รีวิวสูตรครีมลดริ้วรอยและผิวขาว

ถามโดย: noomnumber1 เมื่อ: August 09, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ผมกำลังพัฒนาสูตรครีมสำหรับลดริ้วรอยและผิวขาว ผมเข้าใจถูกต้องแล้วว่าในการใช้ DMAE ชนิดผงความเข้มข้น 40% เพื่อให้ได้ DMAE ตัวออกฤทธิ์ 4% ในสูตร ผมต้องใช้ผงตัวนี้ 10% ของสูตรทั้งหมด

รบกวนช่วยรีวิวรายการส่วนประกอบที่เสนอมานี้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเหมาะสมและส่วนประกอบที่ขาดหายไปสำหรับการทำเนื้อครีมที่เน้นผลลัพธ์ดังกล่าวด้วยครับ

สูตรที่ผมเสนอมีส่วนประกอบดังนี้:

  • น้ำ (Water)
  • น้ำมัน Rose Hip Oil
  • Vitamin B3 (3%)
  • N-Acetyl-D Glucosamine (3%)
  • Matrixyl 3000 (5%)
  • Argireline (3%)
  • DMAE (10% ของผง 40%, ได้ตัวออกฤทธิ์ 4%)
  • Vitamin B5
  • Allantoin
  • L-Tyrosine (1%)
  • Apple Stem Cell Extract (0.5%)
  • Pro Polymer
  • Activated Resorcinol
  • Licorice Extract
  • Phenoxyethanol

คำตอบ

โอเคครับ ผมสามารถช่วยรีวิวสูตรครีมที่คุณเสนอมาสำหรับลดริ้วรอยและผิวขาวได้ครับ

ก่อนอื่น เรื่องเปอร์เซ็นต์ของ DMAE จากบทสนทนาที่คุณแนบมานั้นถูกต้องแล้วครับ ในการที่จะได้ DMAE ตัวออกฤทธิ์ 4% ในสูตรสุดท้ายของคุณ โดยใช้ DMAE ชนิดผงความเข้มข้น 40% คุณจะต้องใส่ผงตัวนี้ 10% ของสูตรทั้งหมด (10% ของ 40% = 4%) ถ้าใช้ชนิดเหลวความเข้มข้น 20% ก็จะต้องใส่ของเหลวตัวนั้น 20% (20% ของ 20% = 4%) ดังนั้น การใช้ผง 10% เพื่อให้ได้ DMAE ตัวออกฤทธิ์ 4% นั้นถูกต้องแล้วครับ

ทีนี้ มาดูส่วนประกอบโดยรวมในสูตรของคุณกันครับ:

จุดเด่น:

  • คุณได้เลือกใช้ส่วนผสมหลายตัวที่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับทั้งการลดริ้วรอย (Matrixyl 3000, Argireline, DMAE) และผิวขาว (Activated Resorcinol, Vitamin B3, N-Acetyl-D Glucosamine, Licorice Extract)
  • ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์หลักๆ เช่น Vitamin B3 (3%), N-Acetyl-D Glucosamine (3%), Matrixyl 3000 (5%), Argireline (3%), และ DMAE (4% ตัวออกฤทธิ์) อยู่ในระดับที่ให้ผลดี
  • Vitamin B5 และ Allantoin เป็นส่วนผสมที่ดีมากสำหรับการปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น
  • Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่จำเป็น
  • Pro Polymer จำเป็นสำหรับการสร้างเนื้อครีม

ส่วนผสมที่อาจพิจารณาตัดออกหรือไม่สำคัญเท่าตัวอื่นสำหรับเป้าหมายหลัก:

  • L-Tyrosine (1%): แม้จะเป็นกรดอะมิโน แต่ประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาวเมื่อทาภายนอกยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจนเท่าส่วนผสมผิวขาวตัวอื่นๆ ของคุณ คุณอาจพิจารณาตัดตัวนี้ออกได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพด้านผิวขาวมากนัก
  • Apple Stem Cell Extract (0.5%): หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนประโยชน์ด้านการลดริ้วรอยของสารสกัดสเต็มเซลล์จากแอปเปิ้ลเมื่อทาภายนอกมักจะมีการถกเถียงและไม่แข็งแรงเท่าส่วนผสมอื่นๆ เช่น เปปไทด์ หรือเรตินอยด์ คุณอาจพิจารณาตัดตัวนี้ออกได้หากต้องการทำให้สูตรง่ายขึ้นหรือปรับปรุงประสิทธิภาพ

ส่วนประกอบสำคัญที่ ขาดหายไป สำหรับการทำ "ครีม":

  • สารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier): ครีมคืออิมัลชันของน้ำและน้ำมัน ในสูตรของคุณมีทั้งส่วนที่เป็นน้ำ (น้ำ, สารออกฤทธิ์ส่วนใหญ่) และส่วนที่เป็นน้ำมันเล็กน้อย (Rose Hip Oil) คุณ จำเป็นต้องมี สารอิมัลซิไฟเออร์เพื่อช่วยให้น้ำและน้ำมันเข้ากันได้ดีและไม่แยกชั้น หากไม่มีตัวนี้ คุณจะไม่ได้เนื้อครีมที่คงตัว
  • สารปรับค่า pH (pH Adjuster): สูตรเครื่องสำอางส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีการปรับค่า pH เพื่อให้สูตรมีความคงตัว สารออกฤทธิ์ทำงานได้ดีที่สุด (สารออกฤทธิ์บางตัวทำงานได้ดีในช่วง pH ที่เฉพาะเจาะจง) และเข้ากันได้กับผิว คุณอาจต้องใช้กรด (เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid) หรือเบส (เช่น Sodium Hydroxide) เพื่อปรับค่า pH สุดท้าย

ส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจเพิ่มได้ (เป็นการปรับปรุงเพิ่มเติม):

  • สารให้ความชุ่มชื้น/สารเคลือบผิวเพิ่มเติม (More Emollients/Humectants): แม้ว่าจะมี Vitamin B5 และ Allantoin แล้ว การเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น Glycerin, Propanediol, หรือน้ำมัน/เอสเทอร์เนื้อบางเบาอื่นๆ สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัส ความรู้สึกหลังใช้ และความชุ่มชื้นของครีมได้
  • สารคีเลต (Chelating Agent): ส่วนผสมอย่าง Disodium EDTA สามารถช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตรได้โดยการจับกับไอออนของโลหะที่อาจปนเปื้อนมาในน้ำหรือส่วนผสมอื่นๆ
  • สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant): การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะ เช่น Vitamin E หรือ Ferulic Acid สามารถให้ประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผิวและช่วยป้องกันสูตรจากการเสื่อมสภาพเนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน

สรุป:

สูตรของคุณมีการเลือกใช้สารออกฤทธิ์ที่ดีสำหรับเป้าหมายที่คุณต้องการ ปัญหาหลักคือการขาดส่วนประกอบสำคัญที่จำเป็นสำหรับการสร้างเนื้อครีมที่คงตัว (สารอิมัลซิไฟเออร์, สารปรับค่า pH) คุณอาจพิจารณาตัด L-Tyrosine และอาจรวมถึง Apple Stem Cell Extract ออกได้หากต้องการทำให้สูตรง่ายขึ้น และต้องแน่ใจว่าได้คำนวณและใส่ DMAE ชนิดผงในปริมาณที่ถูกต้อง (10% ของผงความเข้มข้น 40%)

อย่าลืมทดสอบความคงตัวและความปลอดภัยของสูตรที่ทำเสร็จแล้วด้วยนะครับ