วิเคราะห์สูตรกันแดดที่มีความซับซ้อน

การวิเคราะห์สูตรกันแดดของคุณ

ขอบคุณที่ได้แบ่งปันสูตรกันแดดที่คุณสนใจครับ เป็นสูตรที่น่าสนใจมาก มีการผสมผสานสารกันแดดหลากหลายชนิดและส่วนผสมบำรุงผิวที่มีประโยชน์มากมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การปกป้องผิวจากแสงแดดแบบ Broad Spectrum พร้อมเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ เหมาะสำหรับคนผิวมันและผิวผสม

โดยรวมแล้ว สูตรนี้มีความเป็นไปได้ที่จะผสม แต่มีความซับซ้อนสูงมากเนื่องจากมีส่วนผสมจำนวนมาก โดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างสารกันแดดแบบ Physical และ Organic สารออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ที่หลากหลาย และระบบอิมัลชันแบบ Water-in-Oil (W/O) การทำให้สูตรมีความเสถียรและได้เนื้อสัมผัสตามที่ต้องการจะต้องอาศัยการคิดค้นสูตรอย่างละเอียดและการทดสอบอย่างครอบคลุม

นี่คือการวิเคราะห์ความเป็นไปได้และคำตอบสำหรับคำถามเฉพาะของคุณครับ:

ความเป็นไปได้:

การรวมกันของ Titanium Dioxide Transparent, Zinc Oxide 35nm Liquid, DHHB (Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate), BEMT (Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine), Ethylhexyl Triazone และ Bisoctrizole ให้การปกป้องที่ครอบคลุมทั้งช่วงคลื่น UVA และ UVB ทำให้สามารถคาดหวังค่า SPF 50 PA+++ ได้ การใส่ Emollients เนื้อบางเบาอย่าง LipidSoft™ Lite, สารดูดซับความมันอย่าง SelectSorb™ (High Oil Absorption PMMA), และสารก่อเจลอย่าง Glycerin Gel และ Xanthan Gum ร่วมกับระบบ Emulsifier แบบ W/O (Oil-Fix™ O, Polyglyceryl-2 dipolyhydroxystearate, Magnesium Sulfate) บ่งชี้ว่าสูตรนี้ถูกออกแบบมาให้ไม่เหนอะหนะและเหมาะสำหรับผิวมัน/ผสม ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลาย เช่น Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide), Ascorbyl Glucoside (AA-2G), 4D Hyaluronic Acid, Ectoine, Ceramide Complex, Phytosphingosine, Panthenol (Vitamin B5), Natural Bisabolol, Glycyrrhetinic Acid, Ethyl Ferulate, Ferulic Acid, Active Encapsulated Caffeine™ และ Calendula Extract ให้ประโยชน์ต่อผิวหลายด้าน

อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น:

• ความเข้ากันได้: ข้อกังวลหลักคือความเข้ากันได้ระหว่าง Ascorbyl Glucoside (AA-2G) กับ Safe-B3™ (Niacinamide) และ Zinc PCA AA-2G ทราบกันดีว่าไม่เสถียรเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide และ Zinc PCA สูตรนี้มีทั้งสามตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความเสถียรของ AA-2G
• ความเสถียรของอิมัลชัน: การทำ Emulsion แบบ W/O ให้เสถียรโดยมี Water Phase ในปริมาณสูงและมีส่วนผสมที่ละลาย/กระจายตัวในน้ำจำนวนมาก (Physical Filters, Ceramide Complex, Encapsulated Salicylic Acid) เป็นเรื่องที่ท้าทายในทางเทคนิค ระบบ Emulsifier ที่เลือกใช้ (Oil-Fix™ O, Polyglyceryl-2 dipolyhydroxystearate, Magnesium Sulfate) อาจต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสม
• ขั้นตอนการผสม: ส่วนผสมหลายตัวมีข้อกำหนดเฉพาะในการผสม (เช่น การละลายในน้ำมันด้วยความร้อน การกระจายตัวใน Glycol การกระจายตัวในน้ำ/น้ำมันที่อุณหภูมิต่ำ การปั่นด้วยความเร็วสูงสำหรับ Phospholipid) ขั้นตอนการผสมที่แม่นยำและแบ่งเป็นหลายเฟสจึงเป็นสิ่งจำเป็น

