ข้อเสนอแนะและคำแนะนำสำหรับสูตร

นี่คือข้อเสนอแนะและคำแนะนำสำหรับสูตรทั้งสองของคุณ โดยพิจารณาจากเป้าหมายของคุณและคำตอบก่อนหน้านี้

สูตรที่ 1: ลดรอยแดงสิว ลบเลือนแผลเป็น และริ้วรอย

สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมหลายอย่างในการจัดการกับรอยแดง รอยแผลเป็น และริ้วรอย:

• Licorice Extract (สารสกัดจากชะเอมเทศ): ทราบกันดีว่าช่วยลดการอักเสบ รอยแดงจากสิว และความมันของผิว
• Copper Peptide (คอปเปอร์ เปปไทด์): มีประโยชน์ในการลดรอยแผลเป็น รวมถึงรอยแผลเป็นจากสิว และลดริ้วรอยบนใบหน้า
• Pep-coll: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดริ้วรอย
• Kinetin: มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยโดยช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และปรับปรุงเนื้อสัมผัสของผิว
• Centella Asiatica Extract (สารสกัดจากใบบัวบก): ดีเยี่ยมในการลดริ้วรอย กระชับผิว ช่วยเรื่องรอยแผลเป็นและรอยแดงจากสิว และลดการอักเสบ

สำหรับเป้าหมายในการลดสิว Licorice Extract สามารถช่วยควบคุมความมัน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ทางอ้อมสำหรับผิวที่เป็นสิวโดยลดการอุดตันของรูขุมขน Lactic Acid ซึ่งเป็น AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งสามารถช่วยเรื่องรูขุมขนอุดตันและปรับปรุงเนื้อสัมผัสและสีผิว ซึ่งอาจช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิวได้

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ: ระดับ pH

คำตอบก่อนหน้านี้ได้เน้นย้ำอย่างถูกต้องถึงผลกระทบที่สำคัญของ Lactic Acid 88% ที่ความเข้มข้น 10% ต่อ pH ของสูตร Lactic Acid มีความเป็นกรด และความเข้มข้น 10% จะทำให้ pH ต่ำ ซึ่งเป็นปัญหาเนื่องจาก:

• Copper Peptide มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง pH 4.5-7.4
• Kinetin ละลายและมีความเสถียรที่ pH สูงกว่า 7 หรือ pH ที่ต่ำมาก
• Centella Asiatica Extract โดยทั่วไปมีประสิทธิภาพในช่วง pH 4-6.5

หาก pH ต่ำเกินไป (ต่ำกว่า 4.5) ประสิทธิภาพและความเสถียรของ Copper Peptide และอาจรวมถึง Centella Asiatica Extract จะลดลง ประสิทธิภาพของ Kinetin ก็ขึ้นอยู่กับ pH นอกช่วงที่ Lactic Acid 10% อาจสร้างขึ้นด้วย

คำแนะนำสำหรับสูตรที่ 1:

1. ตรวจสอบและปรับ pH: จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวัด pH ของสูตรสุดท้ายของคุณ คุณอาจต้องปรับ pH ให้สูงขึ้นโดยใช้สารปรับ pH เพื่อให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสมหลัก โดยเฉพาะ Copper Peptide (ตั้งเป้าที่ 4.5-6.5) โปรดทราบว่าการเพิ่ม pH สูงเกินไปจะลดประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิวของ Lactic Acid จำเป็นต้องมีความสมดุล หรือพิจารณาใช้ Lactic Acid ชนิดที่มีการปรับ pH แล้ว เช่น Lactic Acid (AHA) Neutralized
2. เสริมการรักษาสิว: เพื่อเน้นการรักษาสิวโดยตรงมากขึ้น ลองเพิ่ม Vitamin B3 (Niacinamide) ช่วยควบคุมความมัน ลดรอยแดงและการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับสิว และปรับปรุงเกราะป้องกันผิว มีประสิทธิภาพในช่วง pH 3-8 (เหมาะสมที่สุด 4-7) ซึ่งเข้ากันได้ดีกับช่วง pH ที่ต้องการสำหรับเปปไทด์และ Centella Asiatica ของคุณ ผลิตภัณฑ์เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™ เป็นตัวเลือกที่มีความบริสุทธิ์สูง
3. Pro Polymer: ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Lactic Acid เป็นอิเล็กโทรไลต์ คุณอาจต้องเพิ่มความเข้มข้นของ Pro Polymer (จาก 1% เป็น 1.5-2.0% หรือมากกว่า) เพื่อให้ได้เนื้อเจลที่ต้องการหลังจากใส่ส่วนผสมทั้งหมด โดยเฉพาะหลังการปรับ pH

