รีวิวสูตรไม่สมบูรณ์ที่มี L-Ascorbic Acid: ปัญหาความเสถียรและคำแนะนำ
คำถาม
ฉันมีสูตรจากอินเทอร์เน็ตที่มีส่วนผสมดังนี้:
- Hyaluronic Acid
- Alpha Arbutin
- VitC (L-ascorbic acid)
- Beeswax
- Twin20
- VitE (Tocopheryl Acetate)
- Glycerin
- น้ำมันมะกอก (Extra Virgin Olive Oil)
อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับสูตรนี้ค่ะ
คำตอบ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่สอบถามเข้ามานะคะ และรับทราบข้อความจากทีมงานแล้วค่ะ
ตามที่ทีมงานได้แจ้งไป สูตรที่คุณลูกค้าได้มาจากในอินเทอร์เน็ตนั้นยังไม่สมบูรณ์ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน่าจะขาดส่วนประกอบหลักที่เป็นเบส เช่น น้ำ หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่ทำให้ครบ 100% หรือตามน้ำหนักรวมที่ต้องการค่ะ การมีส่วนประกอบหลักและน้ำหนักรวมที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถประเมินสูตรและคำนวณสัดส่วนส่วนผสมแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง และมีความเสถียรในการใช้งานค่ะ
สำหรับส่วนผสมที่แจ้งมา มีดังนี้ค่ะ:
- Hyaluronic Acid (ID 79): สารให้ความชุ่มชื้น ช่วยกักเก็บน้ำในผิว
- Alpha Arbutin (ID 68): สารช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
- VitC (L-ascorbic acid) (ID 133): วิตามินซี รูปแบบ L-ascorbic acid เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่มีข้อจำกัดเรื่องความเสถียร โดยเฉพาะในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งอาจสลายตัวได้ง่าย ควรตรวจสอบรายละเอียดและข้อจำกัดการใช้บนหน้ารายละเอียดผลิตภัณฑ์ค่ะ
- Beeswax (ID 206): ไขผึ้ง ทำหน้าที่ให้ความคงตัว เพิ่มความหนืด หรือเป็นส่วนหนึ่งของ Emulsifier ในสูตรประเภทครีมหรือบาล์ม
- Twin20: Emulsifier ช่วยให้น้ำกับน้ำมันเข้ากันได้
- VitE (Tocopheryl Acetate) (ID 65): วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและให้ความชุ่มชื้น
- Glycerin (ID 143): สารให้ความชุ่มชื้น ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว
- น้ำมันมะกอก (Extra Virgin Olive Oil) (ID 85): น้ำมันธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นและมีสารต้านอนุมูลอิสระ
จากส่วนผสมที่มีทั้งส่วนที่ละลายน้ำได้และส่วนที่ละลายในน้ำมันได้ รวมถึงมี Emulsifier (Twin20) และ Beeswax คาดว่าสูตรนี้น่าจะตั้งใจทำเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Emulsion (เช่น ครีม หรือ โลชั่น) ซึ่งจำเป็นต้องมีส่วนของน้ำเป็นองค์ประกอบหลักในปริมาณมากค่ะ
ปัญหาหลักของสูตรนี้คือ:
- สูตรไม่ครบถ้วน: ขาดส่วนประกอบหลัก (เช่น น้ำ) และน้ำหนักรวมทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถคำนวณสัดส่วนที่ถูกต้องของส่วนผสมแต่ละชนิดได้ ซึ่งส่งผลต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
- ความเสถียรของ VitC (L-ascorbic acid): หากสูตรมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก วิตามินซีรูปแบบ L-ascorbic acid (ID 133) จะไม่เสถียรและเสื่อมสภาพได้ง่ายมาก ทำให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างรวดเร็ว
คำแนะนำสำหรับสูตรนี้:
- ทำให้สูตรครบถ้วน: ควรเพิ่มส่วนของน้ำ (Purified Water) เข้าไปในสูตร และปรับน้ำหนักของส่วนผสมทั้งหมดให้รวมเป็น 100% เพื่อให้สามารถคำนวณสัดส่วนแต่ละชนิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ ซึ่งเป็นมาตรฐานในการทำสูตรเครื่องสำอาง
พิจารณาเปลี่ยนรูปแบบ Vitamin C: เนื่องจาก L-ascorbic acid ไม่เสถียรในสูตรน้ำอย่างยิ่ง แนะนำให้พิจารณาใช้ Vitamin C รูปแบบอื่นที่มีความเสถียรมากกว่าในสูตร Emulsion เช่น:
- Ethyl Ascorbic Acid (ID 833): เป็นอนุพันธ์ Vitamin C ที่ละลายน้ำได้ มีความเสถียรสูง และมีประสิทธิภาพใกล้เคียง L-ascorbic acid
- Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) (ID 8334): เป็นอนุพันธ์ Vitamin C ที่ละลายน้ำได้ มีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการ pH ค่อนข้างสูง (ประมาณ 7-9)
- Ascorbyl Tetraisopalmitate (Perfect-C™) (ID 499): เป็นอนุพันธ์ Vitamin C ที่ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรสูงมาก และซึมเข้าสู่ผิวได้ดี
เพิ่มสารกันเสีย (Preservative): สูตรที่มีส่วนประกอบของน้ำจำเป็นต้องมีสารกันเสียเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียและเป็นอันตรายต่อผิวได้
เพื่อให้ได้สูตรที่มีประสิทธิภาพและเสถียร แนะนำให้ปรับสูตรโดยใช้ส่วนผสมในหน่วยเปอร์เซ็นต์ และเลือกใช้ Vitamin C ในรูปแบบที่มีความเสถียรเหมาะสมกับประเภทของสูตร (Emulsion) ค่ะ
หากต้องการดูสูตรตัวอย่างที่มีส่วนผสมใกล้เคียงกัน หรือใช้ Vitamin C รูปแบบที่มีความเสถียร สามารถค้นหาสูตรตัวอย่างในเว็บไซต์ MySkinRecipes ได้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Olive Oil (Extra Virgin)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Glycerin (USP/Food Grade)

Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
