รีวิวสูตรเซรั่ม: ผิวกระจ่างใส, รักษาสิว, เนื้อสัมผัส และปริมาณส่วนผสม
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรเซรั่มสำหรับผิวขาวใสและลดรอยสิว ได้ร่างสูตรพร้อมระบุเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมต่างๆ เช่น Alpha Arbutin, GlucoBright, 4MSK, Complex Salicylic Acid, DMI, Reservoir Tech, Double hya, B5 extra lite, Hydro Gel, MOIST24, Ectoine, Probiotic protect, Lactobionic Acid, Tranexamic Acid, Active Protect ox และ Azelaic acid อยากทราบว่าเนื้อเซรั่มจะหนักเกินไปหรือไม่ และสูตรนี้จะมีประสิทธิภาพตามที่ต้องการหรือไม่ รวมถึงปริมาณส่วนผสมที่ใช้มีความเหมาะสมหรือไม่
คำตอบ
รีวิวสูตรเซรั่ม
สูตรเซรั่มที่คุณเสนอมามีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ทรงพลังหลายชนิดที่เน้นเรื่องผิวกระจ่างใสและลดรอยสิว เรามาดูความเป็นไปได้ของเนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพตามส่วนผสมและความเข้มข้นกันครับ:
เนื้อสัมผัสที่เป็นไปได้
ด้วยส่วนผสมของ Hyaluronic Acid (5%) และ Hydro Gel (5%) ในปริมาณสูง เซรั่มนี้มีแนวโน้มที่จะมี เนื้อหนักหรือข้น มากกว่าจะเป็นเซรั่มเนื้อบางเบา ส่วนผสมอย่าง Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติในการสร้างความหนืด และการเพิ่มสารก่อเจล (Hydro Gel) จะยิ่งเพิ่มความข้นหนืดมากขึ้น
ประสิทธิภาพที่เป็นไปได้
สูตรนี้มีส่วนผสมที่ทรงพลังหลายชนิดสำหรับช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ:
- Alpha Arbutin (2%): อยู่ในปริมาณสูงสุดที่แนะนำสำหรับการใช้ในเครื่องสำอาง มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว
- GlucoBright (Acetyl Glucosamine, 8%): อยู่ในปริมาณค่อนข้างสูงในขอบเขตที่แนะนำ มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide (แต่สูตรนี้ไม่มี Niacinamide)
- 4MSK (Potassium Methoxysalicylate, 3%): อยู่ในปริมาณสูงสุดที่แนะนำ ช่วยจัดการกับเม็ดสีผิวที่มีอยู่
- Tranexamic Acid (5%): เป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับฝ้าและจุดด่างดำ อย่างไรก็ตาม ปริมาณ 5% สูงกว่าปริมาณที่แนะนำสำหรับการใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป (สูงสุด 3%) และอาจต้องจดแจ้งเป็นยาขึ้นอยู่กับข้อกำหนด ซึ่งความเข้มข้นระดับนี้ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองด้วย
- Azelaic Acid (Liquid Azelaic, 5%): อยู่ในปริมาณค่อนข้างต่ำในขอบเขตที่แนะนำสำหรับประสิทธิภาพ (แนะนำ 5-10%, 10% เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด) ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยแดง และควบคุมความมัน
- Lactobionic Acid (2%): เป็น PHA ที่อ่อนโยน ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างนุ่มนวล และช่วยให้ผิวกระจ่างใสและปรับปรุงเนื้อผิว
สำหรับปัญหาสิวและรอยสิว สูตรนี้มีส่วนผสมดังนี้:
- Salicylic Acid (4%): มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขนและลดสิว อย่างไรก็ตาม ปริมาณ 4% สูงกว่าข้อกำหนดของ อย. (สูงสุด 2%) สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบทาทิ้งไว้บนผิว ความเข้มข้นสูงขนาดนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง และลอกอย่างมาก โดยทั่วไป Salicylic Acid จะใช้ที่ความเข้มข้น 0.5-2% ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวแบบทาทิ้ง
- Azelaic Acid (Liquid Azelaic, 5%): ช่วยลดการอักเสบ ควบคุมความมัน และปรับปรุงรอยดำรอยแดงจากสิว ปริมาณ 5% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แม้ว่า 10% มักจะแนะนำสำหรับการรักษาสิว
