พิจารณาสูตร Night Cream: เนื้อสัมผัส น้ำ และการกันเสีย
คำถาม
ช่วยปรับให้หน่อยครับ จากสูตรที่ส่งมา ขอบคุณมากๆๆๆ ครับ
สูตร Night Cream:
Repair Activator™
10%Acetyl Hexapeptide-8
(Argireline
) 8%Pal-GHK
,Pal-GQPR
(Matrixyl 3000
) 5%Ectoine
(Ectoin
) 1%Quick-Coll®
2%Hyaluronic Acid Elastomer
4%Safe-B3™
(Vitamin B3, Niacinamide
, Switzerland) 5%GlucoBright™
(Acetyl glucosamine
) 3%TXC™ (Cetyl Tranexamate HCl)
2%- Natural
Bisabolol
1% Madecassoside
-80 (Centella Asiatica Extract
) 1%Yeast Resurface
3%Yeast Radiance™
3%Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)
5%Water-Capsule™ (Water-in-Oil Cream)
3%Odor-Kill™
(ละลายน้ำ) 1%น้ำกลั่น
ปราศจากเชื้อ 20%Galactomyces Ferment Filtrate
(aka.Pitera
) 20%Dimethyl Isosorbide (DMI)
3%
จากสูตรนี้:
- สัดส่วน ตัวที่ 15 (
Water-Capsule™
) เหมาะสำหรับเนื้อครีมมั้ย? - สารตัวที่ 17 (
น้ำกลั่น
) และ 18 (Galactomyces Ferment Filtrate
) ควรเป็นอย่างไร? - สูตรนี้ต้องเติม
สารกันเสีย
มั้ยครับ?
ขอบคุณอีกครั้งครับ
คำตอบ
การพิจารณาสูตร Night Cream
สูตรของคุณมีการคัดเลือกส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ดีมากครับ ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การลดเลือนริ้วรอย (เปปไทด์, Madecassoside, Beta Glucan), การให้ความชุ่มชื้น (Hyaluronic Acid Elastomer, Galactomyces Ferment Filtrate), การปรับผิวให้กระจ่างใส (Safe-B3™, GlucoBright™, TXC™), การปลอบประโลมผิว (Natural Bisabolol, Madecassoside-80) และการผลัดเซลล์ผิว (Yeast Resurface, Yeast Radiance™) การใส่ Dimethyl Isosorbide (DMI) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาส่วนผสมออกฤทธิ์เหล่านี้เข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นครับ
มาตอบคำถามของคุณทีละข้อนะครับ:
1. ส่วนผสมลำดับที่ 15 (Water-Capsule™) เหมาะสำหรับเนื้อครีมหรือไม่?
ใช่ครับ Water-Capsule™ ถูกออกแบบมาให้เป็น Emulsifier ชนิด Water-in-Oil (น้ำในน้ำมัน) ที่เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อครีม รวมถึง Night Cream ด้วยครับ คุณสมบัติพิเศษของมันคือสามารถสร้างเนื้อครีมแบบ Water-in-Oil ได้โดยใช้น้ำมันในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย (5-20%) ซึ่งช่วยให้เนื้อครีมไม่เหนอะหนะเหมือน Emulsion แบบ Water-in-Oil ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ Water-Capsule™ เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่เหมาะสม โดยทั่วไปจำเป็นต้องมีการใช้ "Light Cream Maker" หรือ "Satin Mousse" ในส่วนของน้ำ (Water Phase) ด้วยครับ ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยสร้างโครงสร้างเจลในส่วนของน้ำก่อนที่จะนำส่วนของน้ำมัน (ที่มี Water-Capsule™ และน้ำมันต่างๆ) มาผสมเข้าด้วยกัน สูตรปัจจุบันของคุณไม่ได้ระบุ Light Cream Maker หรือ Satin Mousse ไว้ครับ คุณอาจจำเป็นต้องเพิ่มส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งนี้เข้าไปเพื่อให้ได้เนื้อครีมตามที่ต้องการด้วย Water-Capsule™
2. สารตัวที่ 17 (น้ำกลั่น) และ 18 (Galactomyces Ferment Filtrate) ควรเป็นอย่างไร?
- น้ำกลั่น (#17): การใช้น้ำบริสุทธิ์หรือน้ำกลั่นที่ผ่านการฆ่าเชื้อ เช่น Purified Water, TDS Limit 1PPM ถือว่าเหมาะสมและแนะนำสำหรับการผลิตเครื่องสำอาง เพื่อให้มั่นใจในความบริสุทธิ์และหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน การใช้น้ำกลั่น 20% ในสูตรของคุณเหมาะสมครับ
