รีวิวสูตรเซรั่ม: เนื้อสัมผัส ความเข้ากันได้ของส่วนผสม ค่า pH และวิธีการผสม
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรเซรั่มที่มีส่วนผสมดังนี้ค่ะ รบกวนขอคำแนะนำเกี่ยวกับลักษณะเนื้อสัมผัสที่คาดว่าจะได้ ความเข้ากันได้ของส่วนผสม ควรเพิ่มหรือลดอะไรบ้างหรือไม่ ค่า pH ที่คาดว่าจะได้และช่วง pH ที่เหมาะสม รวมถึงวิธีการผสมที่ถูกต้องค่ะ
ส่วนผสมในสูตร:
- Water
- Cyclopentasiloxane
- Dimethicone
- Propylene Glycol
- Glycerin
- Light Cream Maker
- Acetyl Glucosamine (4%)
- Niacinamide (4%)
- Alpha Arbutin (2%)
- Allantoin
- Hydrolyzed Vegetable Protein
- Glycyrrhyza Inflata Root Extract
- Camelia Sinensis Leaf Extract
- Centella Asiatica Extract
- Alpha Bisabolol
- Retinyl Palmitate (1%)
- Tocopherol Acetate
- Ubiquinone (Coenzyme Q10 1%)
- Phenoxyethanol
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรเซรั่ม
สูตรของคุณมีเป้าหมายเพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่บางเบาและลื่น โดยมีเบสเป็นน้ำ ซิลิโคน ไกลคอล และกลีเซอรีน พร้อมทั้งผสมสารออกฤทธิ์หลากหลายชนิดเพื่อคุณสมบัติในการปรับผิวให้สว่างใส ลดการระคายเคือง ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ
1. ลักษณะเนื้อสัมผัสที่คาดว่าจะได้และการปรับปรุง
จากสูตรของคุณ เนื้อสัมผัสที่ได้ควรจะบางเบา ลื่น และเกลี่ยง่าย ตามที่คุณต้องการและตามที่ได้รับคำยืนยันในการตอบกลับก่อนหน้านี้
- Cyclopentasiloxane และ Dimethicone เป็นซิลิโคนที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นดุจแพรไหมและช่วยให้ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย Cyclopentasiloxane เป็นชนิดที่ระเหยง่าย ทำให้เนื้อสัมผัสบางเบาและไม่เหนอะหนะเมื่อทา ส่วน Dimethicone ช่วยให้เนื้อลื่นและให้ความรู้สึกเคลือบผิว
- Propylene Glycol และ Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยเพิ่มเนื้อและความชุ่มชื้นให้กับส่วนของน้ำ
- Light Cream Maker เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อครีมที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ และช่วยคงตัวเฟสน้ำและเฟสซิลิโคน/น้ำมัน
การผสมผสานของส่วนผสมเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณซิลิโคนที่ค่อนข้างสูงและชนิดของอิมัลซิไฟเออร์ สนับสนุนเป้าหมายของคุณในการทำเซรั่มที่บางเบาและลื่นได้เป็นอย่างดี หากเนื้อสัมผัสนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ ไม่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงในส่วนนี้
2. ความเข้ากันได้ของส่วนผสม
โดยทั่วไปแล้ว ส่วนผสมในสูตรของคุณเข้ากันได้ดี การตอบกลับก่อนหน้านี้ก็ได้ระบุไว้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์บางชนิด:
- Alpha Arbutin มีความคงตัวและประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง pH 3.5-6.5 อาจสลายตัวเป็นไฮโดรควิโนนได้ที่ค่า pH สูงกว่า 8
- Niacinamide มีความคงตัวสูงสุดในช่วง pH 4.0-7.0
- Acetyl Glucosamine แนะนำให้ใช้ในสูตรที่มี pH อยู่ในช่วง 3-7
- Allantoin เหมาะสมที่สุดที่ pH 4-8
แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะไม่ได้ทำปฏิกิริยาที่ไม่เข้ากันโดยตรง แต่การรักษาค่า pH สุดท้ายของเซรั่มให้อยู่ในช่วง 4.0-6.5 จะเป็นประโยชน์ต่อความคงตัวและประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์หลักเหล่านี้
นอกจากนี้ โปรดทราบว่าสารสกัดและวิตามินบางชนิดไวต่อความร้อน และควรเติมในขั้นตอนการทำเย็น (โดยทั่วไปคืออุณหภูมิต่ำกว่า 40°C) ซึ่งรวมถึง Glycyrrhyza Inflata Root Extract, Camelia Sinensis Leaf Extract, Centella Asiatica Extract, Retinyl Palmitate และ Ubiquinone
3. ควรเพิ่มหรือลดอะไรบ้างหรือไม่
สูตรของคุณมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ดีที่มุ่งเน้นคุณสมบัติในการปรับผิวให้สว่างใส ลดการระคายเคือง ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ ในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพ
- ความเข้มข้นของ Acetyl Glucosamine (4%), Niacinamide (4%), และ Alpha Arbutin (2%) อยู่ในอัตราการใช้ที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการปรับผิวให้สว่างใสที่ชัดเจน
- Retinyl Palmitate ใช้ในปริมาณ 1% ซึ่งเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูงในอัตราการใช้ที่แนะนำทั่วไป (0.5-1.0%) การใช้มากกว่า 1% อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
