รีวิวและข้อเสนอแนะจากประสบการณ์การใช้ส่วนผสมและสูตรต่างๆ

ถามโดย: donotgiveup12345601 เมื่อ: May 06, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการแบ่งปันประสบการณ์การใช้ส่วนผสมและสูตรต่างๆ ทั้งที่ได้ผลดีและไม่ได้ผล เพื่อขอคำแนะนำและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมค่ะ

ประสบการณ์ที่ได้ผลดี:

  • ปัญหาริมฝีปากลอกเป็นแผ่น: ใช้ Glycerin 100% ในช่วงแรก (ตามด้วยน้ำมันที่กินได้และวาสลีน) ช่วยให้ริมฝีปากดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • อาการคันศีรษะ: ใช้ Dandruff-Guard (Piroctone Olamine) 1% ผสมในแชมพูที่ทำเอง ช่วยลดอาการคันจนหายคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผิวแห้ง เป็นสะเก็ด ไม่เรียบเนียน: สูตรที่ใช้ซึ่งประกอบด้วย Squalane 2%, MOIST72 2%, WaterLock 1%, และ Pro Polymer 0.5% ช่วยให้ผิวดีขึ้นและเรียบเนียนขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
  • ปัญหาหน้ามัน: สูตรเจลลดหน้ามันจากห้องสูตรช่วยลดความมันบนใบหน้าได้จริง แต่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอประมาณสองเดือนจึงจะเริ่มเห็นผล

ประสบการณ์ที่ได้ผลน้อยหรือไม่เป็นที่พอใจ:

  • ปัญหาสิวอุดตัน: รู้สึกว่า Encapsulated Salicylic Acid (BHA) ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตัน และอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
  • Capryloyl Salicylic Acid (LHA): ไม่ประทับใจกับ Capryloyl Salicylic Acid (LHA) 10% ที่ผสมกับน้ำแล้วเกิดผลึก และรู้สึกว่าไม่ได้ผลกับสิว
  • Slim-Burn™: ไม่สามารถใช้ Slim-Burn™ กับผิวตัวได้เลย แม้ในความเข้มข้นต่ำ เนื่องจากทำให้ผิวแดง แสบร้อน และคันยิบๆ เหมือนจะเป็นผื่น

อยากขอคำแนะนำว่าทำไมประสบการณ์กับ BHA/LHA และ Slim-Burn™ จึงเป็นไปในทางลบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องผิวที่อาจไวต่อ Salicylic? และอยากขอคำแนะนำสารทางเลือก โดยเฉพาะสำหรับทำโทนเนอร์สำหรับผิวที่ไวต่อ Salicylic อาจใช้ Natural PHA (Gluconolactone) ผสมกับ Witch Hazel ตามที่ผู้ใช้ท่านอื่น (C7) แนะนำได้หรือไม่? รวมถึงอาการแพ้ Slim-Burn™ มีสาเหตุจากอะไร และมีสารทางเลือกหรือวิธีลดอาการแพ้หรือไม่คะ?

คำตอบ

สรุปรีวิวและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้ส่วนผสมต่างๆ

ขอขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการแบ่งปันรีวิวและประสบการณ์การใช้ส่วนผสมต่างๆ อย่างละเอียด! ข้อมูลของคุณมีค่ามากสำหรับสมาชิกท่านอื่นๆ ค่ะ

นี่คือสรุปประสบการณ์ของคุณและข้อเสนอแนะที่ได้รับ:

การรักษาที่ได้ผลดี:

  • ปัญหาริมฝีปากลอกเป็นแผ่น: คุณพบว่าการใช้ Glycerin 100% ในช่วงแรก (แม้ว่าทีมงานจะไม่แนะนำให้ทาตรงๆ ในระยะยาว เพราะอาจทำให้ผิวแห้งได้) ตามด้วยน้ำมันที่กินได้และวาสลีน ช่วยให้ริมฝีปากดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • อาการคันศีรษะ: การใช้ Dandruff-Guard (Piroctone Olamine) 1% ผสมในแชมพูที่คุณทำเอง ช่วยลดอาการคันจนหายคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมงานยินดีที่ได้ทราบผลลัพธ์ที่ดีนี้ค่ะ
  • ผิวแห้ง เป็นสะเก็ด ไม่เรียบเนียน: สูตรที่คุณใช้ซึ่งประกอบด้วย Squalane 2%, MOIST72 2%, WaterLock 1%, และ Pro Polymer 0.5% ช่วยให้ผิวดีขึ้นและเรียบเนียนขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
  • ปัญหาหน้ามัน: สูตรเจลลดหน้ามันจากห้องสูตรช่วยลดความมันบนใบหน้าได้จริง แต่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอประมาณสองเดือนจึงจะเริ่มเห็นผล ซึ่งทีมงานยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติที่การลดความมันผิวต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับระดับความมันของแต่ละบุคคล

