การประเมินสูตรครีมของคุณ

สูตรที่คุณเสนอมามีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ดีหลากหลายชนิดที่มุ่งเป้าไปที่ปัญหาผิวหลายอย่าง เช่น การลดเลือนริ้วรอย การทำให้ผิวกระจ่างใส และการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว พร้อมทั้งมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย การผสมผสานของเปปไทด์ (Pep-Coll, Acetyl Hexapeptide-8, Wrinkle-Lax), Niacinamide (Safe B3), Acetyl Glucosamine (GlucoBright), Japanese Cedar และ Repair Activator มีแนวโน้มที่ดีในการจัดการกับริ้วรอย ความกระชับ จุดด่างดำ และสุขภาพผิวโดยรวม

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาบางประการ:

• ความเข้มข้นของสารสร้างเนื้อครีม: คุณใช้ Light Cream Maker 1% ร่วมกับ Rice Bran Oil 10% และ Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) 10% Repair Activator เป็นสารอิเล็กโทรไลต์ และความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลต์ที่สูงสามารถลดความหนืดที่สร้างขึ้นโดย Light Cream Maker ได้ Light Cream Maker 1% อาจไม่เพียงพอที่จะสร้างเนื้อครีมที่คงตัวและข้นพอเหมาะกับส่วนของน้ำมัน 20% (Rice Bran Oil 10% + Light Cream Maker เอง) และ Repair Activator 10% คุณอาจต้องเพิ่มความเข้มข้นของ Light Cream Maker เป็น 1.5% หรือ 2% เพื่อให้ได้อิมัลชันที่คงตัวและมีเนื้อสัมผัสที่ต้องการ
• ระดับ pH: ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดในสูตรของคุณทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH ที่เฉพาะเจาะจง (เช่น Acetyl Hexapeptide-8, Japanese Cedar, Safe B3, GlucoBright, Repair Activator) ช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับส่วนใหญ่เหล่านี้ดูเหมือนจะอยู่ระหว่าง pH 4.0 ถึง 6.5 คุณควรตรวจสอบ pH ของครีมที่ทำเสร็จแล้วและปรับหากจำเป็นโดยใช้สารปรับ pH ที่เหมาะสม

โดยรวมแล้ว การเลือกส่วนผสมนั้นดีสำหรับเป้าหมายที่คุณระบุและผิวแพ้ง่าย แต่ระบบการสร้างเนื้อครีมอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความคงตัวและเนื้อสัมผัส

ขั้นตอนการผสมที่แนะนำ

นี่คือขั้นตอนการผสมที่แนะนำ โดยคำนึงถึงความสามารถในการละลายและความไวต่อความร้อนของส่วนผสม:

1. ส่วนน้ำ (Water Phase): รวม DI Water, Allantoin, Safe B3, GlucoBright, Japanese Cedar และ Repair Activator ในบีกเกอร์ คนหรือผสมเบาๆ จนผงที่ละลายน้ำได้ทั้งหมดละลายและของเหลวกระจายตัวเข้ากันดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Allantoin ละลายหมดแล้ว (มีความสามารถในการละลายในน้ำที่อุณหภูมิห้องจำกัด แต่ 0.2% ควรจะละลายได้เมื่อผสม)
2. ส่วนน้ำมัน (Oil Phase): ในบีกเกอร์แยกต่างหาก รวม Rice Bran Oil และ Light Cream Maker ผสมจนกระจายตัวสม่ำเสมอ
3. การทำอิมัลชัน: ค่อยๆ เติมส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำพร้อมกับคนหรือโฮโมจีไนซ์อย่างต่อเนื่อง ผสมต่อไปจนได้เนื้อครีมที่สม่ำเสมอ หากเนื้อครีมเหลวเกินไป คุณอาจต้องเพิ่มความเข้มข้นของ Light Cream Maker ในส่วนน้ำมันและทำอิมัลชันซ้ำ
4. การทำให้เย็นและการเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: เมื่อได้เนื้อครีมแล้ว ปล่อยให้เย็นลงต่ำกว่า 40°C เติม Pep-Coll, Acetyl Hexapeptide-8, Wrinkle-Lax และ Mild Preserved Eco ผสมเบาๆ จนเข้ากันดี หลีกเลี่ยงการผสมด้วยความเร็วสูงซึ่งอาจทำลายโครงสร้างโพลีเมอร์ของสารสร้างเนื้อครีมได้
5. การปรับ pH: ตรวจสอบ pH ของครีมที่ทำเสร็จแล้วโดยใช้เครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH หากอยู่นอกช่วง 4.0-6.5 ให้ปรับโดยใช้สารละลายกรดซิตริกเจือจาง (เพื่อลด pH) หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ (เพื่อเพิ่ม pH) โดยเติมทีละหยดและผสมให้เข้ากันดีก่อนตรวจสอบซ้ำ
6. การบรรจุ: เมื่อปรับ pH แล้วและเนื้อครีมสม่ำเสมอ ให้บรรจุลงในภาชนะที่สะอาด

