วิเคราะห์สูตรเซรั่มรวมสารสกัดความเข้มข้นสูง
คำถาม
รบกวนช่วยวิเคราะห์ส่วนผสมในสูตรนี้หน่อยครับ ผมจะสั่งผลิตครับ:
- Copper Peptide (GHK-Cu) 3%
- Apple Stem Cell Extract (AppleCell™) 5%
- Rosa Hybrid Cell Extract (HybridCell™) 2%
- RETINAT™ (Starfish Extract) 1.6%
- Plankton GP4G™ 3%
- Ectoine (Ectoin) 2%
- Marine Plankton (Lifting, Tightening) 2%
- Salmon Roe Extract 5%
- Alpha Arbutin (Switzerland) 2%
- Hyaluronic Acid (Small Molecule) 0.3%
- L-Carnosine 1%
- Wakame Extract (Brown Sea Weed) 3%
- Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract) 1%
- Quick-Coll® 2%
- Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera) 64.1%
- Adenosine Liposome 3%
รวมได้ 100 %
สูตรนี้สามารถเข้ากันได้ไหมครับ
ต้องเพิ่มหรือลดส่วนได้หรือไม่
ถ้าโอเคแล้วผมจะได้สั่งผลิตครับ
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตร
จากส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ที่คุณให้มา นี่คือการวิเคราะห์สูตรเครื่องสำอาง:
สูตรนี้มีส่วนผสมออกฤทธิ์ (active ingredients) ในความเข้มข้นสูง ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านประโยชน์ต่อการต่อต้านริ้วรอย การฟื้นฟูผิว ความชุ่มชื้น การยกกระชับ และการปรับผิวให้กระจ่างใส
นี่คือรายละเอียดของส่วนผสมแต่ละชนิดและบทบาททั่วไปในสูตร:
เปปไทด์และสารกระตุ้นการสร้างเซลล์:
- Copper Peptide (GHK-Cu) (3%): เป็นที่รู้จักในการช่วยสมานแผล ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-3% ดังนั้น 3% ถือเป็นอัตราที่สูงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ต้องผสมที่ pH 4.5-7.4 และอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
- L-Carnosine (1%): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านไกลเคชั่น ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายและสนับสนุนการสมานแผล อัตราการใช้ 1% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.1-1.0%) ต้องผสมในน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C และ pH 3.5-7.0 ผู้ผลิตแนะนำให้ใช้สารช่วยนำพา (absorption enhancers) เช่น Butylene Glycol เพื่อช่วยให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- Quick-Coll® (2%): เป็น Amino Acid/Copper Complex ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินภายใน 15 วัน อัตราการใช้ 2% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.1-2%) ควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
สารสกัดจากสเต็มเซลล์และไบโอเฟอร์เมนเทชั่น:
- Apple Stem Cell Extract (AppleCell™) (5%): มีเป้าหมายเพื่อยืดอายุเซลล์ผิวและชะลอวัย 5% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-5%) ผสมที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C และ pH 3.5-6.5
- Rosa Hybrid Cell Extract (HybridCell™) (2%): กระตุ้นคอลลาเจน ยับยั้งเอนไซม์ทำลายคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น และให้ความชุ่มชื้น 2% เป็นอัตราการใช้ที่แนะนำ ผสมที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
- Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera) (64.1%): สารสกัดจากการหมักยีสต์ที่ช่วยฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ความเข้มข้นสูงถึง 64.1% อยู่ในช่วงที่สามารถใช้ได้ (1-100%) และน่าจะเป็นส่วนประกอบหลักของเบสในสูตร มี pH 4-7 และควรผสมที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C การใช้ในปริมาณสูงอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
สารสกัดจากแพลงก์ตอนและทะเล:
- RETINAT™ (Starfish Extract) (1.6%): ให้ผลคล้ายเรตินอยด์ (ลดริ้วรอย เพิ่มความหนาของผิว กระตุ้นคอลลาเจน/อีลาสติน) โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง 1.6% เป็นอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ ผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C และ pH 5.0-6.0
- Plankton Artemia Extract (Plankton GP4G™) (3%): ปกป้องผิวจากสภาวะแวดล้อม กระตุ้นการเผาผลาญของเซลล์ และเพิ่มคอลลาเจน 3% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-5%) (แนะนำ 2%) การใช้ในปริมาณสูงอาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ผสมในน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C และ pH 4-6.5
- Marine Plankton (Lifting, Tightening) (2%): ให้ผลในการยกกระชับผิวทันทีและในระยะยาว 2% เป็นอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ ละลายได้ในน้ำที่ pH 3.5-6.5
- Salmon Roe Extract (5%): อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้น 5% เป็นอัตราที่แนะนำสำหรับผิวสูงวัย ผสมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C สูตรควรมีความหนืดเพื่อป้องกันการตกตะกอน
- Wakame Extract (Brown Sea Weed) (3%): สารสกัดจากสาหร่ายวากาเมะที่ผ่านการหมัก มีฤทธิ์ต่อต้านริ้วรอย ยกกระชับ 3% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-3%) ผสมในน้ำ (water-phase) หรือขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C และ pH 3-6