ประสบการณ์ที่ได้ผลน้อยหรือไม่เป็นที่พอใจ:

  • ปัญหาสิวอุดตัน: คุณรู้สึกว่า Encapsulated Salicylic Acid (BHA) ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตัน และอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น ทีมงานได้อธิบายว่า BHA อาจทำให้สิวที่กำลังจะอักเสบหรือเริ่มอักเสบอยู่แล้วอักเสบมากขึ้นได้ในระยะแรก เนื่องจากมีคุณสมบัติระคายเคืองผิว และเน้นย้ำความสำคัญของการบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรงและชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ เพื่อควบคุมการอักเสบและช่วยให้ BHA ทำหน้าที่ละลายสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากผิวเกิดการระคายเคืองรุนแรง แห้ง หรือลอก ผิวจะดูดซึม BHA ได้เร็วเกินไป ทำให้เกิดผลเสียคือระคายเคือง แดง แห้ง ลอก และสิวไม่หาย
  • Capryloyl Salicylic Acid (LHA): คุณไม่ประทับใจกับ Capryloyl Salicylic Acid (LHA) 10% ที่ผสมกับน้ำแล้วเกิดผลึก และรู้สึกว่าไม่ได้ผลกับสิว ผู้ใช้งานท่านอื่น (C7) ได้ให้ข้อคิดเห็นว่ากลุ่ม Salicylic Acid รวมถึง LHA จำเป็นต้องมีสารช่วยในการกระจายตัวในเนื้อสูตร เช่น การทำเป็นครีม (ใช้ Cream Maker) หรือเจล (ใช้ Pro Polymer) หรือหากทำเป็นโทนเนอร์ใส ต้องใช้ในปริมาณต่ำ หรือมีตัวทำละลายช่วย เช่น Propylene Glycol 10-20% เพื่อป้องกันการตกผลึก นอกจากนี้ ยังมีความเห็นส่วนตัวจากผู้ใช้งานอีกท่าน (chalermlap) ว่า BHA และ Encapsulated Salicylic Acid อาจไม่ได้ผลกับทุกคน และผู้ที่มีผิวไวต่อ Salicylic อาจเกิดการระคายเคืองทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบได้ จึงแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาใช้ Natural PHA (Gluconolactone) ผสมกับ Witch Hazel เป็นทางเลือกที่อ่อนโยนกว่าสำหรับผิวที่ไวต่อ Salicylic ในรูปแบบโทนเนอร์
  • Slim-Burn™: คุณไม่สามารถใช้ Slim-Burn™ กับผิวตัวได้เลย แม้ในความเข้มข้นต่ำ เนื่องจากทำให้ผิวแดง แสบร้อน และคันยิบๆ เหมือนจะเป็นผื่น คุณพบว่าสูตรที่มี Vitamin B12 5%, Urea 2%, Sodium PCA 4%, Sodium Lactate 2%, Squalane 0.5%, และ Pro Polymer 0.5% ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองได้

ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับส่วนผสมหรือสูตรอื่นๆ จากข้อมูลนี้ สามารถสอบถามได้เลยนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Squalane (Olive)
Squalane (Olive)
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
เครื่องสำอาง
Sodium PCA 50%
Sodium PCA 50%
เครื่องสำอาง
Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)
Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
MOIST72™
MOIST72™
เครื่องสำอาง
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง
Natural PHA (Gluconolactone)
Natural PHA (Gluconolactone)
เครื่องสำอาง
Dandruff-Guard™ (Piroctone Olamine)
Dandruff-Guard™ (Piroctone Olamine)
เครื่องสำอาง
Vitamin B12 (Cyanocobalamin 1%) วิตามิน B12
Vitamin B12 (Cyanocobalamin 1%) วิตามิน B12
เครื่องสำอาง