การวิเคราะห์สูตรเบื้องต้น

สวัสดีครับ จากสูตรที่คุณให้มา ผมได้ลองตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมหลักที่ใช้ในการสร้างเนื้อสัมผัส โดยเฉพาะ Light Cream Maker™ และ Pro Polymer™ ตามที่คุณ cosmeceutical7 ได้ให้คำแนะนำไว้ครับ

1. ความเข้ากันได้ของส่วนผสม

โดยทั่วไป ส่วนผสมที่คุณระบุมา เช่น Niacinamide, NAG, Aloevera Extract, Lemon peel bioferment, Phenoxyethanol และ Water สามารถเข้ากันได้ในสูตรเครื่องสำอางที่เป็นเบสหลักเป็นน้ำ อย่างไรก็ตาม ส่วนสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ Light Cream Maker™ ที่คุณใช้

จากข้อมูลของ Light Cream Maker™ (รหัสสินค้า 141) เป็นสารสร้างเนื้อครีมประเภท Oil-in-Water (O/W) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในสูตรที่มีเฟสน้ำมัน (Oil-phase) เป็นส่วนประกอบ โดยสามารถรองรับน้ำมันได้สูงสุด 20% แม้ว่าข้อมูลจะระบุว่าสามารถใช้ในเฟสน้ำ (Water-phase) เพียงอย่างเดียวเพื่อทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความหนืดได้ แต่ตัวอย่างสูตรที่ให้มาก็ยังคงมีส่วนประกอบของน้ำมันอยู่

นอกจากนี้ Light Cream Maker™ ยังมีความไวต่อ Electrolyte ซึ่งรวมถึงส่วนผสมบางตัวในสูตรของคุณ เช่น Aloe Vera Extract, Niacinamide และ NAG สารเหล่านี้อาจทำให้เนื้อครีมเหลวลงได้ การใช้ Light Cream Maker™ ในสูตรที่ไม่มีน้ำมันและมีส่วนผสมของ Electrolyte อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องความคงตัวและความเข้ากันได้ของเนื้อสัมผัสได้ง่ายกว่าสูตรที่มีเฟสน้ำมันครับ

ตามคำแนะนำของคุณ cosmeceutical7 การใช้ Light Cream Maker™ ในสูตรที่ไม่มีน้ำมันอาจไม่เหมาะสมนัก และแนะนำให้พิจารณาสารสร้างเนื้อครีมตัวอื่นที่สามารถขึ้นเนื้อครีมได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน หรือเปลี่ยนไปทำเป็นเนื้อเจลแทน

หากต้องการทำเป็นเนื้อเจล Pro Polymer™ (Gel Maker) (รหัสสินค้า 234) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นสารสร้างเนื้อเจลสำหรับสูตรที่เป็นเบสหลักเป็นน้ำ และมีความทนทานต่อ Electrolyte ได้ดีกว่า Light Cream Maker™ ครับ

2. pH ที่เหมาะสม

โดยทั่วไป Niacinamide และ NAG มีความคงตัวและทำงานได้ดีในช่วง pH ประมาณ 5-7 ซึ่งเป็นช่วง pH ที่เหมาะสมกับผิว Light Cream Maker™ สามารถทำงานได้ในช่วง pH กว้าง (2.5-11) ดังนั้น ในแง่ของช่วง pH ที่ Light Cream Maker™ ทำงานได้นั้น สูตรของคุณอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องความคงตัวของเนื้อสัมผัสอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ pH เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ระหว่าง Light Cream Maker™ กับส่วนผสมอื่นๆ โดยเฉพาะ Electrolyte และการไม่มีเฟสน้ำมัน

คุณอาจต้องปรับ pH ของสูตรให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิวและส่วนผสมหลัก (ประมาณ 5-7) หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว หากใช้ Light Cream Maker™ และพบปัญหาเนื้อเหลว อาจต้องพิจารณาปรับสูตรตามคำแนะนำเรื่อง Electrolyte ของ Light Cream Maker™ หรือเปลี่ยนไปใช้สารสร้างเนื้อตัวอื่นครับ

3. เนื้อครีมจะเหลวหรือข้นไปไหม

จากข้อมูลของ Light Cream Maker™ ที่ระบุว่าเหมาะสำหรับสูตรที่มีเฟสน้ำมัน และมีความไวต่อ Electrolyte การใช้ Light Cream Maker™ 1.5% ในสูตรที่ไม่มีน้ำมันและมีส่วนผสมของ Electrolyte (Niacinamide 4%, NAG 4%, Aloevera Extract 2%) มีความเป็นไปได้สูงที่เนื้อครีมจะออกมาเหลวกว่าที่คาดหวัง หรืออาจไม่สามารถขึ้นเนื้อครีมที่คงตัวได้ดีเท่าที่ควรครับ

ตามคำแนะนำของคุณ cosmeceutical7 หากต้องการเนื้อครีมโดยไม่มีน้ำมัน อาจต้องพิจารณาสารสร้างเนื้อครีมตัวอื่นที่ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ หรือหากยอมรับเนื้อเจลได้ การใช้ Pro Polymer™ (Gel Maker) จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าในการสร้างเนื้อสัมผัสในสูตรนี้ครับ

สรุป: สูตรนี้อาจมีปัญหาเรื่องความคงตัวของเนื้อสัมผัสเนื่องจากการใช้ Light Cream Maker™ ในสูตรที่ไม่มีเฟสน้ำมันและมีส่วนผสมของ Electrolyte หากต้องการเนื้อครีม อาจต้องปรับไปใช้สารสร้างเนื้อครีมตัวอื่นที่เหมาะสมกว่า หรือหากต้องการคงสูตรนี้ไว้ การเปลี่ยนไปใช้ Pro Polymer™ (Gel Maker) เพื่อให้ได้เนื้อเจลที่คงตัวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ การปรับ pH ให้อยู่ในช่วง 5-7 ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับผิวของ Niacinamide และ NAG ครับ