สูตรที่ 2: ขาวใส ลดริ้วรอย สำหรับคนมีอายุแล้ว

สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ทรงพลังในการทำให้ผิวขาวใส ลดริ้วรอย และปรับปรุงความกระชับของผิว:

• Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): วิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมัน มีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาวใสและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• Argireline และ Matrixyl 3000: เปปไทด์ที่ทราบกันดีว่าช่วยลดริ้วรอย โดย Matrixyl 3000 ยังช่วยสนับสนุนการสังเคราะห์คอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว
• DMAE: ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการกระชับผิวและต่อต้านอนุมูลอิสระ
• L-Tyrosine (Wrinkle-Fill™): ทำงานได้ดีกับเปปไทด์และ DMAE เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับปรุงความกระชับและเนื้อสัมผัสของผิว

การผสมผสานนี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการจัดการกับปัญหาผิวสูงวัย รวมถึงริ้วรอยและการขาดความกระชับ

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:

1. Perfect-C™ และ pH: Perfect-C™ มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง pH 5.0-5.5 นอกจากนี้ยังต้องการ Disodium EDTA ที่ความเข้มข้น 0.2% ในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบเพื่อช่วยรักษาความเสถียร สูตรปัจจุบันของคุณไม่ได้ระบุ Disodium EDTA
2. Argireline และ pH: Argireline มีประสิทธิภาพในช่วง pH 3.5-6.5
3. L-Tyrosine และ pH: L-Tyrosine (Wrinkle-Fill™) มีความเป็นกรดและจะทำให้ pH ของสูตรลดลง
4. ความเข้มข้นของ DMAE และเนื้อสัมผัส: ดังที่กล่าวไว้ในคำตอบก่อนหน้านี้ DMAE Liquid ที่ความเข้มข้น 5% สามารถลดความหนืดของเจลได้ ความเข้มข้นของ Pro Polymer ในปัจจุบันของคุณคือ 1%

คำแนะนำสำหรับสูตรที่ 2:

1. เพิ่ม Disodium EDTA: ใส่ Disodium EDTA ที่ความเข้มข้น 0.2% เพื่อช่วยให้ Perfect-C™ มีความเสถียรเมื่อมีน้ำเป็นส่วนประกอบ
2. ตรวจสอบและปรับ pH: ตั้งเป้าที่จะปรับ pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับ Perfect-C™ (5.0-5.5) ช่วงนี้ยังเหมาะสำหรับ Argireline ด้วย L-Tyrosine จะทำให้ pH ลดลง ดังนั้นจำเป็นต้องปรับ pH หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว
3. ปรับ Pro Polymer: เพิ่มความเข้มข้นของ Pro Polymer เป็น 1.5-2.0% หรืออาจสูงกว่านั้น ตามที่แนะนำก่อนหน้านี้ เพื่อให้ได้เนื้อเจลที่ต้องการเมื่อมี DMAE อยู่ในสูตร
4. เสริมความกระชับ (ทางเลือก): แม้ว่าส่วนผสมปัจจุบันของคุณจะมีความสามารถในการกระชับผิวที่ดีอยู่แล้ว หากคุณต้องการเสริมด้านนี้ให้มากขึ้น ให้แน่ใจว่า pH เหมาะสมที่สุดสำหรับ DMAE และเปปไทด์ คุณยังสามารถพิจารณาเปปไทด์อื่นๆ ที่เน้นเรื่องความกระชับได้ แต่ส่วนผสมปัจจุบันก็ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว

การแก้ไขความเข้ากันได้ของ pH และการเพิ่มและปรับเปลี่ยนตามคำแนะนำ จะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของสูตรทั้งสองของคุณได้