสนองของผิว (สิวขึ้น รอยแดงชัดขึ้น) หลังจากเพิ่ม Vitamin B3 (Niacinamide) และ Lactic Acid:

สูตรพื้นฐานของคุณที่มี Lauryl Glucoside, Propylene Glycol และ Glycerin เป็นเบสทำความสะอาดที่อ่อนโยน อย่างไรก็ตาม การเพิ่ม Vitamin B3 4% และ Lactic Acid 2% อาจมีส่วนทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีผิวแพ้ง่าย

• แม้ว่า Vitamin B3 (Niacinamide) มักจะทนได้ดีและช่วยลดรอยแดงและความมันได้ แต่ความเข้มข้น 4% ในผลิตภัณฑ์ล้างออกอาจยังสูงเกินไปสำหรับผิวที่บอบบางมาก
• Lactic Acid เป็น Alpha Hydroxy Acid (AHA) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว แม้จะใช้เพียง 2% ก็สามารถเพิ่มความไวของผิวและอาจทำให้เกิดรอยแดงหรือการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากค่า pH ของผลิตภัณฑ์ต่ำ นอกจากนี้ ความเข้มข้นสูงของสารให้ความชุ่มชื้นอย่าง Propylene Glycol และ Glycerin (อย่างละ 30%) บางครั้งอาจรู้สึกหนักผิวหรือทิ้งคราบไว้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันสำหรับบางคนได้

สำหรับผิวแพ้ง่าย ลองพิจารณาปรับสูตรคลีนเซอร์ดังนี้:

• ลดความเข้มข้นของ Propylene Glycol และ Glycerin ลง (เช่น เหลืออย่างละ 10-15%) และเพิ่มน้ำเปล่าแทน
• ใช้ Lactic Acid เพื่อปรับค่า pH ของคลีนเซอร์ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง pH 5.0-6.5) แทนที่จะใช้เพื่อประโยชน์ในการผลัดเซลล์ผิว
• พิจารณาเปลี่ยนหรือใช้ Vitamin B5 (Panthenol) เพิ่มเติมหรือแทน Vitamin B3 เนื่องจาก Panthenol มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิวและเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผิวแพ้ง่าย

คำขอสูตรคลีนเซอร์ของคลินิก

ขออภัย ทางเราไม่มีข้อมูลสูตรคลีนเซอร์เฉพาะของษิตาวรรณคลินิก หากคุณมีฉลากผลิตภัณฑ์ที่มีรายการส่วนประกอบทั้งหมด สามารถนำมาแบ่งปันได้ ทางเรายินดีช่วยวิเคราะห์ส่วนประกอบให้ค่ะ