อายุการเก็บรักษาและการจัดเก็บ

อายุการเก็บรักษาของครีมที่ทำเสร็จแล้วขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงความสะอาดของพื้นที่ทำงานและอุปกรณ์ บรรจุภัณฑ์ และสภาพการจัดเก็บ ด้วย Mild Preserved Eco ที่ 1% ครีมของคุณควรได้รับการเก็บรักษาอย่างเพียงพอ หากจัดเก็บอย่างเหมาะสมที่ อุณหภูมิห้อง (ต่ำกว่า 30°C) ห่างจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง โดยทั่วไปคุณสามารถคาดหวังอายุการเก็บรักษาได้ 1 ถึง 2 ปี เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุดของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน เช่น เปปไทด์และ Repair Activator แนะนำให้เก็บครีมไว้ใน ตู้เย็น (4-8°C) ซึ่งจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

การเห็นผลลัพธ์ที่สังเกตได้ภายในหนึ่งเดือนเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประโยชน์บางอย่าง:

• ความชุ่มชื้นและความนุ่มของผิว: คุณน่าจะเห็นการปรับปรุงในด้านความชุ่มชื้นและความนุ่มของผิวภายในสองสามสัปดาห์แรก เนื่องจากส่วนผสมเช่น Rice Bran Oil, Safe B3, GlucoBright, Japanese Cedar และ Allantoin
• การลดการระคายเคือง: Allantoin และ Japanese Cedar สามารถช่วยปลอบประโลมผิวและลดความไวของผิวได้ค่อนข้างเร็ว
• การปรับปรุงริ้วรอยตื้นๆ ในเบื้องต้น: เปปไทด์ (Pep-Coll, Acetyl Hexapeptide-8) และ Wrinkle-Lax อาจเริ่มแสดงผลกับริ้วรอยตื้นๆ ภายในหนึ่งเดือน แต่การลดเลือนริ้วรอยลึกอย่างมีนัยสำคัญมักต้องใช้เวลาที่นานกว่า (เช่น 8-12 สัปดาห์ขึ้นไป)
• การทำให้ผิวกระจ่างใส/ฝ้า/กระ: Safe B3 และ GlucoBright ทำงานกับเม็ดสีเมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจเริ่มเห็นความกระจ่างใสของผิวเล็กน้อยภายในหนึ่งเดือน แต่การลดเลือนฝ้าหรือกระที่สังเกตได้ชัดเจนน่าจะใช้เวลาหลายเดือนของการใช้อย่างต่อเนื่อง
• ขนาดรูขุมขนและความกระชับ: การเปลี่ยนแปลงขนาดรูขุมขนและความกระชับโดยรวมของผิวมักใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ซึ่งมักต้องใช้เวลาหลายเดือนของการใช้อย่างสม่ำเสมอ

ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการเห็นประโยชน์สูงสุดของสูตรนี้ โปรดจำไว้ว่าควรทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนทาทั่วใบหน้าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกังวลเรื่องผิวแพ้ง่าย

คำแนะนำในการปรับปรุงสูตร

ดังที่กล่าวไป การปรับปรุงหลักที่ควรพิจารณาคือการเพิ่มความเข้มข้นของ Light Cream Maker เป็น 1.5% หรือ 2% เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่คงตัวและมีเนื้อสัมผัสที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี Repair Activator 10% คุณสามารถทดลองที่ 1.5% ก่อนและเพิ่มเป็น 2% หากจำเป็น รักษาเปอร์เซ็นต์รวมของส่วนผสมให้เป็น 100% โดยลดเปอร์เซ็นต์ของ DI Water ลงตามสัดส่วนที่เหมาะสม

ตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่ม Light Cream Maker เป็น 1.5% ให้ลด DI Water เหลือ 59.9% หากคุณเพิ่ม Light Cream Maker เป็น 2% ให้ลด DI Water เหลือ 59.4%.