ปัญหาโลชั่นแยกชั้นและเทคนิคการทำอิมัลชันที่ถูกต้อง

ถามโดย: jn_andy เมื่อ: May 20, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังทำโลชั่นโดยใช้ส่วนผสมตาม Phase ต่างๆ ดังนี้:

  • Phase A: Water, Disodium EDTA, Allantoin, Glycerin, Butylene Glycol, Sodium PCA, Goat Milk, Hydrolyzed Milk Protein
  • Phase B+C: Milk Lotion Maker, Fractionated Coconut Oil, Cyclomethicone, Dimethicone Medium, Cetearyl Alcohol
  • Phase D: Phenoxyethanol SA, Vitamin E, น้ำหอม

แต่โลชั่นเกิดการแยกชั้น อยากทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และมีวิธีการทำอิมัลชันที่ถูกต้องสำหรับส่วนผสมเหล่านี้ โดยเฉพาะส่วนผสมใน Phase A ที่ไม่ทนความร้อน และการใช้ Milk Lotion Maker เพื่อให้ได้เนื้อโลชั่นที่คงตัว ไม่แยกชั้นได้อย่างไร?

คำตอบ

จากสูตรและคำแนะนำของทีมงาน การแยกชั้นของโลชั่นน่าจะเกิดจากการที่ส่วนของน้ำ (Phase A) ไม่ได้ถูกทำให้อุ่นในอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำมัน (Phase B+C) ที่อุ่นแล้ว การทำอิมัลชันที่ถูกต้องจำเป็นต้องใช้อุณหภูมิของทั้งสองส่วนใกล้เคียงกันและสูงพอ (โดยทั่วไปประมาณ 70-80°C สำหรับอิมัลชันหลายชนิด) ในขณะที่ทำการผสมเข้าด้วยกัน

วิธีแก้ไขและป้องกันการแยกชั้น ให้ทำตามขั้นตอนการทำอิมัลชันที่ทีมงานแนะนำดังนี้ค่ะ:

  1. เตรียมส่วน A และ B+C: แยกส่วนผสมใน Phase A ออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ทนความร้อนได้ (น้ำ, Disodium EDTA, Allantoin, Glycerin, Butylene Glycol, Sodium PCA, Goat Milk) และกลุ่มที่ไม่ทนความร้อน (Hydrolyzed Milk Protein) นำส่วนผสม Phase A กลุ่มที่ทนความร้อน และส่วนผสม Phase B+C ทั้งหมด (Milk Lotion Maker, Fractionated Coconut Oil, Cyclomethicone, Dimethicone Medium, Cetearyl Alcohol) ไปอุ่นแยกกัน โดยให้อุณหภูมิสูงถึงอย่างน้อย 70°C
  2. ผสมทั้งสองส่วน: เมื่อส่วนผสมทั้งสองส่วนมีอุณหภูมิสูงถึงอย่างน้อย 70°C เท่ากันแล้ว ค่อยๆ เทส่วนของน้ำ (Phase A ที่อุ่นแล้ว) ลงในส่วนของน้ำมัน (Phase B+C ที่อุ่นแล้ว) พร้อมกับปั่นหรือคนอย่างต่อเนื่องและแรงพอสมควร ผสมต่อไปจนได้เนื้อโลชั่นที่เป็นอิมัลชันที่คงตัว
  3. การทำความเย็น: ปิดความร้อนและคนอย่างช้าๆ ต่อไปขณะที่เนื้อโลชั่นเย็นตัวลง
  4. เติมส่วน D และส่วนผสมที่ไม่ทนความร้อน: เมื่อโลชั่นเย็นลงจนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 50°C จึงค่อยเติมส่วนผสมใน Phase D (Phenoxyethanol SA, Vitamin E, น้ำหอม) และ Hydrolyzed Milk Protein ที่แยกไว้ในตอนแรก คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี

การทำให้อุณหภูมิของทั้งสองส่วน (น้ำและน้ำมัน) อยู่ในระดับที่ถูกต้อง (อย่างน้อย 70°C) ขณะผสมเข้าด้วยกัน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ Milk Lotion Maker ซึ่งเป็นสารประสานเนื้อ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างอิมัลชันที่คงตัว ไม่แยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Allantoin
Allantoin
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Sodium PCA 50%
Sodium PCA 50%
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Goat Milk Powder (Preservative-Free)
Goat Milk Powder (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)
Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)
เครื่องสำอาง
Dimethicone (Light/50, Low-Odor)
Dimethicone (Light/50, Low-Odor)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Hydrolyzed Milk (Casein) Protein
Hydrolyzed Milk (Casein) Protein
เครื่องสำอาง
Milk Lotion Maker™
Milk Lotion Maker™
เครื่องสำอาง