ปัญหาเนื้อลิปบาล์มสี: เนื้อไม่เกาะตัวและสีติดทน

ถามโดย: naranporn.p เมื่อ: December 22, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังทำลิปบาล์มสีโดยใช้ส่วนผสมต่างๆ เช่น Beeswax, Shea Butter, Olive Oil, Coconut Oil, Natura Tec Plancil, Acticire, Flaxseed Oil, Soy Lecithin และเมื่อเติมสารให้สี เช่น Lake EasyMix หรือ ReadyMix เข้าไป เนื้อลิปบาล์มไม่เกาะตัวหรือเหลวเกินไป

จะทำอย่างไรให้ลิปบาล์มสีมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นและสีติดบนผิวได้ดีเหมือนลิปสติกคะ ทราบว่าแวกซ์อย่าง Polyethylene Wax ช่วยเรื่องการจ่ายสีได้ดีกว่า Beeswax ควรปรับสูตรอย่างไรดีคะ?

คำตอบ

ปัญหาการทำลิปบาล์มสี เนื้อไม่เกาะตัว

การเติมสารให้สี เช่น Lake EasyMix หรือ ReadyMix ลงในสูตรลิปบาล์ม บางครั้งอาจทำให้เนื้อสัมผัสและโครงสร้างของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป ทำให้เนื้อไม่เกาะตัวหรือเหลวเกินไป ปัญหานี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากเม็ดสีเป็นอนุภาคของแข็ง การเติมเม็ดสีเข้าไปจะทำให้สมดุลโดยรวมของส่วนที่เป็นของแข็ง (แวกซ์, บัตเตอร์) และส่วนที่เป็นของเหลว (น้ำมัน) ในสูตรเปลี่ยนแปลงไป

สูตรของท่านประกอบด้วย Beeswax, Shea Butter, Olive Oil, Coconut Oil, Natura Tec Plancil, Acticire, Flaxseed Oil, Soy Lecithin, สารให้สี และน้ำหอม

Beeswax เป็นแวกซ์ธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความข้นและให้สัมผัสที่เรียบเนียน แต่เป็นแวกซ์ที่ค่อนข้างนิ่ม มีจุดหลอมเหลวต่ำ (ประมาณ 62-63°C) เมื่อเทียบกับแวกซ์ชนิดอื่นที่ใช้ในเครื่องสำอางแบบแท่ง ข้อมูลผลิตภัณฑ์ระบุว่า Beeswax เพียงอย่างเดียวอาจให้ความแข็งไม่เพียงพอสำหรับผลิตภัณฑ์แบบแท่ง เช่น ลิปสติก และแนะนำให้ใช้ร่วมกับแวกซ์ที่แข็งกว่า เช่น Microcrystalline Wax หรือ Polyethylene Wax เพื่อให้โครงสร้างดีขึ้นและป้องกันการแตก

การเติมเม็ดสี แม้จะเป็นชนิดที่กระจายตัวในน้ำมันได้ง่ายอย่าง ReadyMix ก็เป็นการเพิ่มอนุภาคของแข็งเข้าไปในสูตร อนุภาคเหล่านี้จำเป็นต้องถูกแขวนลอยและยึดไว้ด้วยโครงสร้างของแวกซ์และบัตเตอร์ หากปริมาณหรือชนิดของแวกซ์ไม่เพียงพอที่จะรองรับอนุภาคเม็ดสีและน้ำมันเหลว สูตรอาจไม่เสถียรและไม่สามารถเซ็ตตัวได้อย่างถูกต้อง ทำให้เนื้อสัมผัสเหลวหรือเป็นน้ำมัน

แวกซ์ที่แข็งกว่า เช่น Polyethylene Wax (มีจุดหลอมเหลวประมาณ 88°C หรือ 113°C) มักถูกใช้ในเครื่องสำอางสีเพื่อเพิ่มโครงสร้าง ช่วยให้เม็ดสีกระจายตัวได้ดีขึ้น และเพิ่มการติดสีบนผิว การเพิ่มแวกซ์ที่แข็งกว่า เช่น Polyethylene Wax เข้าไปในสูตรของท่าน โดยอาจลดปริมาณ Beeswax ลงบางส่วน หรือเพิ่มปริมาณแวกซ์โดยรวม จะช่วยให้ได้โครงสร้างที่จำเป็นในการยึดเม็ดสีและน้ำมันไว้ด้วยกัน ทำให้ลิปบาล์มเซ็ตตัวได้ดีขึ้น

การที่ใช้ ReadyMix แล้วเนื้อเหลวกว่าเดิม อาจเกิดจากเบสออยล์เฉพาะที่ใช้ใน ReadyMix ทำปฏิกิริยาเชิงลบกับส่วนผสมอื่นในสูตรของท่าน หรือเพียงแค่เป็นการเพิ่มส่วนที่เป็นของเหลว/กระจายตัวเข้าไปมากขึ้น โดยไม่ได้ปรับส่วนที่เป็นของแข็งให้เหมาะสม

เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความเสถียรของลิปบาล์มสีของท่าน ลองพิจารณาปรับเปลี่ยนดังนี้:

  • ปรับสัดส่วนของแข็ง/ของเหลว: เพิ่มสัดส่วนของแวกซ์และบัตเตอร์ (เช่น Beeswax และ Shea Butter) ให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับน้ำมันเหลวในสูตร
  • เพิ่มแวกซ์ที่แข็งขึ้น: พิจารณาเพิ่มแวกซ์ที่แข็งกว่า เช่น Polyethylene Wax เข้าไปในสูตร นอกเหนือจากหรือแทนที่ Beeswax บางส่วน ซึ่งจะช่วยเพิ่มจุดหลอมเหลวและความแข็งของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ทำให้รองรับเม็ดสีได้ดีขึ้น
  • ปรับความเข้มข้นของสารให้สี: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปริมาณสารให้สีที่เติมเข้าไปเหมาะสมกับปริมาณส่วนที่เป็นของแข็งในสูตร การใช้เม็ดสีในปริมาณมากต้องการโครงสร้างแวกซ์ที่แข็งแรงขึ้น
  • ผสมให้เข้ากันดี: แม้สีชนิดที่กระจายตัวง่าย ก็ควรแน่ใจว่าผสมเข้ากันดีและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในส่วนผสมของน้ำมัน/แวกซ์ที่หลอมเหลวก่อนเท เพื่อป้องกันการตกตะกอนหรือเนื้อไม่สม่ำเสมอ

การปรับสมดุลของส่วนผสมที่เป็นของแข็งและของเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มแวกซ์ที่แข็งขึ้น น่าจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำให้ลิปบาล์มสีของท่านมีเนื้อสัมผัสที่คงตัวและมีโครงสร้างที่ดี

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Shea Butter (Refined , Deodorised)
Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
เครื่องสำอาง
FD&C Yellow No.5 Lake EasyMix™
FD&C Yellow No.5 Lake EasyMix™
เครื่องสำอาง
ReadyMix™ FD&C Yellow No.5 Lake (Oil Based)
ReadyMix™ FD&C Yellow No.5 Lake (Oil Based)
เครื่องสำอาง
Polyethylene Wax (Hard, Melting Point 88C)
Polyethylene Wax (Hard, Melting Point 88C)
เครื่องสำอาง