ส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ:
- Ectoine (2%): เป็นสารปกป้องและซ่อมแซมเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และป้องกันมลภาวะ 2% เป็นอัตราการใช้ที่แนะนำ มีความเสถียรสูงในช่วง pH กว้าง (1-9) และทนความร้อนได้ถึง 80°C
- Alpha Arbutin (Switzerland) (2%): สารปรับผิวให้กระจ่างใส ลดการสร้างเม็ดสี 2% เป็นอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำสำหรับการปรับผิวให้ขาว ผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30°C และ pH 3.5-6.5 หลีกเลี่ยง pH สูงกว่า 8 แนะนำให้ใช้ ActiveProtecTM OX เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสี
- Hyaluronic Acid (Small Molecule) (0.3%): ให้ความชุ่มชื้นลึกถึงผิว 0.3% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.1-0.5%) และเหมาะสมสำหรับผิวแห้ง (0.3-0.5%) ต้องใช้สารกันเสีย มีช่วง pH 3.0-9.0 และอุณหภูมิไม่ควรเกิน 70°C ระหว่างการผสม
- Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract) (1%): ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิว เสริมเกราะป้องกันผิว และปรับปรุงความชุ่มชื้นและสภาพผิว 1% เป็นอัตราการใช้ที่แนะนำ กระจายตัวในน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C และ pH 3.5-6.5
- Adenosine Liposome (3%): เป็นที่รู้จักในการลดริ้วรอยและช่วยสมานแผล นำส่งด้วยไลโปโซมเพื่อการซึมผ่านที่ดีขึ้น 3% เป็นอัตราการใช้ที่แนะนำ กระจายตัวในน้ำที่ pH 3.5-6.5 และเก็บในตู้เย็น
ความเข้ากันได้และข้อควรพิจารณาในการผลิต
การรวมส่วนผสมออกฤทธิ์เหล่านี้เข้าด้วยกันมีเป้าหมายเพื่อจัดการกับสัญญาณแห่งวัยและปัญหาผิวที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม รายการที่คุณให้มาเป็นเพียงส่วนผสมออกฤทธิ์และเปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมกันได้ 100% สูตรเครื่องสำอางที่สมบูรณ์ต้องมีเบส (โดยทั่วไปคือน้ำ) สารเพิ่มความหนืด สารอิมัลซิไฟเออร์ (ถ้าเป็นครีมหรือโลชั่น) และระบบสารกันเสีย
- pH และอุณหภูมิ: ส่วนผสมส่วนใหญ่เข้ากันได้ดีในช่วง pH ประมาณ 4.5-6.0 และต้องผสมที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C โดยเฉพาะ Alpha Arbutin ที่ต้องการอุณหภูมิต่ำกว่า 30°C Galactomyces Ferment Filtrate ที่มีเปอร์เซ็นต์สูง (pH 4-7) จะมีผลต่อ pH สุดท้ายของสูตร การปรับ pH อย่างระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมดมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ Copper Peptide (pH 4.5-7.4) และ Alpha Arbutin (pH 3.5-6.5, หลีกเลี่ยง >8) Wakame Extract (pH 3-6) ก็อยู่ในช่วงนี้เช่นกัน
- เนื้อสัมผัส: ความเข้มข้นสูงของส่วนผสมออกฤทธิ์ โดยเฉพาะ Galactomyces Ferment Filtrate และ Plankton Artemia Extract อาจทำให้เนื้อสัมผัสเหนียวเหนอะหนะหรืออาจรู้สึกมันเยิ้ม สูตรจะต้องมีสารเพิ่มความหนืดเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการและป้องกันการตกตะกอนของส่วนผสมบางชนิด เช่น Salmon Roe Extract
- สารกันเสีย: ระบบสารกันเสียที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบและมีสารสกัดทางชีวภาพ สารกันเสียที่เลือกต้องเข้ากันได้กับส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมดและ pH สุดท้ายของสูตร
- การซึมซาบ: พิจารณาเพิ่มสารช่วยนำพา (absorption enhancers) ดังที่แนะนำสำหรับ L-Carnosine หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการนำส่งเข้าสู่ผิว
- การทดสอบความเสถียร: เนื่องจากเป็นส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ซับซ้อน การทดสอบความเสถียรของสูตรสำเร็จรูปเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมยังคงมีประสิทธิภาพและผลิตภัณฑ์ยังคงคุณภาพภายใต้สภาวะต่างๆ ตลอดอายุการเก็บรักษา
สรุป
รายการส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เสนอนั้นมีศักยภาพและครอบคลุมประโยชน์ต่อผิวหลายด้าน เปอร์เซ็นต์ที่ระบุโดยทั่วไปอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด อย่างไรก็ตาม รายการนี้ไม่ใช่สูตรที่สมบูรณ์ คุณจะต้องเพิ่มเบสที่เหมาะสม สารเพิ่มความหนืด สารกันเสีย และอาจรวมถึงสารอื่นๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเสถียร มีประสิทธิภาพ และมีเนื้อสัมผัสที่น่าใช้
ความเข้ากันได้ของส่วนผสมออกฤทธิ์โดยทั่วไปดูดีในช่วง pH และอุณหภูมิที่กำหนด แต่การพัฒนาสูตรอย่างรอบคอบ การปรับ pH และการทดสอบความเสถียรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งก่อนการผลิต คุณอาจต้องปรับเบสหรือเพิ่มสารเพิ่มความหนืดเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการและป้องกันการแยกชั้นของส่วนผสม
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Hyaluronic Acid (Small Molecule)

Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)

Wakame Extract (Brown Sea Weed)

Rosa Hybrid Cell Extract (HybridCell™)

Adenosine Liposome

RETINAT™ (Starfish Extract)

Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract)

Plankton Artemia Extract

Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)

Marine Plankton (Lifting, Tightening)

L-Carnosine

Quick-Coll®

Salmon Roe Extract (Norway)