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ:

1. กลิ่นจะออกมาเหม็นไหมครับ? เพราะใส่สารสกัดที่เป็นน้ำหอมธรรมชาติแค่ 0.5%
   ที่ปริมาณ 0.5% สารสกัดกุหลาบมอญอาจให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ได้ แต่ไม่น่าจะแรงพอที่จะกลบกลิ่นเฉพาะตัวของวัตถุดิบบางชนิด โดยเฉพาะสารกันแดดและสารออกฤทธิ์อื่นๆ แม้ว่าคำอธิบายของสารกันแดดแต่ละตัวจะไม่ได้ระบุว่ามีกลิ่นแรง แต่การรวมกันของวัตถุดิบจำนวนมากอาจทำให้เกิดกลิ่นเบสที่สังเกตได้ เป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์สุดท้ายอาจมีกลิ่นวัตถุดิบเจือปนอยู่กับกลิ่นกุหลาบจางๆ

2. จากที่ดูมาค่า pH ที่เหมาะกับสูตรนี้จะอยู่ประมาณ 6-7 จาก Ingredient ที่ให้มาจะผสมได้ประมาณนี้ไหมครับ?
   ส่วนผสมหลายตัวในสูตรของคุณ เช่น Safe-B3™ (Niacinamide), 4D Hyaluronic Acid, Panthenol (Vitamin B5), Yerba Santa Glycoprotein และ Mild Preserved Eco™ มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพในช่วง pH 6-7 หรือใกล้เคียง สารสกัดดาวเรือง (Calendula Extract) ก็อยู่ในช่วงนี้ (pH 5.5-6.5) อย่างไรก็ตาม Ascorbyl Glucoside (AA-2G) ต้องการ pH 6.5-6.8 เพื่อความเสถียรสูงสุด และ Zinc PCA ละลายได้ดีที่สุดที่ pH 4-6 นอกจากนี้ Salicylic Acid ก็มีฤทธิ์เป็นกรด การรวมกันของส่วนผสมเหล่านี้จะส่งผลต่อ pH สุดท้ายของสูตร แม้ว่าจะสามารถปรับ pH ให้อยู่ในช่วง 6-7 ได้ แต่การรักษา pH ให้อยู่ในช่วง 6.5-6.8 เฉพาะสำหรับความเสถียรของ AA-2G อาจเป็นเรื่องท้าทาย และอาจส่งผลกระทบต่อการละลายหรือประสิทธิภาพของ Zinc PCA ความไม่เข้ากันระหว่าง AA-2G, Niacinamide และ Zinc PCA ในช่วง pH นี้เป็นข้อควรพิจารณาที่สำคัญ

3. เนื้อที่ออกมาจะประมาณไหน หนักหน้าไหมครับ?
   จากส่วนผสมที่ใช้ คาดว่าเนื้อสัมผัสจะออกมาเป็นกึ่งครีมกึ่งเจล (Gel-Cream) ที่มีความบางเบา ไม่หนักหน้ามาก Glycerin Gel, 4D Hyaluronic Acid และ Xanthan Gum ช่วยสร้างเนื้อเจล LipidSoft™ Lite เป็น Emollient เนื้อบางเบา Oil-Fix™ O ช่วยเพิ่มความหนืดใน Oil Phase และช่วยคงสภาพ Emulsion แบบ W/O ทำให้รู้สึกไม่เหนอะหนะ ที่สำคัญคือ SelectSorb™ (High Oil Absorption PMMA) ถูกใส่มาเพื่อช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนผิว ทำให้ผิวดูแมทท์ ไม่มันวาว และรู้สึกสบายผิว เหมาะสำหรับผิวมัน/ผสม ตามที่คุณต้องการ สูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้รู้สึกหนักหน้า

4. Non-Active ingredient บางตัวยัง งงๆ อยู่ พวก Base สารลดแรงตึง Emulsifier Solvent Preservative ต่างๆ มีอะไรที่ควรปรับลดหรือเพิ่มไหมครับ?