- Ubiquinone (Coenzyme Q10) ใช้ในปริมาณ 1% หากคุณใช้ชนิดผงที่ละลายในน้ำมัน อัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไปจะต่ำกว่านี้ (0.01-0.5%) หากใช้ชนิดผงแคปซูลที่ละลายในน้ำ 1% อยู่ในอัตราการใช้ที่แนะนำ (0.1-1%) ควรแน่ใจว่าชนิดของ Ubiquinone ที่ใช้เหมาะสมกับเบสและความเข้มข้นในสูตรของคุณ
- เนื่องจากมีส่วนผสมที่ไวต่อแสงและการเกิดออกซิเดชัน เช่น Retinyl Palmitate และ Ubiquinone ควรพิจารณาเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับช่วยคงตัวสูตร (เช่น Tocopherol ซึ่งมีอยู่ในรูป Tocopherol Acetate แล้ว แต่อาจเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังกว่า เช่น Protec™ OX) และอาจเพิ่มสารป้องกันแสง UV หากผลิตภัณฑ์บรรจุในขวดใสหรือตั้งใจใช้ในเวลากลางวัน
หากไม่ทราบลักษณะผิวหรือเป้าหมายที่ต้องการอย่างละเอียด การแนะนำการเพิ่มหรือลดส่วนผสมที่เฉพาะเจาะจงทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ในปัจจุบันถือว่ามีประสิทธิภาพโดยรวม
4. ค่า pH ที่คาดว่าจะได้และค่า pH ที่เหมาะสม
ค่า pH สุดท้ายของเซรั่มของคุณจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบเฉพาะที่ใช้และคุณสมบัติความเป็นกรดหรือด่างโดยธรรมชาติของวัตถุดิบเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยส่วนผสมเช่น Niacinamide, Alpha Arbutin, Acetyl Glucosamine และ Allantoin ค่า pH มีแนวโน้มที่จะเป็นกรดอ่อนๆ
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์หลักหลายชนิดคือระหว่าง 4.0 ถึง 6.5 คุณควรวัดค่า pH ของสูตรสุดท้ายและปรับให้อยู่ในช่วงนี้โดยใช้สารละลายกรดเจือจาง (เช่น สารละลายกรดซิตริกหรือกรดแลคติก) หรือสารละลายด่างเจือจาง (เช่น สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์) หากจำเป็น
5. วิธีการผสมที่ถูกต้อง
วิธีการผสมที่คุณเสนอมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่เพื่อให้ได้อิมัลชันที่คงตัวซึ่งมีทั้งซิลิโคน น้ำ และส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมัน ควรใช้วิธีการที่มีโครงสร้างมากขึ้น Light Cream Maker ถูกออกแบบมาเพื่อทำอิมัลชันของเฟสน้ำมันและซิลิโคนเข้ากับเฟสน้ำ โดยมักจะทำได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน
นี่คือขั้นตอนการผสมที่แนะนำ:
- เฟสน้ำ (Phase A): รวม Water, Propylene Glycol และ Glycerin เข้าด้วยกัน เติมส่วนผสมผงที่ละลายในน้ำ: Acetyl Glucosamine, Niacinamide, Alpha Arbutin, Allantoin และ Hydrolyzed Vegetable Protein คนให้เข้ากันจนทุกอย่างละลายหมด อาจให้ความร้อนอ่อนๆ (เช่น ไม่เกิน 40°C) หากจำเป็นเพื่อช่วยในการละลายผง แต่ควรให้ความร้อนน้อยที่สุดเพื่อรักษาสภาพของสารสกัดและวิตามิน เติมสารสกัดที่ละลายในน้ำ: Glycyrrhyza Inflata Root Extract, Camelia Sinensis Leaf Extract และ Centella Asiatica Extract ผสมให้เข้ากันดี
- เฟสซิลิโคน/น้ำมัน (Phase B): รวม Cyclopentasiloxane และ Dimethicone เข้าด้วยกัน เติมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน: Alpha Bisabolol, Retinyl Palmitate, Tocopherol Acetate และ Ubiquinone ผสมให้เข้ากัน หาก Retinyl Palmitate หรือ Ubiquinone เป็นของแข็งหรือละลายยาก อาจให้ความร้อนอ่อนๆ (ต่ำกว่า 40-50°C) แต่ควรให้ความร้อนน้อยที่สุดเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของส่วนผสมเหล่านี้
- การทำอิมัลชัน: เติม Light Cream Maker ลงใน Phase B และผสมให้เข้ากัน ค่อยๆ เติม Phase A ลงใน Phase B ในขณะที่คนอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องผสมความเร็วสูง (เช่น เครื่อง Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง) เพื่อสร้างอิมัลชัน ผสมต่อไปจนเซรั่มเข้ากันดีและได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ ควรผสมให้ทั่วถึงเพื่อป้องกันการแยกชั้นหรือเป็นขุยเมื่อทาบนผิว
- การทำเย็น: ปล่อยให้อิมัลชันเย็นลงจนอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
- การเติมส่วนผสมสุดท้าย (Phase C): เติม Phenoxyethanol และผสมให้เข้ากันจนกระจายตัวทั่ว
- การปรับค่า pH: วัดค่า pH ของเซรั่มสุดท้าย หากอยู่นอกช่วงที่เหมาะสม 4.0-6.5 ให้ปรับโดยใช้สารละลายกรดเจือจางหรือด่างเจือจาง
หวังว่าการวิเคราะห์อย่างละเอียดนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสูตรเซรั่มของคุณนะครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Propylene Glycol

Light Cream Maker™

Glycerin (USP/Food Grade)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)

Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)

Bisabolol (Alpha Bisabolol, Bisabolol RAC)

Hydrolyzed Pea Protein (High-Peptide)

Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)
