การวิเคราะห์สูตรมอยส์เจอไรเซอร์ที่คุณต้องการทำเอง

คุณได้เสนอสูตรสำหรับครีม/เจลมอยส์เจอไรเซอร์ที่เน้นเรื่องการลดสิว รอยสิว ผลัดเซลล์ เติมความชุ่มชื้น และลดการระคายเคือง นี่คือการวิเคราะห์สูตรของคุณตามคำถามที่คุณถาม:

1. สูตรสามารถผสมได้ไหม

การผสมสูตรนี้ตามรายการส่วนผสมที่ให้มามีความท้าทายบางประการ เนื่องจากส่วนผสมแต่ละชนิดมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน:

• ความไวต่ออุณหภูมิ: ThixoGel™ ต้องการความร้อน (ต่ำกว่า 80°C) เพื่อละลายและสร้างเนื้อเจล ในขณะที่ Encapsulated Salicylic Acid ควรหลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงกว่า 40°C และ Pep®-Acne ก็ควรหลีกเลี่ยงความร้อนเช่นกัน Glycolic Acid ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 60°C ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องมีขั้นตอนการผสมที่ระมัดระวัง โดยเริ่มจากการให้ความร้อนกับน้ำและ ThixoGel™ ก่อน จากนั้นจึงทำให้เย็นลงอย่างมากก่อนเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน
• การละลายของ Palmitamide MEA: Palmitamide MEA ไม่ละลายในน้ำโดยตรง คำอธิบายระบุว่าต้องละลายในเบสเฉพาะ เช่น น้ำมันบางชนิด หรือไกลคอล ด้วยความร้อน (70°C) ก่อนนำไปผสมในเฟสน้ำ สูตรปัจจุบันของคุณส่วนใหญ่เป็นน้ำและสารสร้างเนื้อเจล ซึ่งขาดเฟสที่เหมาะสมในการละลาย Palmitamide MEA อย่างถูกต้อง
• การกระจายตัวของ Encapsulated Salicylic Acid: ส่วนผสมนี้ต้องกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในเนื้อเจล ไม่ใช่ละลาย ต้องใช้การปั่นที่ละเอียดและอาจใช้เวลานาน (15-30 นาทีขึ้นอยู่กับอุปกรณ์) เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ตกตะกอนหรือจับตัวเป็นก้อน

ดังนั้น แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะสามารถนำมารวมกันได้ในทางทฤษฎี แต่ก็ต้องใช้กระบวนการผลิตที่เฉพาะเจาะจงและควบคุมอย่างระมัดระวัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเฟสที่แตกต่างกันและการจัดการอุณหภูมิ และการผสม Palmitamide MEA เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักนี้

2. ขาดส่วนผสมอะไรหรือไม่

มีส่วนประกอบสำคัญบางอย่างที่ขาดไป:

• สารกันเสีย: ด้วยปริมาณน้ำที่สูงและส่วนผสมหลายชนิด สูตรนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับรองความปลอดภัยและอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์
• สารปรับค่า pH: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของส่วนผสมออกฤทธิ์ เช่น Glycolic Acid (ซึ่งต้องการค่า pH ต่ำกว่า 4.0 เพื่อการผลัดเซลล์ผิว) และ Zinc PCA (ซึ่งละลายได้ดีที่สุดที่ค่า pH 4-6) คุณอาจจำเป็นต้องปรับค่า pH สุดท้ายของสูตร ค่า pH เริ่มต้นของส่วนผสมของคุณจะขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ใช้
• ตัวทำละลาย/ตัวนำพาสำหรับ Palmitamide MEA: ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น จำเป็นต้องมีตัวทำละลายหรือเฟสน้ำมันที่เหมาะสมเพื่อผสม Palmitamide MEA อย่างถูกต้อง

3. ถ้าต้องการให้สูตรมีความเหนอะหนะน้อย ชุ่มชื้นแต่ยังสบายผิว ควรปรับสูตรอย่างไร

ส่วนผสมหลายชนิดในสูตรของคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (HumecMax™, Acetamide MEA, Skin-Barrier™, Safe-B3™) ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่การรวมกันและเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสารให้ความชุ่มชื้นและสารสร้างเนื้อเจล อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ ในการปรับปรุงเนื้อสัมผัส:

• ปรับระดับสารให้ความชุ่มชื้น: แม้ว่า HumecMax™ จะมีประสิทธิภาพ แต่ 5% อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะในเนื้อเจล คุณอาจลองลดเปอร์เซ็นต์ลงเล็กน้อย (เช่น เหลือ 2-3%) หรือหาสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ ที่ให้ความรู้สึกเหนอะหนะน้อยกว่า
• ปรับระดับสารสร้างเนื้อเจล: 1% ThixoGel™ ให้โครงสร้างเจลที่ดี แต่การทดลองใช้เปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลงเล็กน้อย (เช่น 0.5-0.8%) อาจช่วยลดความเหนอะหนะได้ ในขณะที่ยังคงความหนืดเพียงพอที่จะแขวนลอย Encapsulated Salicylic Acid ได้
• เพิ่ม Emollient ชนิดบางเบา: การเพิ่ม Emollient ชนิด Ester หรือ Silicone ชนิดบางเบาที่ไม่เหนอะหนะในปริมาณเล็กน้อย (1-3%) สามารถช่วยปรับปรุงความรู้สึกบนผิว ลดความเหนอะหนะ และให้ความรู้สึกเรียบเนียนสบายผิวมากขึ้น โดยไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์รู้สึกหนัก ตัวอย่างเช่น Caprylic/Capric Triglyceride (มีอยู่ใน Skin-Barrier™ อยู่แล้ว แต่สามารถเพิ่มแยกต่างหากได้), Isononyl Isononanoate, หรือ Silicone ที่มีความหนืดต่ำ
• ตรวจสอบการปรับค่า pH ที่เหมาะสม: ค่า pH สุดท้ายของผลิตภัณฑ์สามารถส่งผลต่อความรู้สึกบนผิว การปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์ของคุณ (น่าจะเป็นกรดเล็กน้อย ประมาณ 4.0-5.0) ก็สามารถช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นได้

ด้วยการพิจารณาขั้นตอนการผสมอย่างรอบคอบ การเพิ่มส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไป เช่น สารกันเสียและสารปรับค่า pH และการปรับระดับสารสร้างเนื้อเจลและสารให้ความชุ่มชื้น พร้อมทั้งอาจเพิ่ม Emollient ชนิดบางเบา คุณจะสามารถสร้างมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเสถียรและให้ความรู้สึกที่ดีขึ้น พร้อมคุณสมบัติตามที่คุณต้องการได้