- Lactobionic Acid (2%): ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ซึ่งช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและปรับปรุงลักษณะของรอยสิว
นอกจากนี้ สูตรยังมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิวในปริมาณสูง:
- Double hya (Hyaluronic Acid, 5%): ให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นในระดับความลึกต่างๆ ของผิว
- B5 extra lite (Pantolactone, 3%): เป็นสารตั้งต้นของวิตามินบี 5 ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- Ectoine (3%): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและปกป้องเซลล์ผิวที่แข็งแกร่ง ช่วยปกป้องผิวจากความเครียดจากสภาพแวดล้อมและเสริมเกราะป้องกันผิว
- Probiotic protect (Lactobacillus Ferment, 2.5%): ให้ประโยชน์ด้านความชุ่มชื้นและช่วยสนับสนุนจุลินทรีย์ที่ดีบนผิว
- MOIST24 (7%) และ Hydro Gel (5%): น่าจะช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้นและเนื้อสัมผัสโดยรวม
โดยรวมแล้ว สูตรนี้มีศักยภาพที่จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในเรื่องความกระจ่างใสและปรับปรุงรอยสิว เนื่องจากมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ทรงพลังหลายชนิด
ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำ
- การระคายเคือง: ความเข้มข้นสูงของ Salicylic Acid (4%) และ Tranexamic Acid (5%) มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวอย่างมาก ควรพิจารณาลดปริมาณลงให้อยู่ในขอบเขตที่แนะนำสำหรับการใช้ในเครื่องสำอาง (Salicylic Acid สูงสุด 2%, Tranexamic Acid สูงสุด 3%) เพื่อเพิ่มความทนทานของผิวและให้เป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
- ข้อกำหนดทางกฎหมาย: สูตรที่มี Salicylic Acid เกิน 2% และ Tranexamic Acid เกิน 3% มักจะถูกจัดเป็นยา ไม่ใช่เครื่องสำอาง และต้องมีการจดแจ้งที่แตกต่างกัน
- ความเสถียร: การรวมส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดที่มีช่วง pH ที่เหมาะสมแตกต่างกันอาจส่งผลต่อความเสถียรได้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH สุดท้ายของสูตรเหมาะสมกับส่วนผสมออกฤทธิ์หลักๆ และพิจารณาเพิ่มสารช่วยเพิ่มความเสถียร/สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ActiveProtec OX (ซึ่งคุณใส่มา 1% ถือว่าดี ตามที่แนะนำสำหรับ Alpha Arbutin และ Tranexamic Acid)
- เนื้อสัมผัส: หากต้องการเนื้อเซรั่มที่บางเบาขึ้น อาจต้องลดปริมาณของ Hyaluronic Acid และ/หรือส่วนประกอบ Hydro Gel ลง
- การทดสอบการแพ้: ควรทำการทดสอบบนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์จริงเสมอ เพื่อตรวจสอบการระคายเคืองหรืออาการแพ้
สรุปแล้ว แม้ว่าสูตรนี้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ปริมาณ Salicylic Acid และ Tranexamic Acid ที่สูงเกินไปมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองและมีปัญหาด้านกฎหมาย การปรับลดความเข้มข้นเหล่านี้ลงจะช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดมากขึ้น ในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์ที่ดีในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดรอยสิว.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค

Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)

Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis)

Tranexamic Acid (Trans-White™)

4MSK (Potassium Methoxysalicylate)

Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)

Hyaluronic Acid (Large Molecule)

Lactobionic Acid

Dimethyl Isosorbide (DMI)

Probio-Protect™ (Lactobacillus Ferment Preservative)

Hyaluronic Acid Gel Base

PreB5™ (Pantolactone, Pantoyl Lactone)
