รีวิวสูตรโทนเนอร์สำหรับผิวมันที่มี BHA ความเข้มข้นสูง
คำถาม
ฉันมีสูตรโทนเนอร์สำหรับผิวมันตามรายการด้านล่างนี้ ควรเพิ่มหรือลบส่วนประกอบใดบ้าง และควรปรับปรุงอะไรอีกหรือไม่?
ส่วนประกอบ:
Complex Salicylic Acid หรือ Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) 5 %
Licorice Extract (Licochalcone A 1%) 1%
Zinc PCA 1%
L-Carnitine (Carnitine) 3%
Ethoxydiglycol 2%
Phenoxyethanol 0.5%
Niacinamide 4%
Glycerin 3.5%
DI Water 80%
คำตอบ
รีวิวสูตรโทนเนอร์: ลดผิวมัน + BHA
นี่คือการรีวิวสูตรโทนเนอร์ที่คุณเสนอมาสำหรับผิวมันและมีส่วนผสมของ BHA:
ส่วนประกอบและคุณสมบัติ:
- Complex Salicylic Acid / Encapsulated Salicylic Acid (BHA) (5%): ช่วยผลัดเซลล์ผิว ควบคุมความมัน และรักษาสิว
- Licorice Extract (Licochalcone A 1%) (1%): ช่วยปลอบประโลมและลดการอักเสบของผิว
- Zinc PCA (1%): ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินและมีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย
- L-Carnitine (3%): ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
- Ethoxydiglycol (2%): เป็นตัวทำละลายและช่วยเพิ่มการซึมผ่านของส่วนผสมอื่นๆ
- Phenoxyethanol (0.5%): สารกันเสีย
- Niacinamide (Vitamin B3) (4%): ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ กระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน และอาจช่วยเรื่องจุดด่างดำ
- Glycerin (3.5%): สารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว
- DI Water (80%): น้ำบริสุทธิ์ เป็นเบสของโทนเนอร์
การรีวิวและข้อเสนอแนะ:
สูตรนี้มีการผสมผสานส่วนประกอบที่ดีที่เน้นการควบคุมความมัน การผลัดเซลล์ผิว และการปลอบประโลมผิว การมี BHA, Zinc PCA, L-Carnitine และ Niacinamide ช่วยจัดการกับปัญหาผิวมันและปัญหาที่เกี่ยวข้องโดยตรง ส่วน Licorice Extract และ Niacinamide ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี
อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม:
- ความเข้มข้นของ BHA (5%): แม้จะมีความเข้มข้นสูงซึ่งมีประสิทธิภาพ แต่ 5% Salicylic Acid ถือเป็นความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูงสำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on อย่างโทนเนอร์ โดยเฉพาะหากใช้ทุกวัน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง หรือลอกได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ BHA หรือมีผิวแพ้ง่าย
- ข้อเสนอแนะ: อาจพิจารณาลดความเข้มข้นของ BHA ลงเหลือ 1-2% สำหรับโทนเนอร์ที่ใช้ได้ทุกวันอย่างอ่อนโยนขึ้น หากต้องการสูตรที่ความเข้มข้นสูง ควรแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงโอกาสในการระคายเคืองและแนะนำให้ทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ การใช้ Encapsulated Salicylic Acid (รหัส 1372) อาจให้ผลที่อ่อนโยนกว่าและออกฤทธิ์แบบ Timed-release เมื่อเทียบกับ Complex Salicylic Acid ทั่วไป (รหัส 2014)
- ค่า pH: ประสิทธิภาพของ Salicylic Acid ขึ้นอยู่กับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอย่างมาก (โดยทั่วไปควรอยู่ที่ pH 3-4 เพื่อการผลัดเซลล์ผิวที่ดีที่สุด) ในขณะที่ Niacinamide จะมีความเสถียรและมีโอกาสทำให้เกิดอาการหน้าแดง (Flushing) น้อยที่สุดที่ pH ระหว่าง 4-7
- ข้อเสนอแนะ: จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวัดและปรับค่า pH สุดท้ายของโทนเนอร์ การทำให้ pH ต่ำเพื่อให้ BHA ทำงานได้ดี อาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคือง และอาจส่งผลต่อความเสถียรของ Niacinamide หรือเพิ่มอาการหน้าแดงในบางคนได้ คุณอาจต้องหาสมดุล (เช่น pH 3.5-4.5) หรือพิจารณาว่าประโยชน์ของ Niacinamide 4% ที่ pH ต่ำลงนั้นคุ้มค่ากับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ Encapsulated BHA อาจทำงานได้ที่ pH ที่สูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อความเสถียรของ Niacinamide
- การเพิ่มส่วนผสมปลอบประโลม/ให้ความชุ่มชื้น: เนื่องจากมี BHA ในความเข้มข้นสูง การเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวจะช่วยให้ผิวทนต่อสูตรได้ดีขึ้น
- ข้อเสนอแนะ: อาจพิจารณาเพิ่มส่วนผสมเช่น Panthenol (Vitamin B5), Allantoin หรือ Hyaluronic Acid/Sodium Hyaluronate เล็กน้อย เพื่อเสริมความชุ่มชื้นและช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจาก BHA
โดยสรุป สูตรนี้มีศักยภาพที่ดีในการควบคุมความมันและผลัดเซลล์ผิว ข้อควรพิจารณาหลักคือความเข้มข้นของ BHA ที่สูง และความสำคัญอย่างยิ่งของการจัดการค่า pH สุดท้ายเพื่อรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการลดการระคายเคือง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Glycerin (USP/Food Grade)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

L-Carnitine (Carnitine)

Zinc PCA

Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release)