- Galactomyces Ferment Filtrate (#18): มีหลายชนิดให้เลือกใช้ครับ ชนิดมาตรฐาน (aka Pitera) มักจะมี Butylene Glycol เป็นส่วนประกอบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารกันเสียได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีชนิดที่ไม่มี Glycol, Glycerin และ Preservative ซึ่งเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายมาก ทั้งสองชนิดสามารถใช้ในสูตรของคุณที่ 20% ได้ครับ อย่างไรก็ตาม การเลือกชนิดมีผลต่อความจำเป็นในการใช้สารกันเสียในภาพรวม (ดูข้อถัดไป) ข้อมูลของชนิดมาตรฐานระบุว่าอาจมีกลิ่นเมื่อเก็บไว้นานเนื่องจากการหมักของยีสต์ หากไม่มีการป้องกันการเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีพอ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้สารกันเสียที่เพียงพอ
3. สูตรนี้ต้องเติมสารกันเสียไหมครับ?
ใช่ครับ จำเป็นอย่างยิ่ง สูตรของคุณมีส่วนประกอบของน้ำในปริมาณมาก (น้ำกลั่น 20% + Galactomyces Ferment Filtrate 20% รวมถึงน้ำจากส่วนผสมเหลวอื่นๆ) และมีส่วนผสมที่ได้จากการหมักหลายชนิด (Repair Activator™, Galactomyces Ferment Filtrate, Yeast Resurface, Yeast Radiance™, Beta Glucan) สูตรที่มีส่วนของน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีส่วนผสมที่ได้จากการหมักหรือจากธรรมชาติ มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย ยีสต์ รา)
หากไม่มีสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ผลิตภัณฑ์ของคุณมีแนวโน้มที่จะเสียได้อย่างรวดเร็ว อาจภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส และอาจเป็นอันตรายต่อผิวหากมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค
คุณจำเป็นต้องเพิ่มสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสมลงในสูตรของคุณเพื่อป้องกันการเสื่อมเสียของผลิตภัณฑ์ เมื่อเลือกสารกันเสีย ควรพิจารณาช่วง pH ของสูตรสำเร็จของคุณด้วย สารกันเสียที่เหมาะสมบางตัวที่พบจากการค้นหา ได้แก่:
- Global Guard™ 221: สารกันเสีย Broad-spectrum ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ละลายน้ำได้ มีประสิทธิภาพในช่วง pH 2-7 อัตราการใช้ 0.5-1.1%
- Mild Preserved™ COS: สารกันเสีย Broad-spectrum ละลายน้ำ ไม่มีกลิ่น มีประสิทธิภาพในวงกว้างช่วง pH 2-8 อัตราการใช้ 0.75-1.5%
- NaturePreserve™ LB2: สารต้านเชื้อแบคทีเรียจากธรรมชาติ ละลายน้ำได้ มีประสิทธิภาพสูงต่อแบคทีเรียและเชื้อราในค่า pH ต่ำ (2.0-6.5) อัตราการใช้ 0.5-1.0%
ควรปฏิบัติตามอัตราการใช้และวิธีการผสมที่แนะนำสำหรับสารกันเสียที่คุณเลือกใช้อย่างเคร่งครัด และขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการทดสอบ Challenge Test กับสูตรสำเร็จของคุณเพื่อยืนยันว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพเพียงพอครับ
สรุปข้อแนะนำ:
- พิจารณาเพิ่ม Light Cream Maker หรือ Satin Mousse ในส่วนของน้ำ เพื่อช่วยให้ได้เนื้อครีมตามที่ต้องการเมื่อใช้ Water-Capsule™
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้น้ำ Purified Water และเลือกชนิดของ Galactomyces Ferment Filtrate ที่เหมาะสม (แบบมีหรือไม่มีสารกันเสีย/ไกลคอล) เนื่องจากมีผลต่อความต้องการสารกันเสียโดยรวม
- สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเพิ่มสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ลงในสูตรของคุณเพื่อป้องกันการปนเปื้อนและการเสื่อมเสียของผลิตภัณฑ์ เลือกสารกันเสียที่เหมาะสมกับช่วง pH ของสูตรและใช้อัตราที่แนะนำ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)

Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)

Water-Capsule™ (Water-in-Oil Cream)

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Yeast Resurface

Yeast Radiance™

Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)

Quick-Coll®

Odor-Kill™

Hyaluronic Acid Elastomer (Hyacross Gel)

TXC™ (Cetyl Tranexamate HCl)

Dimethyl Isosorbide (DMI)