   • ระบบ Emulsifier (Oil-Fix™ O, Polyglyceryl-2 dipolyhydroxystearate, Magnesium Sulfate): ระบบ W/O นี้มีความซับซ้อน Polyglyceryl-2 dipolyhydroxystearate เป็น W/O Emulsifier ที่มักใช้ร่วมกับ Co-emulsifier เช่น Oil Blender (ซึ่งไม่ได้อยู่ในสูตรของคุณ) Oil-Fix™ O เป็นหลักคือสารก่อเจลในน้ำมันและสารช่วยคงสภาพ W/O ไม่ใช่ Emulsifier หลัก Magnesium Sulfate ช่วยคงสภาพ Emulsion แบบ W/O เมื่อพิจารณาถึงปริมาณ Water Phase ที่สูงและมีส่วนผสมที่ละลาย/กระจายตัวอยู่มาก ความเสถียรของระบบ Emulsion นี้จึงเป็นข้อสงสัยและน่าจะต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสม คุณอาจต้องปรับสัดส่วนของส่วนผสมเหล่านี้ หรือพิจารณาเพิ่ม Emulsifier หรือ Co-emulsifier แบบ W/O ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
   • WaterGuard™ Lite: คำอธิบายสำหรับ Product ID (1339) ที่เกี่ยวข้องกับ "WaterGuard™ Spray" ระบุว่าละลายได้ในแอลกอฮอล์ ไม่ใช่น้ำมัน หาก "WaterGuard™ Lite" ในสูตรของคุณคือผลิตภัณฑ์นี้จริง และสูตรของคุณไม่มีแอลกอฮอล์ การนำไปผสมและการทำงานในฐานะ Film Former เพื่อให้สูตรกันน้ำอาจมีปัญหา คุณอาจต้องยืนยันความสามารถในการละลายของ "WaterGuard™ Lite" ที่คุณใช้ หรือพิจารณาใช้ Film Former ตัวอื่นที่เข้ากันได้กับเบสของสูตรคุณ
   • สารกันเสีย (Mild Preserved Eco™): ที่ปริมาณ 0.5% Mild Preserved Eco™ อาจไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในสูตรที่ซับซ้อนและมีสารสกัดธรรมชาติหลายตัว ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ ผู้จำหน่ายแนะนำให้ใช้ที่ 1.0-1.5% สำหรับเครื่องสำอางทั่วไป การทดสอบ Challenge Test เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าสูตรได้รับการป้องกันอย่างเพียงพอ คุณอาจต้องเพิ่มความเข้มข้นหรือเพิ่มสารเสริมประสิทธิภาพสารกันเสียที่เข้ากันได้
   • ความไม่เข้ากัน: ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ความไม่เข้ากันระหว่าง Ascorbyl Glucoside (AA-2G), Safe-B3™ (Niacinamide) และ Zinc PCA เป็นปัญหาสำคัญต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของ AA-2G คุณควรพิจารณาตัดส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งหรือหลายตัวออก หรือแทนที่ AA-2G ด้วย Vitamin C Derivative ที่เข้ากันได้ดีกว่า หาก Niacinamide และ Zinc PCA เป็นส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับคุณ

โดยสรุป แม้ว่าสูตรนี้มีศักยภาพในการให้การปกป้องแสงแดดแบบ Broad Spectrum พร้อมเนื้อสัมผัสที่น่าพอใจและประโยชน์ต่อผิวมากมาย แต่ความท้าทายทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม (โดยเฉพาะ AA-2G, Niacinamide, Zinc PCA), ความเสถียรของอิมัลชัน และการกันเสีย มีนัยสำคัญ การทดสอบในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดและการปรับปรุงสูตรที่อาจจำเป็น โดยเฉพาะระบบ Emulsifier และการรวมกันของสารออกฤทธิ์ที่อาจไม่เข้ากัน จะเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