วิเคราะห์สูตร: ประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์ความเข้มข้นต่ำ

ถามโดย: ukimura.an เมื่อ: January 11, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนช่วยวิเคราะห์สูตรให้หน่อยค่ะ

หากใส่ปริมาณสารตามที่กล่าวข้างล่างนี้ ต้องใช้ระยะเวลาเห็นผลสักระยะหนึ่ง ใช่หรือเปล่าคะ? (พอดีงบค่อนข้างน้อยน่ะค่ะ เนื่องจากใส่ปริมาณน้อย)

สารตามข้างล่างอันไหนที่จะไม่ออกฤทธิบ้างคะ?

ควรปรับอะไรเพิ่มหรือไม่คะ?

ส่วนผสมในสูตร:

  • Repair Activator 0.5% (ซ่อมแซม DNA ของผิว เมื่อถูกแสง UVA ทำลาย)
  • Azelaic Acid 5% (รักษาฝ้า รอยดำ ให้ผิวขาวใส ลดสิวอุดตัน ควบคุมการสร้างน้ำมันของรูขุมขน)
  • Licorice Extract 1% (ลดการอักเสบของผิว ลดการระคายเคือง ลดรอยแดงจากสิว ลดการเกิดสิว ควบคุมความมันบนใบหน้า)
  • Aloe Vera Extract 1% (ลดการแพ้ระคายเคือง โดยเฉพาะผิวไหม้เกรียมของแดด ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิว)
  • Vitamin B3 5% (ลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดงดำจากสิว เพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ ทำให้ผิวแข็งแรง)
  • Tranexamic Acid 1% (ให้ผิวขาว ลดการก่อตัวของเมลานิน แก้ไขปัญหาฝ้า)
  • Acetyl L-Carnitine 0.5% ( ชนิดน้ำ ) (ปรับความชุ่มชื้นของผิวให้สมดุลย์)
  • Methylsulfonylmethane MSM 1% (ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ช่วยสมานแผล รักษารอยแผลเป็น ควบคุมความมัน ลดการผลิตต่อมไขมัน)
  • Phenoxyethanol 1%
  • Pro Polymer 2%
  • Purified Water 82%

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตรและประสิทธิภาพของส่วนผสม

จากการวิเคราะห์สูตรที่คุณให้มา นี่คือการประเมินประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์แต่ละชนิดตามความเข้มข้นที่ระบุ:

  • Repair Activator 0.5%: โดยทั่วไปแล้ว อัตราการใช้ Repair Activator ที่แนะนำคือ 5-100% ที่ความเข้มข้น 0.5% ถือว่าต่ำกว่าปริมาณที่แนะนำมาก จึงไม่น่าจะให้ประโยชน์ในการซ่อมแซม DNA ได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • Azelaic Acid 5%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (5-10%) สำหรับคุณสมบัติในการลดจุดด่างดำ ฝ้า และควบคุมความมัน แม้ว่า 5% จะให้ผลได้ แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ 10% เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความกระจ่างใสและฝ้า คุณน่าจะเห็นผลบ้าง แต่อาจใช้เวลานานกว่า
  • Licorice Extract 1%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-3%) สำหรับการลดการอักเสบ การระคายเคือง รอยแดงจากสิว และควบคุมความมัน โดยเฉพาะสำหรับชนิด Licochalcone A ซึ่งน่าจะให้ผลตามที่คุณสมบัติระบุไว้
  • Aloe Vera Extract 1%: ความเข้มข้นนี้อยู่ที่ระดับต่ำสุดของช่วงที่แนะนำ (1-10%) จะช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้บ้าง แต่ความเข้มข้นที่สูงกว่าจะให้ผลที่ชัดเจนกว่า
  • Vitamin B3 5%: นี่คือความเข้มข้นมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสำหรับ Vitamin B3 (Niacinamide) ซึ่งจะช่วยในเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิว และควบคุมความมันได้
  • Tranexamic Acid 1%: อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับการปรับสีผิวให้กระจ่างใสในเครื่องสำอางคือ 3% (อย. อนุญาตไม่เกิน 3% สำหรับเครื่องสำอาง หากเกิน 5% ต้องจดทะเบียนเป็นยา) ที่ความเข้มข้น 1% ผลในการลดเม็ดสีและฝ้าอาจไม่ชัดเจนเท่าที่ควรและใช้เวลานานกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ที่ 3%
  • Acetyl L-Carnitine 0.5%: อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ L-Carnitine เพื่อประโยชน์ต่อผิว (ปรับสมดุลความชุ่มชื้น ผลัดเซลล์ผิว ลดความมัน) คือ 1-5% ที่ความเข้มข้น 0.5% ถือว่าต่ำเกินไปที่จะให้ประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ
  • Methylsulfonylmethane MSM 1%: อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ MSM คือ 1-5% (3% สำหรับควบคุมความมัน, 5% สำหรับผลัดเซลล์ผิว) ที่ความเข้มข้น 1% อาจช่วยควบคุมความมันได้บ้างเล็กน้อย แต่ไม่น่าจะให้ผลที่ชัดเจนในเรื่องการสังเคราะห์คอลลาเจนหรือการสมานแผลเมื่อเทียบกับความเข้มข้นที่สูงกว่า
  • Phenoxyethanol 1%: นี่คือความเข้มข้นมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสำหรับสารกันเสีย
  • Pro Polymer 2%: ปริมาณนี้เหมาะสมสำหรับสารสร้างเนื้อเจล/ฟิล์ม ขึ้นอยู่กับชนิดของโพลิเมอร์และเนื้อสัมผัสที่ต้องการ

สรุปประสิทธิภาพและการปรับปรุงที่แนะนำ:

จากความเข้มข้นที่ใช้ คุณน่าจะเห็นผลจาก Azelaic Acid, Licorice Extract และ Vitamin B3 ได้ แม้ว่าผลลัพธ์จาก Azelaic Acid และ Tranexamic Acid อาจจะช้าลงหรือไม่เข้มข้นเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับระดับที่แนะนำให้ใช้สูงกว่านี้ ส่วนผสมอย่าง Repair Activator, Acetyl L-Carnitine และ MSM มีความเข้มข้นต่ำเกินไปและไม่น่าจะให้ประโยชน์ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน

การเห็นผลจากสูตรนี้อาจต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากความเข้มข้นของส่วนผสมออกฤทธิ์หลักหลายชนิดค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากงบประมาณจำกัดไม่ให้เพิ่มปริมาณ หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและอาจเห็นผลเร็วขึ้น ควรพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของ:

  • Repair Activator (ตั้งเป้าที่ 5% หรือสูงกว่า)
  • Tranexamic Acid (ตั้งเป้าที่ 3%)
  • Acetyl L-Carnitine (ตั้งเป้าที่ 1-3%)
  • MSM (ตั้งเป้าที่ 3% สำหรับควบคุมความมัน)

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มความเข้มข้นจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นด้วย คุณอาจต้องจัดลำดับความสำคัญว่าคุณสมบัติใดสำคัญที่สุดสำหรับคุณ และปรับปริมาณส่วนผสมเหล่านั้นตามงบประมาณที่มี สูตรปัจจุบันไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตราย แต่ส่วนผสมบางชนิดอาจไม่ได้ให้ประโยชน์ตามที่ตั้งใจไว้ที่ความเข้มข้นระดับนี้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
เครื่องสำอาง
Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)
Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง
Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
เครื่องสำอาง