การแก้ไขปัญหาผิวแห้งจากเซรั่มวิตามินซีแบบเสถียร

ดูเหมือนว่าคุณมีอาการผิวแห้งจากการใช้ Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับผลิตภัณฑ์วิตามินซีบางชนิด และเป็นสิ่งที่ดีที่ผิวของคุณกลับมาเป็นปกติหลังจากหยุดใช้ค่ะ

Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum มีค่า pH ต่ำ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 2-3 แม้ว่าค่า pH ที่ต่ำนี้จะช่วยให้วิตามินซีในรูปแบบ L-Ascorbic Acid มีความเสถียรและดูดซึมได้ดี แต่ก็มีความเป็นกรดสูงและอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผิวแห้งได้สำหรับบางสภาพผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแห้งหรือขาดน้ำอยู่แล้ว

หากคุณยังต้องการใช้วิตามินซีเพื่อประโยชน์ต่อผิว แต่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาผิวแห้ง คุณอาจพิจารณาวิตามินซีในรูปแบบอื่นที่ถูกพัฒนาให้มีค่า pH สูงขึ้นและมีความเป็นกรดน้อยลง ซึ่งเป็นมิตรต่อผิวมากกว่า ตัวเลือกบางส่วนได้แก่:

• Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C): วิตามินซีรูปแบบนี้มีความเสถียรที่ค่า pH สูงขึ้น (6.5-6.8) และมักจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเท่า
• Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): เป็นวิตามินซีรูปแบบที่ละลายในน้ำมัน โดยทั่วไปใช้ในสูตรที่มีค่า pH ประมาณ 5.0-5.5 ซึ่งมีความเป็นกรดน้อยกว่า และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ด้วย
• Ascorbyl Glucoside 20% Gel (MaxActivate™): เป็นวิตามินซี Ascorbyl Glucoside ในรูปแบบเจลพร้อมใช้ ซึ่งน่าจะถูกพัฒนาให้มีค่า pH ที่เหมาะสมกับผิว

เมื่อใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ใดๆ รวมถึงวิตามินซี ควรตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว หากคุณลองใช้วิตามินซีตัวอื่นแล้วยังคงมีอาการผิวแห้ง ให้ลองลดความถี่ในการใช้ลง หรือผสมกับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนทาได้ค่ะ

เนื่องจากอาการผิวแห้งหายไปเมื่อคุณหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ ก็เป็นการยืนยันว่าเซรั่มตัวนั้นน่าจะเป็นสาเหตุ การเลือกใช้วิตามินซีในรูปแบบหรือสูตรอื่นที่มีค่า pH สูงขึ้นเป็นแนวทางที่ดีหากคุณต้องการนำส่วนผสมนี้กลับมาใช้ในกิจวัตรการดูแลผิวของคุณค่ะ