รีวิวสูตรเซรั่มปรับปรุงใหม่: ความเข้ากันได้, การผลิตเชิงพาณิชย์, และเนื้อสัมผัสไม่เหนอะหนะ

สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุงใหม่นะคะ ทีมงานได้ตรวจสอบแล้วค่ะ

การผสม:
ขั้นตอนการผสมที่คุณสมาชิกได้แบ่งเป็น 4 ส่วน (A, B, C, D) นั้นเป็นวิธีที่ละเอียดและสามารถทำได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม วิธีที่ทีมงานแนะนำก่อนหน้านี้ที่ให้ผสมน้ำกับ Reshape Gel ก่อนในขั้นตอนแรก แล้วจึงค่อยๆ เติมส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดลงไปและปั่นให้เข้ากัน (ยกเว้น Phospholipid ที่เติมสุดท้าย) อาจจะช่วยให้ขั้นตอนง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นค่ะ ทั้งสองวิธีสามารถใช้ได้ผลค่ะ

การตรวจสอบสูตร (สูตรที่ปรับปรุงครั้งที่ 2 ตามขั้นตอนการผสม A, B, C, D):

1. ส่วนผสมเข้ากันได้ดีไหม มีส่วนผสมใดที่ควรเพิ่ม/ลดบ้างคะ:

   • ส่วนผสมในสูตรนี้โดยรวมเข้ากันได้ดีค่ะ และได้ตัด Triethanolamine ออกตามคำแนะนำก่อนหน้าแล้ว ซึ่งถูกต้องแล้วค่ะ
   • ปริมาณรวมของสารออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ในสูตรนี้อยู่ที่ประมาณ 15.5% ซึ่งอยู่ในช่วงที่เหมาะสม (ไม่เกิน 20-30% ตามคำแนะนำเดิม) ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่หนักหรือเหนอะหนะจนเกินไปค่ะ
   • ส่วนผสมที่เลือกมามีความหลากหลายและครอบคลุมเป้าหมายเรื่องผิวกระจ่างใส (Yeast Radiance, Ethyl Ascorbic Acid, Tranexamic Acid, 4MSK, MSH White Absorb, Activated Resorcinol), ลดจุดด่างดำ (กลุ่ม Whitening), กระชับรูขุมขน (Carnitine), และให้ความชุ่มชื้น/ปลอบประโลมผิว (Panthenol, Creatine, Hyaluronic Acid Nano/Standard, Bisabolol, Flaxseed Oil, Phospholipid) ถือเป็นสูตรที่มีศักยภาพที่ดีค่ะ
   • ไม่จำเป็นต้องเพิ่มหรือลดส่วนผสมหลักในตอนนี้ค่ะ สูตรนี้มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีได้

2. หากต้องการทำเพื่อการค้า ต้องเติมสารอื่นเพิ่มเติมไหมคะ เช่น Protec OX:

   • สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อการค้า สิ่งสำคัญคือความเสถียรและความปลอดภัยในระยะยาวค่ะ
   • สารกันเสีย (Preservative): สูตรนี้มี Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus) อยู่แล้ว 0.5% ซึ่งเป็นสารกันเสียที่นิยมใช้และมีประสิทธิภาพในวงกว้าง ปริมาณนี้เพียงพอสำหรับการป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วไปค่ะ
   • สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant): การเติมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Protec OX (Pentaerythrityl Tetra-di-t-butyl Hydroxyhydrocinnamate) หรือ Tocopherol (Vitamin E) ในปริมาณเล็กน้อย (เช่น 0.05-0.1%) จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของส่วนผสมบางชนิดในสูตรที่อาจไวต่อการเกิด Oxidation (เช่น Flaxseed Oil หรือสารกลุ่ม Whitening บางตัว) ซึ่งจะช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์และรักษาประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นค่ะ Protec OX เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีสำหรับเฟสน้ำมันค่ะ
   • การปรับ pH: แม้ว่าสูตรนี้อาจมี pH ที่เหมาะสมอยู่แล้วตามธรรมชาติของส่วนผสม แต่สำหรับการผลิตเพื่อการค้า ควรมีการวัดและปรับ pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไปประมาณ 4.5-6.5) และเหมาะสมกับความเสถียรของสารออกฤทธิ์แต่ละตัวในสูตร เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองค่ะ

3. หากต้องการเนื้อครีมที่ไม่เหนอะหน้า ควรปรับอย่างไรคะ:

   • สูตรที่ปรับปรุงใหม่นี้มีแนวโน้มที่จะมีเนื้อสัมผัสที่เบาและไม่เหนอะหนะกว่าสูตรแรกมากค่ะ เนื่องจากปริมาณสารออกฤทธิ์รวมลดลง และมีการใช้ Reshape Gel™ ซึ่งเป็นสารสร้างเนื้อเจลที่มีคุณสมบัติ Memory Gel ทำให้เนื้อสัมผัสดูดซึมง่ายและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ
   • การใช้ Hyaluronic Acid ทั้งแบบ Nano และ Standard ในปริมาณที่เหมาะสม (0.1% และ 0.2%) จะช่วยให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้เหนอะหนะมากนัก
   • Phospholipid ก็ช่วยในการนำพาสารและให้เนื้อสัมผัสที่ดี
   • หากยังรู้สึกเหนอะหนะ สามารถพิจารณาปรับลดปริมาณ Flaxseed Oil เล็กน้อย หรือเลือกใช้น้ำมันชนิดอื่นที่ให้ความรู้สึกเบาบางกว่าแทนได้ค่ะ แต่โดยรวมแล้วสูตรนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความเหนอะหนะมากนักค่ะ

สรุปคือ สูตรที่ปรับปรุงใหม่นี้มีความสมดุลที่ดีและน่าจะให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้ค่ะ สำหรับการทำเพื่อการค้า แนะนำให้พิจารณาเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อความเสถียรของผลิตภัณฑ์ในระยะยาวค่ะ