การวิเคราะห์สูตร

นี่คือการวิเคราะห์สูตรทั้งสองของคุณ โดยอิงจากส่วนผสมที่ให้มาและหลักการพื้นฐานของการคิดค้นสูตร:

สูตรที่ 1: เจลบำรุงผิวให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น และปรับสมดุลย์ผิวมัน (ปราศจากน้ำมัน)

สูตรนี้มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้ความชุ่มชื้น และปรับสมดุลย์ผิวมัน โดยไม่ใช้น้ำมัน ในรูปแบบเจลเหลว

1. ความเข้ากันได้ของสาร: ส่วนผสมส่วนใหญ่ที่ละลายน้ำได้ในสูตรของคุณเข้ากันได้ดีภายในช่วง pH ทั่วไปของเครื่องสำอาง (ประมาณ 4-7) ซึ่งสอดคล้องกับช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับ Safe-B3, GlucoBright, Rice Vitamin, Oat Avenanthramides, Dipotassium Glycyrrhizate, Ectoine และ Disodium EDTA ส่วน Azelaic Acid (Liquid Azelaic) ยังทำงานได้ดีในช่วง pH กว้าง (5-11) อย่างไรก็ตาม Oleanolic acid และ Licorice Extract (Glabridin 40%) มีข้อกำหนดการละลายที่เฉพาะเจาะจง (Oleanolic acid ละลายใน laurocapram, Glabridin 40% ละลายใน Butylene Glycol หรือ Ethanol ไม่ละลายโดยตรงในน้ำหรือน้ำมัน) การใช้ Isopentyldiol เป็นตัวทำละลายหลักสำหรับสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาการละลายและลดประสิทธิภาพลงได้ ตามที่ทีมงานได้ให้ข้อสังเกตไว้

2. การลดความเหนอะหนะ: คุณใช้ WaterSoft (10%), shea butter water (5%) และ Isopentyldiol (5%) เพื่อปรับเนื้อสัมผัสและให้ความนุ่มลื่น แม้ว่า Isopentyldiol จะเป็นสารให้ความชุ่มชื้น/ตัวทำละลายที่ดีและไม่เหนอะหนะ แต่ความเข้มข้นสูงของ WaterSoft (10%) โดยทั่วไปไม่แนะนำเพื่อให้ได้ความรู้สึกสบายผิวและอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ ตามที่ทีมงานชี้ให้เห็น อัตราการใช้ WaterSoft ที่แนะนำโดยทั่วไปคือ 2-3% ส่วน shea butter water ที่ 5% ก็อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อยสำหรับบางสภาพผิว แม้ว่าสำหรับผิวแห้งอาจจะรู้สึกพอดี การใช้ส่วนผสมเหล่านี้ในอัตราส่วนที่สูงเช่นนี้อาจไม่ช่วยลดความเหนอะหนะได้เพียงพอตามที่ตั้งใจไว้

3. Xanthan Gum สำหรับเนื้อเจล: การใช้ Xanthan Gum (ชนิดเจลใส เนื้อเนียนไม่ยืด) ที่ 0.50% เพียงพอที่จะสร้างเนื้อเจลเหลวได้ จะช่วยเพิ่มความหนืดและป้องกันไม่ให้สูตรเหลวเหมือนน้ำ ทำให้เกาะผิวได้ดีขึ้น ตามที่ทีมงานยืนยัน ความข้นหนืดที่ได้จะขึ้นอยู่กับความคาดหวังส่วนตัวของคุณสำหรับ "เจลเหลว"

สูตรที่ 2: โลชั่นลดริ้วรอย สิวในผู้ใหญ่ และเพิ่มความกระจ่างใส

สูตรนี้มุ่งเน้นการดูแลปัญหาริ้วรอย สิวในผู้ใหญ่ และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว โดยใช้ Retinal และ Vitamin C

1. ความเสถียรของ Trans-Resveratrol: ใช่ การใส่ทั้ง Protec OX และ Protec SQ จะช่วยยืดอายุคุณภาพและความเสถียรของ Trans-Resveratrol ได้ดีกว่าไม่ใส่ โดยเฉพาะ Protec SQ มีประสิทธิภาพในการป้องกันสารอย่าง Resveratrol จากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสง UV ในขณะที่ Protec OX ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไปที่ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชัน ตามที่ระบุในรายละเอียดผลิตภัณฑ์และทีมงานยืนยัน

2. Xanthan Gum สำหรับป้องกันการตกตะกอน: การใช้ Xanthan Gum ที่ 0.7% เพียงพอที่จะช่วยป้องกันการตกตะกอนของสารที่ไม่ละลายได้ ตามที่ทีมงานให้ข้อสังเกตไว้

3. ความเข้ากันได้โดยรวม: สูตรนี้ประกอบด้วยส่วนผสมที่ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมันหลายชนิด แม้ว่าส่วนใหญ่จะเข้ากันได้ แต่ก็มีข้อท้าทายที่อาจเกิดขึ้น:

   • Phytosphingosine ต้องการการละลายใน Octyldodecanol โดยเฉพาะและต้องใช้ความร้อน (80-90C) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในรายการส่วนผสมของคุณ หรือวิธีการผสมทั่วไปสำหรับสูตรลักษณะนี้
   • เช่นเดียวกับสูตรที่ 1 Oleanolic acid และ Licorice Extract (Glabridin 40%) ต้องการตัวทำละลายเฉพาะ (laurocapram, Butylene Glycol/Ethanol) เพื่อการละลายที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นปัญหาในสูตรนี้เช่นกัน ตามที่ทีมงานระบุ
   • Trans-Resveratrol ไม่ละลายในน้ำและต้องการตัวทำละลายเฉพาะ เช่น Ethanol หรือ Ethoxydiglycol เพื่อช่วยในการละลายและเพิ่มการซึมเข้าสู่ผิว
   • Pure-EGCG ละลายในน้ำได้น้อยและต้องกระจายตัวในเนื้อครีมหรือเจล โดยหลีกเลี่ยงความร้อน ทีมงานยังตั้งข้อสังเกตว่า Pure-EGCG อาจไม่จำเป็นสำหรับผิวแห้ง
   • Pure-Adenosine ก็ละลายในน้ำได้น้อยและต้องกระจายตัว โดยหลีกเลี่ยงความร้อน
   • สูตรมีปริมาณน้ำมันค่อนข้างสูง (Perfect-C, LipidSoft Dry II, Tocotrienols, German Chamomile Extract, Stearyl Glycyrrhetinate, Pure-Phytosterols, Phytosphingosine, Phospholipid, Light Lotion Maker) ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ ตามที่ทีมงานกล่าวถึง
   • ที่สำคัญคือ สูตรนี้ดูเหมือนจะขาดระบบสารกันเสีย (Preservative) ที่ครอบคลุม (Mild Preserved Eco ถูกระบุในสูตรที่ 1 แต่ไม่ได้อยู่ในสูตรนี้) ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และรับรองความปลอดภัยและอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปริมาณน้ำสูง ทีมงานก็ได้ชี้ให้เห็นถึงการไม่มีสารกันเสียในสูตรนี้เช่นกัน

โดยสรุป แม้ว่าส่วนผสมหลายชนิดจะให้ประโยชน์เสริมฤทธิ์กันได้ แต่การจัดการกับปัญหาการละลายของส่วนประกอบบางชนิดและการใส่สารกันเสียเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาสำหรับสูตรที่ 2 นอกจากนี้ เนื้อสัมผัสของทั้งสองสูตรอาจปรับปรุงได้โดยการปรับความเข้มข้นของสารที่ช่วยให้ความนุ่มลื่นตามคำแนะนำของทีมงานและความชอบส่วนตัวของคุณสำหรับความรู้สึกบนผิว